ยังมีบ้านอีก 238,591 หน่วยที่ยังจะสร้างเสร็จหลังปี 2559 แปลว่า?

เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีบ้านซึ่งได้แก่บ้านแนวราบและห้องชุดพักอาศัย กำลังก่อสร้างอยู่และจะแล้วเสร็จหลังปี 2559 คือในปี 2560-2562 ถึง 238,591 หน่วย นี่แปลว่าตลาดค่อนข้างเปราะบาง หากเกิดอะไรขึ้นมา อาจทำให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตพังได้
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้เปิดเผยผลการสำรวจสำคัญ ณ กลางปี 2559 ว่า ในจำนวนที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สำรวจนั้น มีอยู่รวมกัน 500,696 หน่วย แต่ส่วนมากสร้างมาก่อนปี 2559 และรวมถึงที่จะเสร็จสิ้นในปี 2559 อยู่ 262,105 หน่วย หรือราว 52% ของทั้งหมด ที่จะเสร็จหลังจากนั้นยังมีอีกถึง 238,591 หน่วย โดยที่อยู่อาศัยที่ยังสร้างไม่เสร็จในปี 2559 นี้ ส่วนมากยังรอคนซื้ออยู่
บ้าน (แนวราบและห้องชุด) ที่คาดว่าจะเสร็จในปี 2561 และ 2562 นั้นมี 85,886 หน่วย และ 36,398 หน่วย หรือรวมกันถึง 122,284 หน่วย บ้านเหล่านี้คงยังสร้างไม่ได้เท่าไหร่ เพราะที่สร้างเสร็จหรือใกล้เสร็จในปี 2559 และที่คาดว่าจะเสร็จในปี 2560 ยังถือว่ามีสัดส่วนที่สร้างไปแล้วมากเป็นพิเศษ หากเกิดวิกฤติใด ๆ ขึ้น ก็ยังอาจพยายามก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนได้ แต่จำนวน 122,284 หน่วยนี้ คงยังห่างไกลจากการสร้างเสร็จสมบูรณ์เป็นแน่ และหากเกิดความเสียหายขึ้น ก็คงเป็นเงินประมาณ 366,852 ล้านบาท หรือราว 13% ของงบประมาณแผ่นดินไทย ทั้งนี้โดยสมมติว่าหน่วยหนึ่งๆ มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ดร.โสภณ เชื่อว่าวิกฤติที่จะเกิดขึ้น คงยังไม่มาถึง แต่ถึงกระนั้น ทางราชการ ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน คงต้องตรวจสอบความคืบหน้าในการก่อสร้างโดยใกล้ชิด และมีการเบิกค่าก่อสร้างกันตามงวดงานก่อสร้างโดยเคร่งครัด นอกจากนี้การประกันความเสี่ยงในการดำเนินการ การแก้กฎหมายให้มีการบังคับการประกันเงินดาวน์ของลูกค้าผู้ซื้อบ้านอย่างถ้วนหน้า จึงเป็นมาตรการในการคุ้มครองวงการพัฒนาที่อยู่อาศัย และทำให้ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ทำให้ได้รับประโยชน์จากการนี้มากขึ้น
หากดูในรายละเอียดของฐานข้อมูลของศูนย์ฯ จะพบว่าห้องชุดยังมีที่ต้องสร้างให้เสร็จในปี 2560-2562 ถึง 100,574 หน่วยก็จริง แต่ที่สร้างเสร็จแล้วภายในปี 2559 ยังมีสูงถึง 58% ของทั้งหมด แสดงว่าภาวะยังไม่น่าเป็นห่วงนัก ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือทาวน์เฮาส์ เพราะสัดส่วนที่สร้างเสร็จก่อนปี 2560 หรือภายในปี 2559 มีเพียง 44% ส่วนมากยังไม่เสร็จ ต้องรอต่อไปถึงปี 2560-62 จึงถือได้ว่ามีความเปราะบางมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้บ้านแฝดก็อยู่ภาวะเดียวกัน แต่ที่น่าแปลกก็คือบ้านเดี่ยวเสร็จแล้ว 50% ที่เหลือกำลังรอการก่อสร้างอยู่
โดยสรุปแล้ว วิกฤติเศรษฐกิจแบบปี 2540 คงไม่เกิดขึ้น แต่หากผู้ประกอบการเฉพาะรายใด เกิดสะดุดขึ้น ก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่อทั้งตนเองและผู้บริโภคได้ รัฐบาล สถาบันการเงินและสมาคมพัฒนาที่ดินจึงควรติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ


