หลงทางที่ ”พิจิตรจังหวัดที่ไม่คิดไปเหยียบ”
การเดินทางของผมในครั้งนี้ใช้ชื่อว่า หลงทาง (Lhong thang)
ผมก็เหมือนกับใครหลายคน ที่หมกมุ่นกับการทำงานจนไม่ค่อยมีเวลาให้ตัวเอง การเดินทางของผมในครั้งนี้อาจจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ สำหรับใครหลายคน แต่มันคือการเดินทาง เพื่อออกไปหาแรงบันดาลใจในการทำงานของตัวเอง ผมคิดว่ามันน่าจะช่วยให้ผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น และอาจทำให้ผมได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน
เชิญทัศนา
นี่คืออุปกรณ์ที่ผมเตรียมไป เพื่อช่วยให้ผมเก็บภาพและเรื่องราวต่างๆ กลับมาให้ได้มากที่สุด อ่อ!ลืมบอกไปนิดครับผมทำงานเป็นช่างภาพอิสระ การหาแรงบันดาลใจของผมคงหนีไม่พ้นการถ่ายภาพ เพราะฉะนั้นความต้องการที่จะได้ภาพของผม จึงมีมากเป็นพิเศษและอุปกรณ์ที่เตรียมไปผมก็คำนึงถึงโอกาสที่จะใช้ และความคล่องตัว
จุดหมายปลายทางของผมคือ บ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
ผมออกเดินทางจากกรุงเทพฯเวลาประมาณ 9.00 น กับน้องดอกสะโหน(สองล้อคู่ใจ) ใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์-สายเอเชีย-ทางหลวงหมายเลข11 ความเร็วที่ใช้ตลอดเส้นทางอยู่ที่ประมาณ 100-120กม./ชั่วโมง คำนวนจากระยะทางและความเร็วที่ใช้ในการเดินทาง ผมน่าจะถึงปลายทางเวลาประมาณบ่าย3โมง (รวมจอดพักและจอดถ่ายรูประหว่างทางแล้ว) "เพราะช่วงไฮไลท์ของที่นั่น อยู่เวลาประมาณ5-6โมงเย็น จะมีฝูงค้างคาวนับหมื่นตัวบินเรียงแถวกันออกหากิน" Go!!!
อุปสรรคในการถ่ายภาพของผมคือ การหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายในแต่ละครั้งนี้แหล่ะครับ บางจังหว่ะเราเห็นแสงเห็นมุมสวยๆ แต่ก็ไม่สามารถจอดรถถ่ายได้ ทำได้แค่บันทึกมันด้วยสายตา
ผมขับไปตามทางหลวงหมายเลข11 ถนนเส้นนี้มีรถสิบล้อวิ่งอยู่เป็นระยะๆ จึงต้องระมัดระวังในการขับเป็นพิเศษ (ขับมาเร็วๆ สวนทางกันทีตัวแทบปลิว) และช่วงที่ผ่านบ้านเขาทราย ตรงจุดนี้รถทำความเร็วได้ไม่มาก เพราะมีการซ่อมพื้นถนน ขับค่อนข้างลำบากมีเศษหินและฝุ่นเยอะมาก ขับตามทางถนนหมายเลข11 มาเรื่อยๆและเลี้ยวขวาเข้า ถนนหมายเลข1115
ขับตรงตามทางเข้ามาไม่ไกลนัก ก็มาเจอจุดที่ทำให้ผมถึงกลับเบรคแทบไม่ทัน เพราะทางด้านขวามือเป็นจุดที่มีวิวที่สวยและแปลกตา ผมรีบกลับรถทันทีและไม่รีรอที่จะหยิบกล้องขึ้นกดชัตเตอร์
ตรงจุดที่ผมยืนถ่ายมีชื่อว่า เหมืองทองคำชาตรี ตำแหน่งที่ผมยืนคนทั่วไปสามารถยืนถ่ายได้ ไม่ต้องขออนุญาติใคร เพราะติดกับถนนที่ใช้สัญจรไปมา บอกได้คำเดียวว่า เพลินมาก ถ่ายแบบไม่กลัวการ์ดเต็มเลย
ผมใช้เวลาถ่ายตรงนี้อยู่พักใหญ่ เพราะคิดว่าจากตรงนี้คงอีกไม่ไกลก็จะถึงจุดหมายปลายทาง
ระหว่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นและเช็คเส้นทาง
.................เดี๋ยวนะ! ฮะ! ไม่จริงใช่มั้ย!!!!
ถนนเส้นที่ผมเลี้ยวขวาเข้ามามันไม่ใช่ ถนนหมายเลข1115 ตามที่ผมเข้าใจ แต่มันคือถนนหมายเลข1301 ผะ ผะ ผะ ผมหลงทาง!!!!!!
จากจุดที่ผมอยู่ต้องขับต่อไปอีกห้าสิบกว่าโลกจึงจะถึงจุดหมาย ประเมินจากระยะทางและช่วงเวลาแล้ว น่าจะไปไม่ทันเวลาไฮไลท์ที่เนินมะปราง ผมจึงตัดสิ้นใจหาที่ซุกหัวนอนแถวนี้สักคืน
ผมขับตามทางถนนหมายเลข1301 เข้ามาเพื่อหาที่พัก ไม่ไกลนักก็เจอกับหมู่บ้านหนึ่ง เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างเงียบสงบ (ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่าชื่อหมู่บ้านวังชะนาง) เสียงท่อรถของผมดึงดูดสายตาผู้คนในหมู่บ้านไม่น้อย ราวกับว่าผมเป็นตัวประหลาด T^T. ผมจึงจอดรถและใช้วิธีเดินเข้าไปสอบถามข้อมูลที่พัก เพื่อสร้างไมตรี ดีกว่าขับรถท่อดังดุ่มๆเข้าไปโดยตรง
ากการสอบถามได้คำตอบคือในหมู่บ้านนี้ไม่มีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่มีแม้แต่โฮมสเตย์ (ผมเริ่มกังวล)
......แต่สักพักก็มีชาวบ้านเดินมาบอกว่า "ยังพอมีที่พัก เป็นบ้านของชาวบ้านที่ใช้รองรับแขก ที่เดินทางมาที่นี่" ผมรีบตอบตกลงและให้เค้านำทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวเจ้าของบ้านหลังนี้มีชื่อว่าคุณแม่บังเอิญ คุณแม่บังเอิญเป็นคนยิ้มแย้มคุยเก่ง ทั้งที่เราเพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่การต้อนรับที่ได้กลับมาทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นลูกหลานของท่านคนหนึ่ง^^
นอนที่นี่สักคืนบรรยากาศรอบตัวบ้านก็ยังคงความเป็นชนบท คุณแม่เล่าให้ฟังว่าชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะทำนา ทำไร่และเลี้ยงสัตว์ แทบทุกบ้านจะปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง คุณแม่ยังคุยให้ฟังอีกว่าหมู่บ้านนี้ยังได้รับรางวัล หมู่บ้านเศษรฐกิจพอเพียงอีกด้วย^^
ผมนั่งคุยกับคุณแม่และญาติๆอยู่พักใหญ่ จึงขอตัวไปนอน เพราะเหนื่อยล้าจากการเดินทางมาทั้งวัน zZzZ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!!! "ตื่นได้แล้วลูก ตื่นมาใส่บาตร" เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกให้ผมลุกขึ้นจากที่นอน ช่วงเช้ามืดอากาศที่นี่ค่อนข้างเย็น ไม่เหมาะกับการตื่นมาใส่บาตรซะเลย (ผมคิดในใจ555)
คุณแม่เล่าให้ฟังว่าชาวบ้านที่นี่แทบทุกบ้าน จะตื่นแต่เช้าเพื่อมาเตรียมอาหารและยืนรอ พระภิกษุที่จะเดินมารับบาตรทุกเช้า ผมเองก็ไม่พลาดที่จะหยิบกล้องติดมือไปเก็บภาพบรรยากาศช่วงเช้า
พอใส่บาตเสร็จผมก็ขอตัวจากคุณแม่ เพื่อเดินไปเก็บภาพบรรยากาศวิถีชีวิตของคนในชุมชน
ภาพนี้คือคุณแม่และพี่สาวกำลังก้มเก็บผักหน้าบ้าน เพื่อนำไปทำกับข้าวให้ผมกิน ^______^
หลังจากเดินถ่ายภาพอยู่พักใหญ่ผมก็กลับมาทานข้าวที่บ้านและเตรียมตัวเก็บสัมภาระเพื่อออกเดินทางไปยังจุดหมาย เมื่อมาถึงจุดหมายเท่านั้นแหละมันคือสวรรค์ชัดๆที่นี้สวยมากจริงๆคับ เห็นแล้วผมไม่น่ามาคนเดียวเลยน่าจะพาแฟนมาด้วย TT
ขออภัยนะคับอาจพิมผิดพิมถูกบ้างเพราะเพิ่งหัดเรื่องใหม่
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ไซยาไนด์ เมื่อพิษร้ายแรงสุดๆ ซ่อนตัวในโมเลกุลเล็ก ๆ สีไร้กลิ่น
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
บาร์เบียร์ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ! เมื่อลูกแมวน้ำสุดป่วนบุก 'แฮงค์เอาท์' ที่นิวซีแลนด์
หนุ่มอเมริกันทุบสถิติโลก วิ่งฮาล์ฟมาราธอนพร้อมเสื้อยืด 137 ตัว น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม!
บาร์เบียร์ต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ! เมื่อลูกแมวน้ำสุดป่วนบุก 'แฮงค์เอาท์' ที่นิวซีแลนด์
จัดอันดับแมลงมีพิษที่สุดในไทย
จากผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ สู่ผู้ต้องลุ้นชะตา ฮุนเซน กับเกมหนีคุกสหรัฐฯ
"ฮุนเซน" โพสต์คลิปพิธีปิดซีเกมส์ 2023 อย่างยิ่งใหญ่ หลังไทยถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการเตรียมการและจัดการแข่งขัน























