หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ใจเจ๊ก บทที่ 5

เนื้อหาโดย dejaboo

ลิงค์บทที่ 4 https://board.postjung.com/989802.html

นวนิยาย “ใจเจ๊ก”

โดย เดชา เวชชพิพัฒน์

บทที่ 5

“ม็อบตอนปี 51 มีที่มาที่ไปอย่างไรคะพี่พจน์”

ลำดวนถามน้องเขยหลังถวายจังหันเสร็จแล้วทุกคนขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ เธอถามขณะรถเคลื่อนผ่านประตูวัดได้ไม่นาน เพราะข่าวการเสียชีวิตของคนที่ “โชเฟอร์” รู้จัก ทำให้การทำบุญเช้านี้ไม่สดใสเท่าที่ควร ตัวคนขับรถเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไป

ภูมิชัยไม่ถึงกับเสียใจอย่างยิ่ง เพราะคนที่เขาเรียกว่าไอ้ตี๋ไม่ได้เป็นญาติสนิทมิตรสหาย แต่ก็เต็มไปด้วยความงุนงงสงสัย ซึ่งแน่นอนว่าผู้ใหญ่ทั้งสามก็เป็นเช่นกัน การทำอัตวินิบาตกรรมของผู้อยู่ในวัยฉกรรจ์นั้น ทั้งน่าเสียดายและน่าติดใจ ลำดวนจึงถามตามนิสัยคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น

พจน์กำลังหันมองต้นคูนสองข้างทาง คำถามนี้ทำให้เขาหันมายิ้มบางๆให้พี่สะใภ้ก่อนกล่าว

“เรื่องมันเครียดนะครับ อยากฟังจริงๆเหรอ”

“อยากสิ” ลำดวนตอบทันที รู้สึกฉุนที่น้องเขยพูดเหมือนเธอเป็นเด็กสาวที่สนใจแต่เรื่องบันเทิงเริงใจ

“จะเครียดแค่ไหนก็ฟังได้ แก่แล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ” นวลกล่าวราวกับรู้ใจพี่สาว

“ผมก็อยากฟังครับ” ภูมิชัยกล่าวบ้าง เขาเคยเห็นข่าวการชุมนุมประท้วงการเมืองเมื่อหกปีที่แล้วบนหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ไม่ได้อ่านรายละเอียดเพราะไม่สนใจเรื่องประเภทนี้เท่าไร หากตอนนี้ เมื่อรู้ว่ามันเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนที่เขารู้จัก ความสนใจจึงมีขึ้นมาเล็กน้อย 

พจน์พยักหน้าช้าๆ หันไปมองตรงหน้าก่อนกล่าว “ขอพูดรวมๆก่อนว่าม็อบเมื่อหกปีที่แล้วเป็นม็อบต่อต้านนายกฯรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของอดีตนายกฯหน้าเหลี่ยม”

ผู้ฟังสามคนคนพยักหน้าพร้อมกัน ภูมิชัยถามเสียงกระตือรือร้น “คนตัวดำๆ จมูกใหญ่ๆ พูดจาเสียงดังฟังชัด เคยเป็นผู้ว่า กทม. ที่ตายไปหลายปีแล้วใช่ไหมครับ”

พจน์ตอบทันที “คนที่ตายก็โดนม็อบไล่เหมือนกัน ปีเดียวกัน แต่โดนไล่ก่อน ไล่ไม่ไปแต่ต้องไปเพราะดันทำกับข้าวออกรายการโทรทัศน์”

ทันทีที่พจน์กล่าวจบ ทุกคนก็พร้อมใจกันหัวเราะเสียงดังลั่นรถ บรรยากาศจึงสดใสขึ้น

นวลยื่นมือไปลูบไหล่สามีก่อนกล่าว “คนนี้นี่เอง นึกออกแล้ว ฉันยังเคยดูรายการของเขา ชอบมากๆเลย จริงๆแล้วเขาไม่น่าเป็นนายกฯ ทำอาหารออกทีวีน่ะดีแล้ว เหมาะกับเขาจะตาย ดูสนุก พูดจาถึงลูกถึงคนดี ลองทำตามก็แสนอร่อย”

ภูมิชัยบีบแตรเบาๆเป็นการเตือนเมื่อเห็นชาวบ้านจูงวัวอยู่ข้างทาง เขาลดความเร็วรถก่อนกล่าวอย่างพอจำได้เพราะเป็นข่าวพาดหัว “ถ้าเช่นนั้นเพื่อนผมคงหมายถึงม็อบที่ไล่นายกฯคนที่เป็นน้องเขยของอดีตนายกฯหน้าเหลี่ยมใช่ไหมครับ”

พจน์พยักหน้า “ใช่แล้ว สรุปว่าปีนั้นปีเดียวเรามีนายกฯสองคนเชียวนะ ลุงว่าม็อบที่หลานสาวคนนั้นพูดถึงน่าจะเป็นม็อบที่ประท้วงกันหน้ารัฐสภาเชียวล่ะ ประท้วงไม่ยอมให้มีการประชุมสภา”

“ทำไมต้องประท้วงกันด้วยนะฉันไม่เข้าใจจริงๆ” ลำดวนกล่าวปนบ่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายราวกับพูดถึงวัยรุ่นที่ยกพวกตีกันเพียงเพราะไม่ถูกชะตา

พจน์เม้มปากก่อนกล่าวต่อ “เท่าที่จำได้มันมีเหตุผลเยอะมาก นายกฯคนนี้เข้ามาทำงานได้ไม่นานก็ย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษออกไปแล้วเอาคนของตนเข้ามาแทน ที่ย้ายเพราะอธิบดีคนนี้กำลังทำคดีเอาผิดอดีตนายกฯหน้าเหลี่ยมและครอบครัว”

ผู้ฟังสามคนพยักหน้าพร้อมกันอีกครั้ง

“แบบนี้ก็ไม่ถูกสิครับ” ภูมิชัยกล่าวทันที

“ก็ไม่ถูกน่ะสิ แค่นี้ยังไม่พอ ใช้อำนาจย้ายโน่นย้ายนี่เต็มไปหมด ย้ายผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่สำคัญคือจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยุบหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอีกด้วย”

ภูมิชัยหันมองพจน์ด้วยสายตาชื่นชม “คุณลุงจำแม่นจัง”

พจน์ยิ้มรับคำชมก่อนกล่าว “เป็นเพราะลุงจำด้วยใจ ไม่ใช่ท่องจำ”

นวลกับลำดวนได้ยินแล้วหันมองหน้ากันทันที คนเป็นพี่สะใภ้ยิ้มอย่างเห็นขัน คนเป็นภรรยาทำท่าพยักพเยิด ทำนองว่าปล่อยให้เขาโม้ต่อไป ในขณะที่ภูมิชัยขมวดคิ้วก่อนถาม

“เป็นอย่างไรครับ จำด้วยใจ”

“จำเพราะสนใจเป็นอย่างยิ่งไงหลานชาย สนใจเพราะเป็นเรื่องของบ้านเมืองเรา เรื่องของปากท้องและอนาคตของลูกหลานเราทั้งนั้น”

“แต่ฉันว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวไปหน่อยนะ” นวลกล่าวขัดสามี ใจหนึ่งก็เห็นด้วย แต่อีกใจก็เกรงคู่ชีวิตตนจะถูกมองว่าคิดอะไรเกินเลย

“ผมว่าไม่ไกลตัวนะครับ”

ภูมิชัยไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้เขาหลุดปากออกไปเช่นนั้น แต่เมื่อรู้ตัวว่าเสียมารยาทกับผู้ใหญ่ก็รีบดูที่กระจกมองหลัง สบตากับนวลแล้วจึงกล่าวเสียงอ่อน “ขอโทษครับน้านวล”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ หลานชายเจอคนคุยถูกคอละสิ” นวลกล่าวยิ้มๆ

พจน์รอจนภรรยากล่าวจบจึงต่อ “จะว่าไปไม่เกินเลยหรอก เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่เบาเลยเชียวล่ะ ช่วงนั้นมีการรวมตัวของคนเสื้อแดงที่หน้าบ้านพักประธานองคมนตรีด้วย แถมพูดจาด่าทออย่างหยาบคาย จำได้ว่ามีการจาบจ้วงสถาบันด้วย แบบนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว”

ลำดวนถอนใจก่อนกล่าว “อันนี้ฉันก็ไม่เห็นด้วย ไอ้พวกไม่รู้ที่ต่ำที่สูง”

“คนไทยส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้ คนกรุงเทพฯก็เหมือนกัน เขาจึงไม่ยอมไง ตอนนั้นฉันก็แอบไปร่วมม็อบด้วยนะ” พจน์กล่าวแล้วหันไปสบตาภรรยา พูดเสียงอ้อน “สารภาพผิดกับนวลตอนนี้เลย จำได้ไหมที่บอกว่าไปงานศพเพื่อนที่อยู่จังหวัดในภาคเหนือ จริงๆแล้วไม่ใช่หรอก ฉันไปร่วมม็อบในกรุงเทพฯ”

นวลเอื้อมมือไปหยิกต้นแขนสามีเบาๆ “นึกว่าไม่รู้เหรอ รู้ทันจ้ะพ่อตัวดี แต่รู้ว่าห้ามไปก็จะมีปากเสียงกันเปล่าๆ ฉันไม่อยากถูกด่าว่าเป็นพวกไทยเฉย พวกไม่รักชาติรักแผ่นดิน ก็เลยแกล้งทำหูไปนาเอาตาไปไร่”

ลำดวนฟังแล้วปิดปากหัวเราะชอบใจ ภูมิชัยเองก็ยิ้มอย่างเอ็นดูลุงพจน์กับน้านวลก่อนถาม “แล้วเป็นอย่างไรต่อครับ”

พจน์ทำท่าลูบต้นแขนราวกับเจ็บแทบขาดใจเพื่อรับมุกภรรยาก่อนกล่าว “จากนั้นกลุ่มผู้ประท้วงหรือกลุ่มพันธมิตรก็ยึดทำเนียบรัฐบาลเพื่อไม่ให้นายกฯ ทำงานได้ แต่จะทำกับข้าวได้หรือเปล่าอันนี้ลุงก็ไม่รู้”

เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง

“บ้าเหรอ ใครจะมีใจทำกับข้าวอีก ที่ทำงานโดนยึดไปซะอย่างนั้น” ลำดวนกล่าวไปหัวเราะไป

พจน์ยิ้มอย่างพอใจที่มุกของตนได้ผลก่อนกล่าวต่อ “ช่วงนั้นลุงเห็นมากับตาเลยว่ากรุงเทพฯ สนุกแค่ไหน เพราะพันธมิตรใช้กลยุทธ์ดาวกระจาย แบ่งผู้ประท้วงเป็นกลุ่มๆแล้วเดินขบวนไปที่ต่างๆ ไปกระทรวงต่างประเทศ ไปสถานทูตอังกฤษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วก็ไปแจกใบปลิวที่หน้าห้างใหญ่”

“ที่ถูกเผาใช่ไหมครับ” ภูมิชัยรีบบอก

“นั่นแหละ”

“แล้วลุงไปไหนบ้างครับ”

“ลุงอยู่แต่ในทำเนียบแหละ จ้างให้ก็ไม่ไปไหนหรอก อยากอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ที่ทำงานนายกรัฐมนตรีเชียวนะ”

เสียงหัวเราะพร้อมกันดังขึ้นอีกครั้ง

“จำได้ว่าตอนนั้นยึดสนามบินด้วยใช่ไหมครับ ลุงน่าจะไปนอนที่สนามบิน” ภูมิชัยกล่าวยิ้มๆ

“โอ๊ย ไม่เอาด้วยหรอก หนาวตายเลย นอนที่ทำเนียบแหละดีแล้ว ลมเย็นๆเห็นตึกสวยๆ”

“ลุงอยู่นานไหมครับ”

“อยู่จนคนแรกถูกศาลสั่งให้พ้นตำแหน่งก็กลับบ้าน คิดว่าเรื่องมันคงจบ แต่ที่ไหนได้ กลับถึงบ้านได้ไม่กี่วันพวกเขาก็ดันน้องเขยของอดีตนายกฯหน้าเหลี่ยมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี บ้านเมืองเลยยิ่งวุ่นเข้าไปใหญ่ เพราะคนใหม่จะทำตามอย่างคนเก่าอย่างเต็มร้อย”

“ต๊าย ไปนานเหมือนกันนะนั่น แล้วเธอไม่ว่าอะไรเลยเหรอ” ลำดวนถามน้องสาว

นวลยิ้มบางๆก่อนตอบ “ฉันจะว่าอะไรได้ เขาโทรมาบอกว่างานศพเสร็จสิ้นพิธีแล้ว แต่เพื่อนขอให้อยู่ต่อ ลูกของเพื่อนอาสาพาตระเวนไหว้พระวัดในภาคเหนือ ระหว่างนั้นเขายังโทรมาบอกอีกว่าตอนนี้อยู่วัดโน้นบ้าง วัดนี้บ้าง พูดอะไรมาฉันแกล้งเชื่อหมดแหละ รู้อยู่แก่ใจว่าพ่อเจ้าประคุณไปร่วมประท้วงกับคนกรุงเทพฯ ลุ้นอยู่ว่าให้ถูกตำรวจยิงตาย จะได้รับมรดกเสียที”

เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง

พจน์หันไปยิ้มให้ภรรยา “เสียใจด้วยนะจ๊ะ หนังเหนียวจ้ะ”

“ก็ลุงเล่นนอนอยู่แต่ในทำเนียบนี่ครับ” ภูมิชัยกล่าวยิ้มๆ

พจน์ทำตาโต “นอนในทำเนียบก็เสี่ยงไม่เบานะ พวกหนุ่มๆแบ่งเวรกันเฝ้าตลอดคืนเชียวละ กลัวพวกเสื้อแดงจะลอบเข้ามาทำร้าย ก่อนหน้านั้นก็ปะทะกันจนมีคนตาย ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ คนไทยด้วยกันแท้ๆ แต่ต้องมาฆ่ากันเอง”

ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบทันที

“แล้วม็อบที่หลานสาวคนนั้นพูดถึงเกิดเมื่อไรล่ะ พี่พจน์” ลำดวนถาม

พจน์เกาคางก่อนตอบ “จำได้ว่านายกฯคนที่สองแต่งตั้งตอนเดือนกันยายน พอต้นเดือนตุลาคมก็มีการสลายม็อบที่หน้ารัฐสภา ตอนนั้นดูข่าวอยู่ที่บ้าน เห็นตำรวจแต่งชุดครบครันถือเกราะถืออาวุธแล้วแทบคลั่งตาย อยากไปร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องชาวม็อบ ฝ่ายตำรวจบอกว่ายิงแก๊สน้ำตาอย่างเดียว แต่ดันมีคนขาขาดและคนตายสองคน เป็นเด็กสาวหนึ่งคน บาดเจ็บหลายร้อยคน ผู้เชี่ยวชาญฟันธงเลยว่างานนี้มีการใช้ระเบิด”

ภูมิชัยขมวดคิ้วก่อนกล่าว “ผมจำได้ว่าดูข่าวนี้ในทีวี เหมือนดูหนังสงครามเลยครับ”

“เหมือนอย่างไรล่ะหลานชาย” พจน์ถามยิ้มๆ 

ภูมิชัยนึกครู่เดียวก็กล่าวออกมาเป็นฉากๆ “ผมเห็นควันคลุ้งเต็มถนน ได้ยินเสียงดังปังหลายครั้ง คงเป็นเสียงปืนเสียงระเบิดอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญว่านั่นแหละครับ เห็นตำรวจถือเกราะที่เป็นพลาสติกใสๆ เห็นประชาชนที่ดูรูปร่างหน้าตาอย่างไรก็ไม่เหมือนคนร้าย พวกเขาไม่น่าโดนกระทำแบบนั้น เจตนาดีแท้ๆ”

พจน์หันมองภูมิชัย กวาดตาลงจึงมองมือของภูมิชัยที่จับพวงมาลัยรถสั่นเล็กน้อย เขาหันกลับไปมองตรงแล้วยิ้มบางๆอย่างพอใจ

“แล้วเรื่องจบอย่างไรล่ะพี่” ลำดวนถาม

“พอถึงต้นเดือนธันวาคมศาลก็สั่งยุบพรรคการเมืองนี้และพรรคร่วมรัฐบาล”

“อ๋อ ผมจำได้แล้ว ไม่นานก็มีเลือกตั้งใหม่ ได้รัฐบาลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเสื้อแดง จนนำไปสู่การเผาบ้านเผาเมือง” ภูมิชัยกล่าวตามที่นึกได้

พจน์พยักหน้าช้าๆ “ถึงตอนนี้ก็ยังไม่จบ เลือกตั้งใหม่ได้นายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิง บริหารงานได้สองปีก็มีแต่ปัญหา จน ส.ส.อาวุโสท่านหนึ่งที่อยู่พรรคฝ่ายค้านทนไม่ไหว ลาออกมานำม็อบต่อต้านรัฐบาลด้วยตนเองเลย”

“ทำไมครั้งนี้ไม่ไปอีกล่ะ” นวลถามสามี

พจน์ตอบยิ้มๆ “ว่าจะไปอยู่เหมือนกัน”

ภูมิชัยถามทันทีที่นึกได้ เขาเห็นข่าวนี้ในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ “ม็อบที่รวมตัวกันตรงสถานีรถไฟใช่ไหมครับ”

พจน์พยักหน้า นวลแสดงความคิดเห็น “ไปประท้วงเขาทำไมก็ไม่รู้ ฉันว่านายกฯคนนี้สวยสง่าดีออก นางเอกละครบางคนยังสู้ไม่ได้ ท่าทางก็ไม่เหมือนนายกฯคนก่อนๆด้วย ดูจริงใจดีนะ จำได้ว่าเขาบอกแล้วไม่ใช่หรือ แก้ไขไม่แก้แค้นอะไรนั่นน่ะ”

พจน์เผลอตัวถอนใจออกมาดังๆ แถมกล่าวเสียงเข้ม “เฮ้อ แล้วเขาทำอย่างที่พูดไหมล่ะ เธอไม่ได้ตามข่าวอย่างละเอียดก็อย่าแสดงความเห็นดีกว่า อายเขา”

นวลถูกสามีดุจึงค้อนหนึ่งวงแต่ไม่ต่อปากต่อคำ พจน์ดูกระจกมองหลังเห็นเช่นนั้นจึงหันไปถามภูมิชัย

“หลานชายรู้ไหมว่าเขาไม่ทำตามที่พูดอย่างไร”

ภูมิชัยเกาหัวแกรกๆก่อนกล่าวอย่างไม่มั่นใจ “ดูเหมือนว่า เอ่อ เขาพยายามทำให้พี่ชายกลับมาได้ใช่ไหมครับ กลับมาอย่างเท่ๆอะไรทำนองนั้น”

พจน์พยักหน้า “ใช่ แก้กฎหมายให้พี่ชายกลับมาอย่างไม่มีความผิด แถมประเทศเรายังต้องคืนเงินที่รัฐบาลยึดไปอีกหลายหมื่นล้านให้เขา พร้อมดอกเบี้ยอีกด้วยนะ มันน่าไหมล่ะ”

“ต๊าย เป็นเงินเท่าไรละนั่น” ลำดวนกล่าวเสียงดัง

“รวมๆแล้วก็หลายหมื่นล้าน จะยอมได้อย่างไร นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีกเยอะ เรื่องจำนำข้าว เรื่องนโยบายรถคันแรก เรื่องแท็บเล็ตที่แจกให้เด็กนักเรียน”

นวลฟังแล้วปวดหัว อีกทั้งเกรงว่าสามีจะพูดเรื่องการเมืองจนทำให้ทุกคนเครียด จึงเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามความเห็นของสามี “แล้วที่เพื่อนหลานภูมิบอกว่าน้องชายเขาฆ่าตัวตายเพราะความเครียด พี่ว่าเป็นไปได้เชียวหรือ”

พจน์พยักหน้า “เป็นไปได้สิ เธอไม่ได้ร่วมม็อบเธอไม่รู้หรอก คนในม็อบเขารักกันมากนะ เพราะร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน เมื่อมีใครตายก็ต้องเสียใจเป็นอย่างยิ่ง”

“แต่ไม่น่าถึงขนาดฆ่าตัวตายนะพี่พจน์” ลำดวนกล่าว

“เขาคงเครียดมากๆเลยเชียวล่ะ”

“เครียดเรื่องอะไรคะ” ลำดวนถามต่อ

“เครียดเพราะเพื่อนร่วมม็อบเขาตายเพราะถูกตำรวจใช้อาวุธสงครามไง เธอลองคิดดูสิ ตำรวจเป็นคนไทย กินเงินเดือนประเทศไทย แต่ดันฆ่าคนไทยด้วยกัน เป็นคนไทยที่มาชุมนุมกันเพื่อปกป้องชาติแท้ๆ มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ ไม่ต้องถามถึงน้องชายของเพื่อนภูมิหรอก ช่วงนั้นตัวฉันเองยังเครียดจนแทบบ้าตายเลย”

          คำตอบของพจน์ทำให้บรรยากาศในรถเงียบงันอีกครั้ง

เนื้อหาโดย: dejaboo
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dejaboo's profile


โพสท์โดย: dejaboo
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นิวเคลียร์ เปิดภาพ หน้าใหม่ หลังดึงหน้า-ยกคิ้ว หน้าเด็กลงขับรถตกสะพาน ขณะใช้ Google Maps นำทาง เสียชีวิต 3 ราย (มีคลิป)ปิดตำนานไร่ชื่อดังที่วังน้ำเขียว ลานกางเต็นท์ยอดนิยมได้ประกาศหยุดดำเนินการแล้วเปิดเผยพฤติกรรมของดาว พี่สาวของเมียทนายตั้ม ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการฟอกเงินและฉ้อโกงเงินจำนวน 39 ล้านจากเจ๊อ้อยหนุ่มคนใหม่ทายาทหมื่นล้าน "พอลล่า เทเลอร์" กับ "เต้ บรม" ไฮโซจิราธิวัฒน์รักนี้น่าจับตารวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567วิมานหนาม 100 ไร่! เสี่ยเจ้าของสวนทุเรียนวิวาห์เจ้าสาวกะเหรี่ยงLGBTQ+กัน จอมพลัง ไม่ทอดทิ้ง! เร่งเข้าช่วย อินฟลูเอนเซอร์ มอสเจีย หลังจากที่พี่เลี้ยงชาวพม่าทำให้ลูกเกิดอุบัติเหตุ นอนรักษาตัวในห้อง ICUดูดวงการเงิน ราศีไหนจะมีโชคลาภช่วงสิ้นปีนี้?เปิดอาชีพ แม่สามารถ เจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหว ในบัญชี 100 ล้านบาทต้องเตเผยสาเหตุจริงๆ ที่ต้องเลิกแฟนสาวเปิดตำนาน "ลิโป้" ขุนศึกผู้ห้าวหาญแห่งยุคสามก๊ก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ขับรถตกสะพาน ขณะใช้ Google Maps นำทาง เสียชีวิต 3 ราย (มีคลิป)ป้าติ๋ม เปิดใจเป็นครั้งแรก ยืนยันว่าไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับประเด็นการดับฝันมรดกแหม่ม 100 ล้านวิมานหนาม 100 ไร่! เสี่ยเจ้าของสวนทุเรียนวิวาห์เจ้าสาวกะเหรี่ยงLGBTQ+ต้องเตเผยสาเหตุจริงๆ ที่ต้องเลิกแฟนสาว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
เปิดตำนาน "ลิโป้" ขุนศึกผู้ห้าวหาญแห่งยุคสามก๊ก4 หัวใจแห่งขุนเขา กำเนิดซีรีย์ไทยชุดแรกของช่อง 3 แจ้งเกิดดาราแถวหน้าของวงการเปิดตำนาน "ยุทธหัตถี" วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเปิดตำนาน "กวนอู" เทพเจ้าแห่งสงคราม ผู้ซื่อสัตย์และเกรียงไกร
ตั้งกระทู้ใหม่