4 สัญญาณอันตราย ระบบย่อยอาหารพัง!
นอกจากสมอง หัวใจและระบบไหลเวียนของโลหิตที่ว่าสำคัญกับร่างกายเป็นอันดับต้นๆ แล้วระบบย่อยอาหารก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนไม่ควรมองข้ามเพราะทุกสิ่งที่เราทานเข้าไปต้องได้รับการย่อย และดูดซึมอย่างเป็นระบบหากอวัยวะที่ใช้ในการย่อยอาหารเริ่มทำงานขัดข้องจะส่งผลเสียต่อร่างกายมากมาย และอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
หากใครมีอาการดังต่อไปนี้ ขอให้ทราบว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่เริ่มบ่งบอกว่าระบบย่อยอาหารของคุณอาจมีปัญหาค่ะ
1. ปวดท้อง
ใครๆ ก็ปวดท้องได้ อาจจะมีความผิดปกติที่เกิดขึ้น แล้วหายไปแต่ใครที่ปวดท้องที่เดิมบ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาหรือโรคร้ายอะไรบางอย่างได้
ปวดท้องด้านขวาตอนบน อาจเกิดจากโรคตับ และถุงน้ำดี
ปวดท้องบริเวณใต้ซี่โครงอาจเกิดขึ้นพร้อมกับอาการแสบกระเพาะอาหาร จึงอาจเป็นโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ และบางครั้งโรคต่างๆที่เกิดขึ้นที่ถุงน้ำดีก็อาจเกิดขึ้นในบริเวณส่วนท้องที่เป็นแอ่งได้
ปวดท้องส่วนกลาง อาจเป็นโรคที่เกิดขึ้นที่ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ และอาจเป็นไส้ติ่งอักเสบเพราะมักมีอาการปวดท้องที่บริเวณนี้ก่อน แล้วจึงเลื่อนมาเป็นส่วนล่าง
ปวดท้องด้านซ้ายตอนบน อาจมีสาเหตุมาจากโรคต่างๆที่เกิดในลำไส้ใหญ่ เช่น โรคท้องผูกหรืออาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อลำไส้ใหญ่แต่หากมีอาการแสบกระเพาะอาหารก็อาจเกิดจากกรดและอาการเจ็บปวดเนื่องจากแผลในกระเพาะ
ปวดท้องด้านขวาตอนล่าง อาจเป็นอาการของไส้ติ่งอักเสบอย่างเฉียบพลัน หรืออาการอักเสบของลำไส้
ปวดท้องด้านซ้ายตอนล่าง หากมีอาการปวดและคลายสลับกันพร้อมกับอาการท้องร่วง หรือเกิดจากอาการท้องผูกอาจเกิดจากโรคถุงผนังที่ลำไส้ใหญ่อักเสบ หรือมีความผิดปกติ เช่น ถุงน้ำหรือเนื้องอกที่รังไข่ หรือมดลูก
2. ท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด
คนที่ระบบการย่อยอาหารเริ่มมีปัญหา อาจมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อแน่นจุกเสียดท้องหลังรับประทานอาหาร หากมีอาการมากๆ ท้องจะเกร็งและอาจมีอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เรอบ่อย เรอเหม็นเปรี้ยวผายลมบ่อย ท้องใหญ่ขึ้น หรือท้องผูก และท้องเสียร่วมด้วยผู้ที่มีอาการดังกล่าวจะยังคงรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักไม่ลดและส่วนมากมักมีน้ำหนักเกิน อาการเหล่านี้หากเป็นบ่อยๆอาจสันนิษฐานว่ากระเพาะอาหาร หรือลำไส้ทำงานไม่ปกติ
3. กลืนลำบาก
อาการกลืนอาหารลำบาก อาจเกิดจากก้อนเนื้อ หรือก้อนมะเร็งในทางเดินอาการหรือหลอดอาหารได้ แต่อาจเป็นเพราะระบบการเคลื่อนไหวของหลอดอาหารหรือระบบประสาททำงานไม่ดีได้ด้วยเช่นกัน หากกลืนอาหารประเภทของแข็ง เช่นเนื้อสัตว์ แล้วติด โดยเฉพาะตรงกลางอก อาจสันนิษฐานว่ามีก้อนเนื้อหรือก้อนมะเร็งอยู่ในหลอดอาหาร หรือบริเวณใกล้เคียงแต่หากกลืนอาหารทั้งของเหลว และของแข็งได้ลำบากตั้งแต่ต้นอาจเกิดจากการบีบตัวไม่เป็นจังหวะของหลอดอาหาร อาการนี้อาจเป็นๆ หายๆได้เช่นกัน
4. แสบกลางอก
หากมีอาการแสบกลางอกโดยเฉพาะในตอนกลางคืนสันนิษฐานว่าอาจเป็นโรคกรดไหลย้อน เกิดจากหูรูดที่หลอดอาหารปิดไม่ค่อยสนิทกรดที่ไหลย้อนขึ้นมานี้อาจทำให้อักเสบ เป็นแผล หรือเลือดออกได้อาการชัดเจนคือ แสบร้อนกลางอก และจะมีอาการดังกล่าวในเวลานอนตอนกลางคืนเวลานอนอาจจะมีอาการไอ สำลัก หอบ ซึ่งอาจทำให้นึกว่าเป็นโรคปอด โรคหัวใจแต่ไม่ใช่ เพราะฉะนั้นคนที่มีอาการตอนกลางคืนต้องนึกถึงกรดไหลย้อนด้วยนอกจากนี้หลังอาหารมื้อหนัก หากยกของหนักหรือนอนหงายกรดก็จะไหลขึ้นมาทำให้เกิดอาการแสบได้เช่นกัน
หากใครมีอาการผิดปกติดังกล่าวบ่อยๆ อาจเกิดขึ้นมากกว่า 2-3 ครั้งใน 1อาทิตย์ หรือมีอาการไม่บ่อย แต่เป็นๆ หายๆ บ่อยๆควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์จะดีที่สุดค่ะเพราะหากปล่อยให้อาการนี้ลามเรื่อยๆ โดยไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้รักษายากขึ้น และไม่หายขาดได้นะคะ
ดูเรื่องเด็ดก่อนใครได้ที่ https://www.facebook.com/youlike18up