เรื่องเล่าจากบัยเตียไสร(บันทายสรี)
เรื่องเล่าจากบัยเตียไสร(บันทายสรี)
ครั้งบรรพกาล พระวิษณุ อวตารลงมาเกิดเป็นสัตว์ที่มีลักษณะครึ่งคนครึ่งสิงห์ หรือที่เรียกว่า นรสิงห์ เพราะต้องการที่จะปราบยักษ์หิรัณยกศิปุ ที่อาละวาดไปทั่วทั้ง 3 โลก ได้แก่ โลกสวรรค์ โลกบาดาล และโลกมนุษย์ เนื่องจากเจ้ายักษ์หิรัณยกศิปุนั้นได้รับพรมาจากพระพรหมว่า ไม่มีใครมนุษย์ สัตว์ เทวดา ยักษ์หรือผู้ใดฆ่าให้ตายได้ ไม่มีอาวุธชนิดใดฆ่าให้ตายได้ ไม่ตายในเวลากลางวันและกลางคืน ไม่ตายในบ้านและนอกบ้าน ไม่ตายบนพื้นดิน พื้นน้ำและอากาศ ดังนั้นพระนารายณ์จึงได้อวตารเป็นนรสิงห์ เพื่อจะฆ่ายักษ์ตนนี้
“เมื่อพระวิษณุอวตาลเป็นนรสิงห์ เพื่อปราบยักษ์หิรัณยกศิปุ ซึ่งฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย จึงรู้ว่าเจ้ายักษ์ตนนี้ได้รับพรวิเศษจากพระพรหม จึงได้จับยักษ์หิรัณยกศิปุมาวางพาดตรงขื่อธรณีประตูบ้าน ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาโพล้เพล้ แล้วถามเจ้ายักษ์ว่า “เราเป็นมนุษย์ใช่มั๊ย เป็นเทวดาใช่มั๊ย เป็นยักษ์ใช่มั๊ย เป็นสัตว์ใช่มั๊ย” ซึ่งเจ้ายักษ์ก็ตอบไม่ได้ แล้วก็ถามต่อว่า “เวลานี้กลางวันหรือกลางคืน” ยักษ์ก็ตอบไม่ได้เช่นกัน แล้วก็ถามต่อว่า “ตอนนี้ตัวท่านอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน” ยักษ์ก็ตอบไม่ได้อีก
จากนั้นก็ถามว่า “เล็บมือเราเป็นศาสตราวุธหรือไม่” เจ้ายักษ์ก็ตอบว่า ”ไม่” เจ้านรสิงห์ก็เลยเอากรงเล็บฉีกอกยักษ์หิรัณยกศิปุจนตาย เพราะว่าพรของพระพรหมที่ให้ไว้เสื่อมครับ ชึ้งก็เป็นปฐมเหตุของความเชื่อเรื่องการห้ามนอนก่อนพระอาทิตย์ตกดินและห้ามเหยียบธรณีประตู ความเชื่อนี้มีมายาวนานเกือบ3000ปีนับตั้งแต่ฤาษีวาลมิกิรจนาเรื่องราวต่างๆขึ้นมา
Cr.fb พระเจ้าชัยวรมันที่ 7
https://www.facebook.com/พระเจ้าชัยวรมันที่-7-143633482399258/