“เจ้ากรรมนายเวร” นั้นหมายถึง ผู้ที่ถูกเราละเมิด ล่วงเกิน ทำร้าย ทำลายไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ ก่อนไม่ว่าจะเป็นสรรพสัตว์ชนิดใด คนนั้นอยู่ในประเภทเดียวกับสัตว์ด้วย และผู้ที่ถูกทำร้าย ทำลาย เพราะการละเมิดนี้ทำให้เขามีจิตที่อาฆาตต่อเราและต้องการให้เราได้ชดใช้ผลกรรมที่เราเคยทำกับเขาไว้
รวมถึงตัวเราเองด้วยที่เป็นผู้ก่อกรรมนั้นขึ้นมา ซึ่งเราเองต้องรับผลกรรมที่เคยทำมา ดังเช่น คนที่เคยฆ่าตัวตายในภพก่อน ผลกรรมที่ทำแม้จะชีวิตตนเองก็ตาม อาจจะต้องเวียนว่ายฆ่าตัวตายหรือมีเหตุให้ตายก่อนวัยละสังขารจริง
หรือคนที่เคยดื่มเหล้า เมาเหล้า ค้าเหล้ามาในภพก่อน ผลกรรมที่เป็นเจ้ากรรมนายเวร อาจจะตามมา ทำให้ชาตินี้เป็นผู้มีสมองไม่ดี ปัญญาน้อย จำอะไรไม่ได้ หรือทำอะไรไม่ขึ้นเพราะขาดปัญญานำทาง เป็นต้น
ที่ใช้คำว่า "อาจจะ" เพราะ กรรมบางกรรมไม่ได้ส่งผลแบบเดียวกับที่ทำมา เช่น เคยเป็นทหารไปรบทัพจับศึก ไปเผาบ้านเผาที่นาทำมาหากินเขาเพื่อไม่ให้เป็นเสบียงของศัตรู ชาตินี้ก็จะมีปัญหากับแต่เรื่องที่อยู่อาศัย ร่อนเร่พเนจรไม่มีบ้านของตนเอง หรือมีบ้านแต่เกิดเหตุร้ายไฟไหม้หรือทำการค้าอะไรก็ไม่ขึ้น อยู่ดีๆ ก็น้ำท่วมสินค้าเสียหายไปทั้งหมด
หรือ เคยหักขากบ ชาตินี้อยู่ดีก็ล้มๆ ขาพับไปข้างหลังเดินไม่ได้เหมือนกบที่ถูกหักขาพับไว้ขาย หรือเคยใส่ความคนอื่นให้เขาเดือดร้อน อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
สรุป เจ้ากรรมนายเวรเกิดขึ้น เพราะการเวียนว่าย ตาย เกิดของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่ยังไม่พ้นทุกข์นี้ เราทุกคนนั้นต่างก็เคยเกิดและตายมีภพชาติมานับไม่ถ้วนในอดีต ต่างก็ได้ทำได้สร้างทั้งกรรมดีและไม่ดีเอาไว้แบบนับไม่ถ้วนในภพชาติทั้งหลายนั้น เจ้ากรรมนายเวรเกิดขึ้นเนื่องจากเราได้ละเมิด ล่วงเกิน ไปเบียดเบียนทำร้ายเขาไว้ก่อนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามแต่เกิดขึ้นผลร้ายต่อเขา
ครูบาอาจารย์ท่านแยกเจ้ากรรมนายเวรไว้มี 2 ประเภท คือ เจ้ากรรมนายเวรที่มองเห็น และเจ้ากรรมนายเวรที่มองไม่เห็น หรือ เจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิตและเจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิต
-ประเภทที่หนึ่ง เจ้ากรรมนายเวรที่มองเห็นหรือเจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต หมายถึง ผู้ที่เกิดอาศัย “ในภพภูมิเดียวกับเรา” เป็นผู้ที่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับเราได้ทางใดทางหนึ่ง อาจเป็นได้ทั้ง พ่อแม่บุพการีลูกหลาน ที่สร้างแต่ความทุกข์ใจและกายให้เกิดขึ้นกับเราโดยตลอด หรือ ญาติสนิทหรือไม่สนิท เพื่อนฝูงคนรู้จัก ผู้ร่วมงาน เพื่อนบ้าน คนที่เพิ่งรู้จัก หรือใครก็ตามที่คอยมาเบียดเบียนทำร้ายให้สูญเสียทั้งกาย วาจา ใจ ทรัพย์ ให้บาดเจ็บ ในลักษณะต่าง ๆ
หรืออาจเป็น สัตว์เดรัจฉานที่มีชีวิตที่เราเลี้ยง ทำให้เรามีทุกข์ ไปไหนไม่ได้ต้องเฝ้าเลี้ยงดู หรือเราไม่ได้เลี้ยงแต่เข้ามาทำร้ายเราให้ได้รับบาดเจ็บให้พิการหรือแม้กระทั่งถึงตาย ก็เป็นไปได้เช่นกัน
-ประเภทที่สอง เจ้ากรรมนายเวรที่มองไม่เห็นหรือเจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิต หมายถึง “เป็นผู้ที่อยู่ต่างภพภูมิกับเรา” หรืออมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์ เป็นสิ่งที่มองด้วยตาเนื้อไม่เห็น แต่ก็เป็นผู้ที่จะมาสร้างความเดือดร้อนให้เราได้ทางใดทางหนึ่ง ซึ่งวิธีการที่เขาจะก่อความเดือดร้อนให้เรานั้นอาจเป็นเรื่อง “เหนือวิสัย”ของจิตมนุษย์ธรรมดาจะรับรู้ได้ นอกจากผู้ปฏิบัติธรรมชั้นสูงดังที่ครูบาอาจารย์แห่งแผ่นดินธรรม ท่านเจอและเล่ามาโดยตลอดไม่ขาดสาย เพื่อเตือนสาธุชนทั้งหลาย
ซึ่งถ้าไม่สามารถทำกับเราโดยตรงได้ เขาอาจจะใช้วิธีดลจิตดลใจให้จิตเราตก พลั้งเผลอกระทำความชั่วให้ได้รับความลำบากแห่งผลกรรมชั่ว สร้างอุปสรรคใด ๆให้เกิดขึ้นอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเราได้แต่ก็เกิดขึ้น หรือบังตา บังความความคิด ไม่ให้เกิดปัญญา ไม่เห็นไม่ได้โชคลาภสิ่งที่ควรจะได้ หรือทำให้มีเหตุโชคลาภให้เลื่อนออกไป ฯลฯ
ลองนั่งนิ่งๆ คิดดูว่าเจ้ากรรมนายเวรทั้ง 2 แบบที่บอกมา เราเคยเจอในชีวิตหรือไม่ เรื่องเหล่านี้เป็น สิ่งที่เรารู้ด้วยตัวเราเอง
กรรมนั้นใครทำใครรับ แต่ถ้าใครรู้และเข้าใจเรื่องเจ้ากรรมนายเวรอย่างแท้จริง
ก็จะพบวิธีลดกรรม ปลดกรรม ป้องกัน ยับยั้ง และพลิกกรรมได้...