น้องภูผาเขียนลายไทย ที่อ.เฉลิมชัยชมว่าเป็นศิลปินเด็กอัจฉริยะ
น้องภูผาหรือ ด.ช.ปรวุธ จิรมิตรมงคล 10 ขวบ เริ่มวาดภาพครั้งแรกตอน 2 ขวบครึ่งเป็นรูปพญานาค หลังจากที่ไปวัดกับคุณพ่อและพบเห็นรูปปั้นพญานาคจึงถามคุณพ่อ แต่ครั้งแรกนั้นยังไม่ค่อยเหมือน น้องใช้เวลาฝึกฝน 3 เดือนก็เก็รายละเอียดครบถ้วน ต่อมาก็วาดพระพิฆเนศ เป็นปู่ฤาษี เป็นพระศิวะ ซึ่งน้องจะวาดเป็นแบบตามจินตนาการไม่ได้ก๊อปปี้มาทั้งหมด การวาดนั้นจะวาดซ้ำๆ รูปเดิมหลายๆ ครั้งจนกระทั่งน้องพอใจ
ทางคุณพ่อคุณแม่จึงพาน้องไปเรียนตอนอายุ 3 ขวบครึ่ง แต่น้องวาดซ้ำๆ จนเหมือน ฉะนั้น เวลาคุณครูสั่งเขาก็จะให้ไปตามขั้นตามสเต็ป พอน้องเป็นอย่างนั้น ก็เลยกลายเป็นว่า น้องลงเส้นเสร็จแล้วลงสีตาม เขาตัดเส้นแล้วมองไม่เห็น ก็เลยเละ ไม่สวย คุณพ่อแม่ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นอย่างนั้นให้เขาเรียนรู้ด้วยตัวเขาเองดีกว่า
จากนั้นก็จัดเก็บภาพของน้องภูผาไว้เป็นช่วงอายุ 3-4 ขวบ 4-5 ขวบ 5-6 ขวบ ก็ได้เห็นพัฒนาการของเขาเรื่อยๆ และมีการนำผลงานส่งหลายเวทีเช่น เข้าประกวดโลโก้ของบริษัทหนึ่ง ครั้งนั้นน้องไม่ได้รับรางวัลแต่วันไปรับรูปที่เขาจัดเป็นนิทรรศการวันนั้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พนักงานเขาบอกว่าอย่าไปบอกใครนะ จริงๆ รูปน้องได้ที่ 1 ทั้งสองรูป แล้วก็แถมด้วยรางวัลอะไรสักรางวัลพ่วงด้วย แต่สาเหตุที่ไม่ได้เพราะเขาไม่เชื่อว่าเด็กวาด
พอน้องทราบความจริงก็ซึมไป ทำให้คุณพ่อแม่ต้องเข้าไปปลอบ และก็ไม่ได้ส่งผลงานไปประกวดอีกเลย เน้นโชว์มากกว่า และที่คนส่วนใหญ่รู้จักน้องก็คราวไปออกรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์
เมื่ออ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เจอกันน้องก็บอกให้พาไปเชียงรายด่วน เมื่อ 8 ม.ย. 2558 ก็รับน้องเป็นลูกศิษย์ โดยท่านบอกด้วยว่า ถ้าน้องยังไม่หยุดสนใจ เขาก็จะปั้นให้ไปถึงที่สุด เพราะว่ามันมหัศจรรย์ ท่านว่าอย่างนั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่เด็กคนหนึ่งจะรังสรรค์ลายเส้นอย่างนี้ เพราะคนที่เรียนมหาวิทยาลัย บางทียังไปไม่ได้เลย
ภาพนี้น้องภูผามอบให้แก่ชาริตี้บ๊อกซ์เพื่อประมูลเป็นเงินนำไปมอบแก่น้องๆพิการบ้านนทภูมิ
ตอนนี้ผลงานของน้องภูผามีคนชื่นชอบมาก ถึงกับสั่งครั้งละ 5000-10000 บาทต่อภาพ แต่คุณแม่ก็ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องเม็ดเงิน อยากส่งเสริมให้ลูกทำในสิ่งที่รักและสนับสนุนเต็มที่ เมื่อสอบถามน้องภูผาตอบว่า ผมอยากเป็นศิลปินครับ