10 รายการค่าใช้จ่าย ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนมีเงินเหลือบาน
หายใจในโลกใบนี้มานานเกือบสี่สิบปี โง่ (ใช้คำนี้แหละ “โง่” มันสัมผัสสะเทือนดี) ดีนะที่มีสติพอคิดได้ ถ้าใครเห็นด้วยว่าเรื่อง “เงิน” เป็นเรื่องที่ต้องมีสติอย่างเข้มข้นเป็นอันดับต้น ๆ ของชีวิต ก็ยินดีที่พบกันนะ
พี่เอา 10 รายการของที่ต้องซื้อใช้ ในแบบปรับราคาแบบเงินเหลือบานมาฝากกัน เงินที่เหลือจะเอาไว้ลงทุน ซื้อที่ดิน ซื้อบ้านใหม่ ซื้อทอง ซื้อหุ้น หรือทำอะไร ก็ว่ากันไปนะ
พูดเลยว่าสิ่งที่ได้ควบคู่กับเงินเหลือ คือ ความสนุก และรู้สึกราคาตัวเราแพงขึ้นทุกวัน เพราะมันเป็นการตั้งใจฝึกวินัยให้ตัวเองมากขึ้น และเราทำได้ คำว่าวินัยมันอาจฟังดูเป็นหน้าที่ที่เข้มงวด แต่พี่ว่าหากใครชอบทำอะไรท้าทาย และชอบสร้างคุณค่าความเป็นคน ไอ้เจ้าตัววินัยนี่แหละมันน่าท้าทาย และเป็นคุณค่าให้ลมหายใจดีแท้ เพราะเมื่อทำได้มันหมายถึงเราจะรู้สึกนับถือตัวเองโดยอัตโนมัติ และเมื่อเรานับถือตัวเอง เชื่อถือตัวเองได้ ผู้คนก็จะเชื่อถือเรา ทีนี้จะทำอะไร ทำเรื่องอะไรก็จะมีคนคอยสนับสนุนให้เราทำได้ง่ายขึ้น... ว่ากันสั้นๆ แค่นี้พอแล้วนะ ... มา พี่จะพาไปซื้อของให้เงินเหลือกันเลย
พี่เรียกว่า “ลดมาตรฐานราคา แต่คุณค่ายังเหมือนเดิม” ... บางอย่างมากกว่าเดิมด้วย
อุ๊ต๊ะ ! แม่เจ้า ! ประหยัด 3,194 บาท (ทุกรายการปริมาณความจุในกระปุก ในขวด ในพัฟเท่ากัน) พี่ยืนยันนะว่า ราคาลด แต่คุณภาพชีวิตไม่ได้ลดลงเลย กลับเพิ่มขึ้นในแบบที่อยากมาบอกนี่แหละ
หมายเหตุ
1. ครีมทาหน้า ใช้ได้ 2 เดือนเท่ากัน เครดิตของยี่ห้อเท่ากัน
2. แชมพูสระผมใช้ได้ 3 เดือนเท่ากัน คุณภาพเหมือนกัน แบบแรกแพงที่ค่าพรีเซนเตอร์ แบบหลังพรีเซนเตอร์บ้าน ๆ เลยถูกกว่า แต่คุณภาพพอกัน ในหลายครั้งแบรนด์ดังก็จัดโปรโมชั่นลดราคาถูกกว่าแบรนด์บ้าน ๆ ก็ใช้สลับกันไปสนุกดี
3-5. ใช้วาสลีนปิโตรเลี่ยมเจล แทนลิปมัน อายครีม และครีมเช็ดเครื่องสำอาง เฉลี่ยแล้วใช้ได้นานกว่าเดิมประมาณ 4 เดือน
6. แป้งพัฟ เปลี่ยนมาใช้ยี่ห้อคนไทย คุณภาพเท่ากับแบรนด์นอกที่เคยใช้ และใช้ตลับรีฟิวประหยัดกว่าตลับกระจกอีกหลายร้อยบาท เรียกว่า ประหยัด 2 เด้ง
7-8. ยกทรงกับกางเกงใน ข้อนี้โกรธตัวเองมาก เพราะแบรนด์เนมระดับกลางที่เคยใช้ตัวละประมาณ 500 บาท ซักสองสามครั้งก็เปลี่ยนรูปไปก็มี ... ไอ้ยกทรงตัวละ 50 บาทนี่ พี่ไม่เคยคิดจะใช้เลย กลัวคันบ้างล่ะ กลัวพังเร็วบ้างล่ะ แต่เอาวะลองดู จะคันจะพังเร็วก็ค่อยซื้อใหม่ เอิ่มพี่น้องคะ ใช้มา 10 เดือนแล้ว ยังไม่มีวี่แววจะคันตรงส่วนไหน และยังใช้ได้อีกนาน ... รู้สึกโง่มากที่ปล่อยให้การตลาดมาครอบจริตจนประเมินหลายสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ด้วยราคาซึ่งอันที่จริงแล้วมันเป็นค่าพรีเซนเตอร์ (เซเลป) ที่นักการตลาดกำหนดมาให้เราต้องจ่าย และพูดเลย กางเกงในตัวละ 10 บาท คุณภาพวัดจากความรู้สึกที่ใช้มันแพงกว่าตัวละ 150 บาทหลายเท่า ... ข้อนี้ยอมรับเลยว่าตัวเองโง่จริง ๆ แต่ก็ดีนะที่คิดได้
9. โลชั่นทาตัว ก็อีกนั่นแหละจ่ายแพงเพราะจ่ายค่าพรีเซนเตอร์ เปลี่ยนมาเป็นแบรนด์ไทย หรืออะไรก็มีเยอะแยะที่คุณภาพเท่ากัน แต่ราคาฉลาดกว่า
10. รายการนี้นี่ก็อีกสุดความโง่ของตัวเอง อยากกินของดี จ่ายมื้อหนึ่งต่อจาน 80-120 บาท ก็ดีนะ คุณภาพดี อร่อยด้วย แต่คุณภาพดี และอร่อยในระดับเดียวกันมีขายที่ตลาดใกล้บ้านก็ไม่เคยมอง นี่ดีนะที่มีสติพิจารณา ทำให้มีเงินเหลือไปกินแอปเปิลเพิ่มได้อีกหลายลูก
... นี่รวบรวมมาแค่ 10 รายการ ถ้าเขียนมาหมด โอ้ว ! เห็นเงินเหลือ ๆ และพี่ไม่ได้บอกว่าวิธีนี้ดีที่สุด ... เอาว่าถ้าใครมีวิธีเจ๋ง ๆ เอามาแบ่งปันกันนะ
และเมื่อยังมีแรง แบ่งเวลาไปหาเงินเพิ่มก็เริ่ดนะฮะ ... และถ้าใครมีวิธีหาเงินแบบเทห์ ๆ เอามาแบ่งปันกันก็ขอบคุณมากนะจ๊ะ
Take Care
ขอบคุณกระทู้จากคุณ อุ่น ปารมิตา สมาชิกเว็บพันทิป (เว็บโพสท์จังได้ขออนุญาตเรียบร้อยครับ)