ไร้ผล ไม่ต้องต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
ไร้ผล ไม่ต้องต่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
ตามที่มีข่าวว่ามีคนไปโอนซื้อบ้านกันจนสำนักงานที่ดินต้องปิดทำการถึงเที่ยงคืนบ้าง หรือวันรุ่งขึ้นของวันที่หมดกำหนดโอนตามมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์บ้าง จนมีเสียงเรียกร้องให้ต่ออายุมาตรการนี้ ดร.โสภณ ไขข้อเท็จจริงให้ทราบว่ามาตรการนี้ไร้ผล ไม่จำเป็นต้องต่อ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งลดค่าธรรมเนียมโอนการขายจากร้อยละ 2% เหลือร้อยละ 0.01 % และการจดทะเบียนจำนองจากร้อยละ 1% เหลือร้อยละ 0.01% ในช่วงวันที่ 29 ตุลาคม 2558 และสิ้นสุดในวันที่ 28 เมษายน 2559 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ว่า นโยบายนี้ไม่ได้มีผลต่อการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด จึงไม่ควรต่อมาตรการนี้ออกไปอีก
จะเห็นได้ว่าจากยอดปริมาณงานทีมีการทำนิติกรรมของกรมที่ดินตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2558 มีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอด ยกเว้นในเดือนธันวาคม 2558 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของการใช้ราคาประเมินทางราชการเพื่อการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (ราคาของรอบใหม่ใช้ในปี 2559-2562) และยิ่งหากพิจารณาถึงรายได้จากภาษี ค่าธรรมเนียมโอนและอื่น ๆ ของกรมที่ดิน จะพบว่า ยกเว้นเดือนธันวาคม 2558 รายได้ก็ไม่แตกต่างกันโดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน 2558, มกราคมและกุมภาพันธ์ 2559 รายได้ก็ไม่แตกต่างจากเดือนก่อน ๆ เลย (bit.ly/1TsvXJP) การที่มีผู้มาโอนในวันราชการวันสุดท้ายของเดือนเมษายน 2559 ที่หมดมาตรการกระตุ้นนั้น จึงเป็นข้อยกเว้นเท่านั้น
การที่มีผู้มาจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ณ สำนักงานที่ดินในเดือนธันวาคม 2558 ไม่มากไปกว่าปกตินัก (ยกเว้นปรากฏการณ์ที่เห็นในวันสุดท้ายของการโอนที่แห่กันมาโอนจนถึงรุ่งสางของอีกวันหนึ่งในสำนักงานที่ดินบางแห่ง) แต่รายได้ที่กรมที่ดินจัดเก็บได้กลับพุ่งสูงขึ้นมากในเดือนดังกล่าวนั้น คงเป็นเพราะการมาโอนทรัพย์สินที่ดินแปลงใหญ่ ๆ มากกว่าการโอนที่อยู่อาศัยทั่วไป
มาตรการดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะซื้อบ้านในช่วง 6 เดือนดังกล่าว ผู้ที่จองซื้อบ้านหรือห้องชุดในช่วง 6 เดือนนี้ แต่จะได้โอนบ้านในภายหลังก็ไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากการนี้ มาตรการนี้จึงเป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในช่วงนี้ได้ระบายสินค้าได้เร็วขึ้น เป็นการเสริมสภาพคล่องของผู้ประกอบการ ลดความเสี่ยงในการถือครองทรัพย์ของผู้ประกอบการ ทำให้ไม่ประสบปัญหาทางธุรกิจ และมีความมั่นคงทาการเงินมากขึ้น
ในรอบไตรมาสแรกของปี 2559 ก็ปรากฏว่าตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวลง (bit.ly/22nyOIR) และหากประมาณการทั้งนี้ ก็จะพบว่าตลาดหดตัวลงอย่างเด่นชัด ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตต่ำกว่า 3% การส่งออกยังไม่กระเตื้อง ราคาพืชผลทางการเกษตรยังตกต่ำ และแม้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้ลดลง เพราะนักท่องเที่ยวจีนซึ่งทะลักเข้ามามากใช้จ่ายน้อยกว่านักท่องเที่ยวอื่น (bit.ly/1W1Q8TB) นั่นเอง
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่ามาตรการกระตุ้นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวมโดยตรง อารมณ์ความรู้สึกที่เห็นคนแห่มาโอนบ้านกันมากมายเฉพาะในวันสุดท้าย จึงไม่อาจนำมาตัดสินเชิงนโยบายได้ ที่สำคัญในภาวะขณะนี้เราจำเป็นต้องมีภาษีมาบำรุงประเทศอีกด้วย ภาระภาษีนี้ก็ไม่ได้สูงเกินกว่าที่จะตัดสินใจทิ้งบ้างที่จองซื้อไว้แต่อย่างใด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
เปิดเงื่อนไขพนักงาน "ไดกิ้น" ที่จะได้รับทอง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สาย
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย



