ทฤษฏีที่ตีแผ่ว่า "Totoro" น่ารักที่เราดูตั้งแต่เด็ก อาจซ่อนความหลอนขนหัวลุกเอาไว้ !
My Neighbor Totoro หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “โทโทโร่” รึไม่ก็ “โตโตโระ” นับเป็นหนึ่งในอนิเมชั่นคลาสสิกตลอดกาลอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะความน่ารักในเรื่องนี้มัดใจทุกคนได้อยู่หมัด
ดูกี่ครั้งก็ยิ้มทุกที เพราะเรื่องราวความผูกพันระหว่างซะสึกิ กับเม ที่ไปซี้กับเจ้าพวกโตโตโระ มันช่างน่าเอ็นดู
เป็นหนึ่งในอนิเมชั่นที่หลายคนต่างออกปากชมว่า ดูแล้วเย็นใจ…แต่มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าจู่ๆมีทฤษฏีหนึ่งที่ตั้งสมมติฐานขึ้นมาว่าแท้จริงแล้ว อนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ได้น่ารักอย่างที่ใครเข้าใจ หากแต่ซ่อนเร้นเงื่อนงำขนหัวลุกเอาไว้!?
ครั้งแรกที่ได้ยินทฤษฏีนี้จาก Cherrypistoru ซึ่งเว็บไซต์ aminoapps ได้นำเสนอ แซ่บจี๊ดเองก็รู้สึกแปลกพิกล แต่พอลองได้ฟังดูมันก็เป็นอีกแง่มุมที่น่าคิด ซึ่งหากใครจะอ่านต่อไป ก็ขอบอกไว้ก่อนว่ามันเป็นเพียงทฤษฏีเท่านั้น
ทฤษฏีที่ว่านี้ได้ตีความเอาไว้ว่า “โตโตโระที่ดูน่ารัก แท้จริงคือฆาตกรและเป็นเทพแห่งความตาย!?” มันเป็นไปได้อย่างไร
ทุกคนที่ได้ดูล้วนรู้ว่า ซะสึกิ และ เม คือสองพี่น้องที่ต้องย้ายมาอยู่ในชนบท เนื่องจากแม่ของตนป่วยหนัก ทั้งสองต้องทำความคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่ ซึ่งในเวลาต่อมาพวกเธอได้ไปรู้จักกับเหล่าวิญญาณะ (ที่ผู้ใหญ่มองไม่เห็น) พวกนั้นก็คือโตโตโระ ซึ่งคนที่จะมองเห็นโตโตโระได้ คือคนที่กำลังเข้าใกล้สู่ความตาย หรือไม่ก็ต้องตายไปแล้ว
หากจำได้จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ เม หายตัวไป และตอนที่ซะสึกิออกตามหา ก็เจอเพียงรองเท้าที่ลอยอยู่ในแอ่งน้ำ
มันคือรองเท้าคู่เดียวกับที่เมใส่ นั่นหมายความว่าในความเป็นจริง “เม” อาจพลาดจมน้ำตาย
ภาพรองเท้าของเม
แต่ซะสึกิผู้พี่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่านั่นไม่ใช่รองเท้าของเม จากนั้นเธอก็ดิ้นรนตามหาโตโตโระ เพื่อควานหาความช่วยเหลือ ซึ่งภายหลังโตโตโระได้พาเธอไปเปิดประตูแห่งความตายของตัวเธอเอง
ในที่สุดเมกับซะสึกิก็ได้พบกันอีกครั้ง และทั้งสองก็ได้พากันไปพบแม่ที่โรงพยาบาล ซึ่งคนเดียวที่สังเกตเห็น “เม” ก็คือคุณแม่ ซึ่งกำลังป่วยหนักและกำลังเข้าใกล้สู่ความตายเช่นกัน
ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือหากสังเกตดีๆจะพบว่า ในตอนต้นเรื่องตัวละครจะยังมี “เงา” ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นมนุษย์
แต่ในตอนช่วงใกล้จบเรื่อง ถ้าใครสังเกตเจาะลึกลงไปจะพบว่า “เงา” ของเมได้เลือนหายไปแล้ว นั่นจึงเชื่อมโยงอย่างลงตัวกับทฤษฏีที่บอกว่า เมเสียชีวิตจากการจมน้ำ
อย่างไรก็ตามทฤษฏีนี้ไม่ได้ยุติแค่ตรงนั้น โดยในญี่ปุ่นมีคดีที่เป็นเล่าเก่าแก่จากเขต Sayama (ซึ่งเขต Sayama ก็คือฉากทั้งหมดที่ปรากฏในเรื่องโตโตโระ) ในคดีนั้นมีคู่พี่น้องที่เสียชวิต ซึ่งในคดีนั้นได้เล่าไว้ว่า เด็กหญิงคู่นี้เห็นวิญญาณของ “แมว” ก่อนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทั้งคู่ปลิดชีวิตตัวเองในเดือน May (พฤษภาคม) แล้วเมื่อลองสะกดชื่อตัวละครดูจะพบว่า ตัวละครทั้งสองเชื่อมโยงกับคำว่า “เม” อย่างน้องสาวก็ชื่อว่า Mei (เม) ส่วน Satsuki (ซะสึกิ) ก็เป็นภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงเดือน พฤษภาคมเช่นกัน
นอกจากนี้ในญี่ปุ่นยังมีภาวะหนึ่งที่เรียกว่า gogatsubyou หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “May blues” โดยมันเป็นอาการที่ใช้เรียกโรคซึมเศร้า อมทุกข์ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน หรือพนักงานออฟฟิศ ที่ทรมานกับการต้องย้ายมาที่โรงเรียนใหม่ๆ พื้นที่ใหม่ๆ หรือสำนักงานใหม่ๆ ซึ่งในโตโตโระเอง พี่น้องเมกับซะสึกิ ก็ต้องย้ายบ้านมาอยู่ในถิ่นห่างไกลเช่นกัน และนั่นจึงยิ่งตอกย้ำว่าทฤษฏีหลอนดังกล่าว มีความเป็นไปได้พอสมควร
อย่างไรก็ตามมันก็เป็นแค่ทฤษฏีเท่านั้น และก็เป็นเพียงอีกแง่มุมที่คนมองอนิเมชั่นคลาสสิกตลอดกาลเรื่องนี้ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะมองเรื่องนี้อย่างไร โตโตโระจะเป็นเทพแห่งความตาย รึความสุข ก็ขึ้นอยู่กับเรา