หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติของรองเท้าดังตอน 3 Bata (บาจา)

โพสท์โดย Donald trumps

หากพูดถึงรองเท้าแบรนด์ Bata แทบจะทุกคนก็ว่าได้ในประเทศไทยที่รู้จักแบรนด์รองเท้าแบรนด์นี้ เพราะถือว่าเป็นรองเท้าราคาเป็นมิตรกับคนทั่วไปและคุณภาพใช้ได้และเป็นขวัญใจใครหลายๆคนเป็นอย่างมากเนื่องด้วยหาซื้อง่ายมีร้านค้าอยู่แทบจะทุกห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ จนหลายๆคนเข้าใจว่ารองเท้า Bata นั้นเป็นรองเท้าที่มีเจ้าของเป็นคนไทยไปเสียแล้ว อีกเหตุผลที่ทำให้คิดไปอย่างนั้นก็เนื่องด้วยคำว่า Bata ที่ตามหลักภาษาอังกฤษของประเทศไทยนั้นอ่านออกเสียงว่า บาทา ซึ่งดันไปออกเสียงเป็นเสียงเดียวกับ บาทา ที่แปลว่าเท้าพอดิบพอดี

รองเท้า Bata หรือที่อ่านออกเสียงว่า บาจา ใครเคยสงสัยบ้างว่าทำไมไม่เรียกว่า บาทา วันนี้  จะพาคุณผู้อ่านที่เคารพไปไขข้อข้องใจไปพร้อมๆกัน เริ่มจากต้นกำเนิดของรองเท้าบาจานั้นย้อนไปเมื่อ 120 ปีก่อนที่ประเทศ Czechoslovakia (ปัจจุบันแยกประเทศออกเป็น สาธารณรัฐเช็กและประเทศสโลวาเกีย) ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1894 สามพี่น้องตระกูลBaťa  ได้แก่ Tomáš Baťa , Antonín และ Anna ได้ก่อตั้งโรงงานทำรองเท้าขึ้นที่เมือง Zlín ประเทศ Czechoslovakia ปัจจุบันเมืองนี้อยู่ในพื้นที่ของประเทศ สาธารณรัฐเช็ก โดยให้ชื่อว่า T. & A. Baťa Shoe Company โรงงานผลิตรองเท้าของเขาทั้งสามคนไม่ได้เพียงแต่ผลิตรองเท้าขายในละแวกใกล้เคียงเท่านั้นแต่ยังผลิตรองเท้าส่งขายไปยังร้านค้าปลีกที่อยู่ไกลออกไปอีกด้วย

บาจา ใช้เวลาไม่เกิน 10 ปี ในการทำให้โรงงานยิ่งใหญ่ขึ้น โดยมียอดการผลิตรองเท้าได้มากถึง 2,200 คู่ต่อวัน มีจำนวนพนักงานและเครื่องจักรที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเจอปัญหาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เศรษฐกิจหยุดชะงัก ขาดแคลนวัตถุดิบและกำลังคน แต่รองเท้าบาจาก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ให้รองเท้าทันสมัยและมีสไตล์มากยิ่งขึ้นอยู่ตลอดเวลาและใส่ใจในการนำเสนอลูกค้า ทำให้จำนวนลูกค้ารายใหม่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ในช่วงปี ค.ศ. 1917 รองเท้าบาจามียอดขายสูงถึง 2 ล้านคู่ แต่นี่ก็เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของรองเท้าบาจาเท่านั้น

ที่เมือง Zlin บาจาได้สร้างที่พักคนงาน โรงเรียน และโรงพยาบาลในบริเวณรอบๆของโรงงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนงานและครอบครัว บาจาได้ช่วยเหลือค่าอาหารในช่วงเวลาข้าวยากหมากแพง เก็บค่าเช่าในราคาถูกทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือสังคมเพราะครอบครัวของ Tomas Bata เชื่อว่าการทำธุรกิจนั้นจำเป็นต้องคืนกำไรให้แก่สังคมด้วย สังคมอยู่ได้เราก็อยู่ได้

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Tomas Bata ได้เริ่มคิดปรับแผนกลยุทธ์ต่างๆเพื่อให้โรงงานสามารถรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นอย่างมากเนื่องจากผลกระทบจากภาวะของสงครามโลก โดยกลยุทธ์แรกที่ใช้และถือว่าเป็นกลยุทธ์อมตะคือการลดราคารองเท้าสูงที่สุดถึง 50% และตกลงกับคนงานว่าจะลดค่าจ้างลง 40% โดยออกค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นให้กับพนักงานไม่ว่าจะค่าอาหารหรือเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้ Bata กลับมาประสบผลสำเร็จอีกครั้งหนึ่งและได้ผลตอบรับจากลูกค้าอย่างท่วมท้น

หลังจากนั้นบริษัทผลิตรองเท้า Bata ได้ขยายตัวก่อตั้งขึ้นไปอีกหลายที่มากมายไม่เว้นแม้แต่ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ประเทศฝรั่งเศส, ออสเตรีย, โรมาเนีย, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, อียิปต์, เบลเยียม, ฟินแลนด์, ลักเซมเบิร์ก, ฮังการี, อิตาลี, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และประเทศอินเดีย โดยลำดับต้นๆที่ได้ไปเปิดคือที่ Möhlin, Switzerland และ Calcutta, India ซึ่งทั้งสองแห่งนั้นมีการตกแต่งลักษณะคล้ายกับสาขาแรกที่เมือง Zlín โดยภายใต้การควบคุมของ Thomas J. Bata ลูกชายของ Tomáš Baťa ส่งผลให้มีการขยายร้านค้าอย่างน้อยสองแห่งต่อปีในช่วงทศวรรษที่ 1960′s

เมื่อเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2 Bata มีพนักงานอยู่กว่า 42,000 คน แต่หลังจากยุโรปตะวันออกถูกยึดอำนาจโดยรัฐบาลคอมมิวนิสต์ Bata ก็ประสบปัญหาอย่างหนัก แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ Bata ได้รวบรวมโรงงานที่เหลืออยู่นอกยุโรปตะวันออกทั้งหมดเพื่อที่จะกลับเข้ามาสู่เวทีโลกอีกครั้งโดยครั้งนี้มีการออกรองเท้ารุ่นใหม่ๆหลายรุ่นแต่ที่ได้รับความสนใจในช่วงนั้นก็คือรองเท้าส้นสูงของผู้หญิงส่งผลให้ Bata กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง

Thomas J. Bata ได้ทำการตัดสินใจครั้งใหญ่ในการย้ายไปตีตลาดทางแถบทวีปอเมริกา โดยย้ายไปเปิดบริษัทอยู่ที่ประเทศแคนาดาและในช่วงกลางศตวรรษนี้นี่เองที่รองเท้า Bata ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำในการส่งออกรองเท้าของโลก

ในช่วงทศวรรษที่ 70s, 80s และ 90s Thomas G. Bata ลูกชายของ  Thomas J. Bata หรือหลานของผู้ก่อตั้งบริษัทได้เข้ามารับผิดชอบการบริหารจัดการสำหรับการดำเนินการทั่วโลก โดยสองพ่อลูกได้ร่วมมือกันในการวางกลยุทธ์ต่างๆและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆและมีการให้ความสำคัญกับลูกค้า การตลาด และพนักงาน เป็นอย่างสูง ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆส่งผลให้ Bata ไม่ได้มีเพียงแค่รองเท้าเป็นสินค้าของบริษัทเท่านั้นแต่ยังแตกลายการผลิตไปยังสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆอย่างเช่น เสื้อผ้า กระเป๋า และเข็มขัด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของ Bata เป็นที่ยอมรับและรู้จักกันไปอย่างกว้างขวาง ทำให้ในวันนี้ Bata ขายรองเท้าไปแล้วกว่า 270,000,000 คู่ผ่านร้านค้าที่มีมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย

จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายของ Bata จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาแล้ว 120 ปี (เขียนเมื่อ กันยายน 2014) Bata ได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัทระดับโลกที่มีสินค้าที่ขึ้นชื่อเรื่องราคาไม่แพงและคุณภาพสูงเพื่อตอบสนองความต้องการกับกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และ Bata ยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆโดยจะทำให้เหนือความคาดหวังของลูกค้าเสมอ

Thomas G. Bata ประธานกรรมการ และหลานชายผู้ก่อตั้ง

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Donald trumps's profile


โพสท์โดย: Donald trumps
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: zerotype, barak obama
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แจ้งโอนเงิน 10,000 เข้าบัญชี 19 ธ.ค.นี้ เช็คผู้มีสิทธิ์ได้เดือดต่อ! เขมร โผล่เคลม ตำนานเพลงไทย? บนเวที Miss Planet 2024 งานนี้โดนวิจารณ์ยับพี่เขยหื่นลวงน้องเมียวัยสิบขวบกักขังขืนใจ-อัดคลิปขาย!สะพานรถไฟ Ouse Valley สุดยอดสถาปัตยกรรมจากอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลกภรรยาสาว "ขนม ศศิกานต์" ออกมาประกาศลดสถานะ!! "ครูเต้ย อภิวัฒน์"รีวิวหนังดัง GRAN TURISMO : GT แกร่งทะลุไมล์4 ราศี ดวงเด่นมาแรง การงานดี และมีโชคด้านการเงินรวมหวยเด็ดสำนักดัง 1/12/67เลือกสีที่ช่วยเสริมดวงตามวันเกิดทั้ง 7 วันสินค้าไทยมาแรงในเวียดนามจนเจอปัญหาสินค้าปลอม อะไรยังไงกันแน่ไทยแลนด์ฟีเวอร์ คว้าตำแหน่งประเทศน่าเที่ยวอันดับ 1 ปี 2024 ชาวต่างชาติยกนิ้ว ชมไม่หยุด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
บุ๋ม ปนัดดา อยากรู้ ทำไมน้ำท่วมภาคใต้ ข่าวเงียบมาก“บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” สุดเศร้า! ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมใต้ สร้อยทอง 5 บาทหาย วอนคนเจอส่งคืนแค่พระสะพานรถไฟ Ouse Valley สุดยอดสถาปัตยกรรมจากอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก4 ราศี ดวงเด่นมาแรง การงานดี และมีโชคด้านการเงิน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
สินค้าไทยมาแรงในเวียดนามจนเจอปัญหาสินค้าปลอม อะไรยังไงกันแน่ไทยแลนด์ฟีเวอร์ คว้าตำแหน่งประเทศน่าเที่ยวอันดับ 1 ปี 2024 ชาวต่างชาติยกนิ้ว ชมไม่หยุด5 เทคนิคประหยัดเงินที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ แต่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน5 สิ่งที่บ้านเก่าซ่อนอยู่ ซึ่งอาจเปลี่ยนชีวิตคุณโดยไม่รู้ตัว
ตั้งกระทู้ใหม่