9 อันดับปรสิตสุดสยอง
9. Dodder : กาฝากฝอยทอง
....Cuscuta หรือ dodder มีชื่อเล่นเป็นภาษาไทยว่า ‘ฝอยทอง’
พืชกึ่งกาฝาก มีลักษณะเป็นเถาเส้นเล็กๆ สีส้ม แกมสีเขียว
เติบโตพันกันยุ่งเหยิงบนต้นไม้ต้นอื่น
อาศัยโดยการเจาะ ดูด กินอาหาร และน้ำจากพืชนิดอื่น ๆ
ไม่มีใบ และแทบไม่มีคลอโรฟิลสีเขียวสำหรับสังเคราะห์แสงด้วยตัวเองเลย
แต่เจ้าฝอยทองกจะออกผลเป็นลูกเล็ก ๆ สีขาวมีเนื้อเหนียว
ซึ่งนกมักจะมากิน แล้วถ่ายขี้เหนียว ๆ ป้ายติดไว้บนกิ่งไม้อื่นๆ ที่บินผ่าน
เมล็ดฝอยทองก็จะงอกเงยกลายเป็นกาฝากที่ต้นอื่น ๆ ต่อไป…
มองไปมองมาก็คล้ายฝอยทองจริงๆนั่นแหละ
8. Niphanda Fusca : หนอนฝากเลี้ยง
....Niphanda Fusca จะแฝงตัวเองเข้าไปอยู่ในรังมดพันธุ์ Camponotus japonicas
โดยหนอนพวกนี้จะหลั่งสารเคมีเลียนแบบมดในรัง
เพื่อให้ตัวเองได้รับการเลี้ยงดู เอ็นดู เอาใจใส่
เหมือนว่ามันเป็นมดมิใช่หนอนยังไงยังงั้น
เมื่อได้รับการเลี้ยงดูจนอิ่มหมีพลีมัน
ก็ถึงคราวที่ต้องตอบแทนบุญคุณโดยการเขมือบมดพวกนั้นลงท้องซะเลย
..เรียกว่ากาฝากของแท้เลยล่ะ
7. Sacculina : แปลงเพศให้ปู
....Sacculina จะคืบคลานเข้าไปตามแผ่นกระดองของปู จนถึงส่วนข้อต่อ ขา หรือลำตัว
เมื่อแทรกตัวได้สำเร็จ ก็จะอาศัยอยู่ตรงบริเวณท้องของปู
แล้วปล่อยเส้นด้ายจากบริเวณท้องไปทั่วร่างกายเพื่อดูดอาหาร
และเปลี่ยนพฤติกรรมให้ปูโชคร้ายหาอาหารเพื่อป้อนให้ตัวมันเอง
และถึงขั้นแปลงเพศให้เลิกสนใจสืบพันธุ์กับเพศตรงข้ามเลยด้วย
6. Cotesia Glomerata : ฝากไว้ในตัวเธอ
....เริ่มต้นวงจรกาฝากโดยพ่อแม่ของ Cotesia Glomerata จะวางไข่ในตัวอ่อนของหนอนผีเสื้อพันธุ์ Pieris
หลังจากนั้น Cotesia Glomerata จะพัฒนาตัวเองภายใน 15 – 20 วัน
โดยพวกมันจะใช้ไวรัสจาก DNA ของตัวเอง
ให้โฮสต์กลายเป็นอัมพาต
จากนั้นก็จะกัดกิน ทะลุทะลวงออกมา
และรอเป็นผีเสื้อโบยบินสู่โลกกว้างต่อไป
5. Ophiocordyceps Unilateralis : เชื้อราเปลี่ยนมดเป็นซอมบี้
....มดที่ติดเชื้อราเข้าไปจะเรียกกันว่า “มดผีดิบ”
โดยเชื้อรา Parasitoidal นี้ จะแทรกซึมเข้าไปในตัว
และทำการควบคุมระบบประสาท
สั่งการให้มดไปหาจุดจบบนยอดไม้ ทิ้งร่างห้อยต่องแต่งบนใบ
ส่วนเชื้อราก็จะค่อย ๆ กัดกินเนื้อเยื่อมด
จนสปอร์เจริญเติบโตออกมาข้างนอกเหมือนภาพข้างบน
4. Filarial Worms : สาเหตุของโรคเท้าช้าง
....พยาธิตัวกลมที่เป็นตัวการก่อให้เกิดโรคพิลาริเอซิส หรือโรคเท้าช้าง
โดยติดต่อจากยุง เช่น ยุงลาย ยุงก้นปล่อง Filarial Worms
จะปล่อยพิษทำให้หลอดน้ำเหลืองอักเสบ ทางเดินน้ำเหลือง ระบบเลือดเกิดการอุดตัน
ทำให้เกิดการคั่งของน้ำเหลือง และไหลย้อนกลับเข้าไปอยู่ในช่องต่าง ๆ ของร่างกาย
เช่น ทรวงอก อัณฑะ และ ช่องอก ทำให้อวัยวะเหล่านั้นบวมผิดปกติ
3. Dracunculus Medinensis : หนอนกินี
....รู้จักกันในนามของ ‘หนอนกินี’ หนึ่งในปรสิตที่เก่าแก่ที่สุดในโลกย้อนไปเมื่อศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล
ถูกบันทึกไว้โดยชาวกรีกที่ส่งผลร้ายแรงกับมนุษย์ สุนัข แมว ม้า วัว และสัตว์อื่นๆ
พบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปแอฟริกาและเอเชีย
โดยพยาธิจะเข้าสู่ร่างกายเมื่อดื่มน้ำที่ปนเปื้อนพยาธิ
และจะใช้ระยะเวลา 1 ปี ในการสร้างตุ่ม และแตกตัวออกมาจากผิวหนังภายใน 72 ชั่วโมง
ซึ่งที่ตุ่มจะมีปลายคล้ายเส้นด้ายโผล่ออกมา
และคนที่ติดเชื้อจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน
จนต้องแช่น้ำบริเวณที่เป็นตุ่ม
ซึ่งน้ำที่แช่นั้นก็จะแพร่ขยายพยาธินี้ไปโดยปริยาย
2. Loa Loa : หนอนขึ้นตา
....รู้จักกันโดยทั่วไปว่า ‘หนอนตา’ (Eye Worm) พบมากในทวีปแอฟริกา และอินเดีย
โดยปรสิตจะเข้าสู่ร่างกายมนุษย์เมื่อโดน deer fly กัด
จากนั้นก็จะคืบคลานสู่ใต้ผิวหนัง
ซึ่งใช้เวลานานหลายปีโดยที่เราไม่รู้สึกอะไรเลย
จนกระทั้งผู้ที่ติดเชื่อพบความผิดปกติในลูกตา
เมื่อนั้นความหายนะก็มาเยือน
โดยอาการจะเริ่มตั้งแต่อาการคัน อาการปวดข้อ เมื่อยล้า
และอาจอันตรายถึงขั้นตายได้เลยทีเดียว
1. Cymothoa Exigua : แทนที่ลิ้นปลา
....Cymothoa Exigua มีชื่อเล่นว่า ปรสิตกินลิ้น
โดยเข้าไปทางเหงือกของปลา
แล้วแนบตัวเองที่ลิ้นของปลา
จากนั้นก็จะกัดกิน ดูดเลือดบริเวณนั้น
ทำให้ลิ้นของปลาเกิดอาการฝ่อจากการขาดเลือด
จากนั้นมันก็จะฝังร่างทำหน้าที่แทนลิ้นของปลา
แต่คาดว่าน่าจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์
ยกเว้นแต่ว่าจะมีพวกชอบของแปลกเขมือบลงท้องล่ะนะ
...ธรรมชาติสร้างกลไกให้เหล่าจำพวกปรสิตต้องมีชีวิตแบบนั้น
แต่สำหรับมนุษย์สร้างมาเพื่อพึ่งพาอาศัยกัน
เพราะฉะนั้นอ่านไว้เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่าเราเป็นมนุษย์
อย่าได้ทำตัวเหมือนปรสิตที่เอาแต่พึ่งพาคนอื่นเด็ดขาด
ที่มา : oddee.com, wikipedia, haamor.com, cmp.ubu.ac.th, scijan.ning.com, online-station.net