ย้อนรอยตำนานรัก "สาวพม่า-ทหารญี่ปุ่น" ที่สุดซึ้งยิ่งกว่า "อังศุมาลิน-โกโบริ" ?!!
ทุกๆคนคงเคยได้ยินตำนานรักข้ามชาติที่ลงเอยด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นความรักของสาวไทยกับนายทหารญี่ปุ่น "อังศุมาลิน-โกโบริ" หรือสาวพม่ากับเจ้าชายไทย "ม่ะเมี๊ยะ" แต่วันนี้เราจะนำเรื่องราวความรักของสาวพม่ากับนายทหารญี่ปุ่นมาฝากกัน โดยเรื่องนี้ได้โพสท์ขึ้นบนเพจ "เชียงใหม่ที่คุณไม่เคยเห็น" เป็นเรื่องราวที่จบลงด้วยความเศร้าอย่างสุดซึ้งไม่น้อยไปกว่าตำนานรักอื่นๆที่เราเคยได้ยินมา เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่แม่น้ำสาละวิน เป็นแม่น้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะไหลลงมาจากภูเขาหิมาลัย ผ่านพม่า และ ไทย บริเวณ เมืองแม่ฮ่องสอน แม่น้ำสายนี้ไหลไปถึง เมือง เมาะละแหม่ง ที่เป็นแหล่งค้าขาย เชื่อมโยง ถึง แม่สะเรียง ขุนยวม แม่ฮ่องสอน
ในอดีต.......เมื่อสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นี่ถูกใช้เป็นเส้นทางเข้ายึดพม่าของทหารญี่ปุ่น ได้มีการทำสลิง ขึงแพข้ามแม่น้ำโดยกองทัพญี่ปุ่นเพื่อการเดินทางอย่างถูกต้อง ก่อนจะลงแพนั้นจะต้องมีการขานชื่อ ตรวจสอบชื่อ สังกัด แล้วจึงให้ลงแพ ตามจำนวน เนื่องจากทหารญี่ปุ่นบางคนมีภรรยาพม่าติดตามไปด้วย จึงทำให้เป็นภาระการเช็คชื่อ จึงเป็นกฎเพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น
... ณ จุดนี้เองที่มีตำนานรักของนายทหารญี่ปุ่นยศร้อยโท กับ เมียสาวชาวพม่า เกิดขึ้น
..."นงปุ๊" สาวงามผุดผาดสะดุดตา จากเมืองพม่าพบรักกันกับนายทหารญี่ปุ่นระหว่างช่วงสงคราม จนได้เสียเป็นเมียรัก และ ท่าทาง นายทหารก็ทั้งรัก หลงใหล ในตัวนางมาก... ด้วยความรักนางจึงติดตามนายทหารไปทุกๆที่คิดว่าชีวิตนี้จะไม่พรากจากกัน เดินทางด้วยกันเรื่อยมา จนมาถึง สาละวิน ครั้งเมื่อต้องลงแพ ผู้ควบคุม สั่งไม่ให้ "นงปุ๊" ของเขาลงแพไปด้วย ด้วยความที่อยู่ในช่วงสงครามและบ้านเมืองพม่าไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ หากจากกันแล้ว คงยากเหลือเกินที่จะสามารถที่จะกลับมาพบกันได้อีก อีกทั้งเต็มไปด้วยพยันตรายต่างๆนาๆ เมื่อรู้ดังนั้น "นงปุ๊" จึงไปคุกเข่าอ้อนวอนผู้ควบคุม เพื่อขอความเห็นใจ ขออนุญาติให้นางติดตามสามีไปด้วย......
แต่ด้วยความเฉียบขาดของกฎทหารญี่ปุ่น ไม่ว่านางจะร้องไห้คร่ำครวญเพียงใด ก็ไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจใดๆ จากผู้ควบคุม เมื่อทำให้ผู้ควบคุมใจอ่อนไม่ได้ นางจึงเข้าไปกอดรัด ผัวทหารญี่ปุ่น ร้องไห้อาลัยอาวรณ์เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก แม้ว่าผู้เป็นสามีจะปลอบประโลมปานใด นางก็ไม่ยอมเข้าใจ จนสุดท้าย นางคิดว่าหากต้องพรากจากกันก็ขอยื่นคำขาดให้ สามีฆ่านางให้ตายเสีย ก่อนที่จะข้ามน้ำไป
....... เมื่อร้อยโท ถูกกดดัน เช่นนี้ ด้วยความรัก และ อาลัยในเมียสาวแสนสวย จนยากจะหักใจได้ จึงทำให้เขาได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เขาได้ชักปืนประจำกาย ออกมาจ่อยิง "นงปุ๊" เมียสาวชาวพม่าของเขา กระสุนทะลุขมับนางสิ้นใจ ท่ามกลางความตกตะลึงของสายตานับร้อยคู่ของทหารญี่ปุ่น รวมถึงชาวบ้านที่มารอลงแพอยู่ริมน้ำสาละวิน......
....... หลังจากยิงเมียพม่าอันเป็นที่รัก นายทหารผู้นั้นก็กอดร่างไร้วิญญาณไว้ในอ้อมแขน กอดจูบอย่างแสนรักด้วยน้ำตานองหน้า เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
.... เขาอุ้มศพภรรยาเดินลงไปที่ชายหาด สั่งให้ลูกน้องขุดหลุมฝังศพ และเขาเป็นผู้ฝังศพเมียรักของตนเอง.....
..... จากนั้นเขาก็เดินลงไปที่แม่น้ำสาละวินอันเชี่ยวกรากด้วยหัวใจแตกสลาย จากนั้นผู้คนบนฝั่งก็ต้องตกตะลึงเป็นครั้งที่สอง เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัดกลางแม่น้ำสาละวิน พร้อมร่างของนายทหารผู้บูชาความรักล้มลงกลางสายน้ำ วิญญาณหลุดลอยจากร่างไปพร้อมกับ เมียสาวชาวพม่า ท่ามกลางความเศร้าสลดของทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น
ต่อมาทหารในเหตุการณ์ก็พากันนำร่างไร้วิญญาณของนายทหารยศร้อยโท ผู้จากไป มาฝังไว้คู่กับคนรัก ณ ริมหาดเหนือแม่น้ำสาละวินอันเย็นยะเยือก
...ตำนานรัก อันแสนเศร้า เรื่องราวหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อันแสนโหดร้าย ทารุณจากหนังสือ "ย้อนรอยความทรงจำที่ขุนยวม" โดย พตท.เชิดชาย ชมธวัช
ภาพสาวพม่าในยุคนั้น (ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)