การเสียกรุงครั้งแรก เพราะออกญาจักรี เป็นใส้ศึก
คนไทยขายชาติยุคนั้น แต่ยุคนี้มีครไทยขายชาติมากกว่าเพราะเป็นยุคโซเชียลเนตเวิร์ค ยุคใช้อินเทอเน็ตไม่ได้ใช้ดาบใช้ขอ
คนขายชาติ คนล้มสถาบันด้วยการสมคบคิดกับต่างชาติจะมีอนาคตไม่ต่างไปจาก “ออกญาจักรี” ผู้ทรยศต่อแผ่นดินจนเป็นเหตุให้กรุงศรีอยุธยาต้องเสียแก่พม่าในครั้งแรก
เพื่อเป็นการรื้อฟื้นและเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบความเป็นมาว่า “ออกญาจักรี” คือใครและมีความสำคัญอย่างไร ถึงถูกนำมาเปรียบกับคนขายชาติ
ปีพ.ศ. 2112 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา โดย “บุเรงนอง” ใช้กลยุทธ์ให้ไทยแตกเป็น 2 ฝ่าย จึงส่ง “พระมหาธรรมราชา” มาเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ แต่ถูกทหารไทยเอาปืนไล่ยิงจนต้องหนีกลับไป
แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของพระเจ้าหงสาวดีจึงคิดอุบายจะใช้ “พระยาจักรี” หรือ “ออกญาจักรี” ที่จับตัวได้ตอนสงครามช้างเผือกเป็นไส้ศึก โดยวางแผนจำคุก “พระยาจักรี” แล้วแกล้งปล่อยให้หนีโดยมีเครื่องพันธนาการมาด้วย
“สมเด็จพระมหินทราธิราช” จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาการรบ “พระยาจักรี” จึงย้ายแม่ทัพที่รบเก่งไปไว้ในตำแหน่งที่ไม่สำคัญ ทำให้การป้องกันพระนครอ่อนแอ
เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันควรจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาทุกด้าน ในที่สุดไทยจึงเสียกรุงแก่พม่าเพราะมีไส้ศึกคนขายชาติ
ตามพงศาวดารระบุว่า “พระยาจักรี” นั้น “พระเจ้าบุเรงนอง” เลี้ยง “พระยาจักรี” ไว้ไม่นานก็หาความผิดเพื่อประหารชีวิต เพราะแม้แต่แผ่นดินเกิดยังกล้าทรยศ
เรื่องราวโดยย่อของการเสียกรุงและจุดจบของผู้คิดคดทรยศต่อชาติ
ถ้าใครเห็นแก่ประโยชน์ของชาติตามที่เคยพูด ขอให้หยุดการกระทำที่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันเบื้องสูงและประเทศชาติเสีย
ไม่เช่นนั้นจะมีจุดจบเหมือนออกญาจักรีในหนังเรื่องสมเด็จพระนเรศวรที่เป็นไส้ศึกเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาจนแตก
ทำให้ประเทศไทยเสียเอกราชครั้งแรก แต่สุดท้ายก็ถูกบุเรงนองสั่งให้ถ่วงน้ำตายไปพร้อมกับสมบัติ เนื่องจากรักสมบัติมากกว่าแผ่นดินของตัวเอง
#จบค่ะ