ฉันควรอภัยให้เขาหรือเปล่า?
เรื่องของฉันมันเริ่มต้น ตอนฉันเริ่มรู้ตัวว่าตั้งท้อง ในเดือนกุมภาฯ ตอนนั้นทุกอย่างดูจะโหดร้ายและถาโถม คือ แฟนก็กำลังตกงาน ประกันรถยนต์ก็ต้องต่อ ค่าหอพักก็ไม่พอจ่าย แถมมารู้ว่าตัวเองท้อง ตอนนั้นทั้งกลุ้มทั้งเครียดแต่ก็ไม่อยากพูดกดดันแฟนมาก กลัวเขากังวล และหลังจากนั้นแฟนก็ได้งาาทุกอย่างก็ค่อยๆดีขึ้น แต่ฉันไม่ยอมมีอะไรกับแฟนเพราะกลัวมีปัญหากับลูกในท้อง ถึงใครหลายคนจะบอกว่ามีได้ แต่ฉันไม่กล้าเสี่ยง เพราะฉันแต่งงานมา 6 ปี เขาเพิ่งมาเกิด ก็บอกกับแฟนไปแบบนี้ ฉันก็คิดว่าเขาจะเข้าใจ
เพราะเขาทำหน้าที่เป็นแฟนที่ดี คอยหาสิ่งนั้นสิ่งนี้มาให้กิน คอยบีบนวด ดูแลสาระพัด ฉันเองก็รู้ว่าไม่สามารถสนองเรื่องบนเตียงได้ ฉันพยายามสื่อสารให้เขารู้ว่ารักเขามาก
สำหรับใครที่เคยท้องคงรู้ว่า ผู้หญิงที่เคยมั่นใจในตัวเองว่าดูดี จะทรมานขนาดไหนกับการที่มองดูหุ่นตัวเองๆค่อยๆพัง เริ่มมีริ้วรอยตามตัว แถมทรมานกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ที่สำคัญต้องมากังวลว่า ลูกที่เกิดมาจะสมบูรณ์ไหม เพราะก่อนท้องผอมและตัวเล็กมาก
ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินผ่านไปด้วยดีตามกาลเวลา ฉันพยายามแสดงให้เขารับรู้ให้มากที่สุดว่า รักและภาคภูมิใจในตัวเขาขนาดไหน จนถึงวันที่ฉันคลอด ต้องผ่าออกเพราะฉันตัวเล็กลูกตัวใหญ่เกินไป ฉันต้องทนทรมานกับแผลผ่าตัด ลูกเกิด 17 ตุลาฯ ฉันมีความสุขล้น ตั้งแต่ท้องจะเรียกแฟนเสมอว่า พ่อจ๋า และแทนตัวเองว่า แม่
แต่ความสุขก็พังทลาย วันที่ 10 พฤศจิฯ ฉันหยิบมือถือเขามาเล่นเกม แล้วเจอ account Facebook ที่ฉันไม่รู้จัก บทสนทนาเชิงชู้สาว อย่างคนโสด และเหมือนคนที่มีความต้องการสูง ฉันจึงไถ่ถามเขายอมรับว่า ของเขาเอง เพิ่งสมัคร (นั่นตอแหลอย่างแรก) ฉันนั่งไล่อ่าน บทสนทนาจีบคนนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ เดือนกุมภาฯ มีการพูดคุยกับสาวขายบริการมากมายหลายคน แชทคุยกับเขาลึกซึ้ง ขอดูหุ่น ทั้งอยากสวิงกิ้ง โน่นนี่มากมาย มีอยู่คนหนึ่งเขาจีบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเธอสวยและอยู่แถวพระราม2 เหมือนกัน
ฉันถามว่าคนชื่อเก๋เป็นใคร เขาตอบเป็นเพื่อน เพื่อนกันเขาอยากนัดเจออยากพาเที่ยวอยากติดต่อมากๆ อยากเจอจริงๆ นี่เหรอบทสนทนากับเพื่อน
สรุปคือ ตอนท้องฉันมองเขาว่าเป็นเทพบุตร แต่ลับหลังฉันเขากลายร่างเป็นผู้ชายตัณหากลับ
ฉันขอเลิก ลูกที่เพิ่งเกิดฉันเลี้ยงเอง เขาเอาเครื่องธูปมากราบขอขมาฉัน และขอให้ฉันอยู่ต่อ ขอโอกาสให้เขาปรับตัวแก้ไข โดยให้เหตุผลว่า ตอนนั้นเขาต้องการกำลังใจ พอนานไปมันเลยเตลิด แต่ฉันพูดจี้จุดไปว่า เท่าที่ฉันจำได้ ฉันจะพูดเสมอ ว่า ฉันรักพี่นะ รักมากด้วย ทำงานเหนื่อยไหม เหนื่อยก็พักนะ อยากจะรู้ นี่ไม่ใช่กำลังใจแล้วเขาต้องการอะไร
แต่งกันมา 6 ปี นอกใจฉันได้ลงคอ นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกก่อเรื่องเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นทำงานคนละจังหวัด นั่นก็นัดแฟนเก่าไปหา นัดไปเปิดโรงแรม พอจับได้ก็ขอโทษและบอกจะไม่ทำอีก ตอนนั้นตกเขาตกงานหลายเดือน ใช้เงินเก็บจนหมด บอกให้หางานก็พูดแต่อยากพักก่อน ฉันกดดันและเครียดแค่ไหนก็ยังอภัยและป่านมาได้
วันนี้เขาทำร้ายคนที่ร่วมทุกข์กับเขามาเนิ่นนาน ฉันเพิ่งเข้าใจในสัจธรรมของผู้ชายบางคนว่า ผู้หญิงที่วางตัวให้มีค่า แต่งตัวให้น่านับถือ เป็นแม่พิมพ์ที่ดี มันไม่มีประโยชน์เลย เพราะเขาชอบเล่นกับไฟ ชอบผู้หญิงที่ชอบอ่อยชอบโชว์มากกว่า
ถามว่า จะอภัยให้เขาเพื่อลูกไหม ฉันก็ยังไม่แน่ใจ.... แม้ว่าต่อหน้าใครๆในครอบครัว เราจะแสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังรักกันดี แต่ในใจฉันรู้ดี ว่าฉันไม่รักเขาเหมือนเดิมอีกแล้ว ที่ยังทนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อลูกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ไมาถึง 4 เดือน แต่ฉันทนไม่ไหว ก็ไม่รู้เหมือนกัน
เพราะทุกครั้งที่มองหน้าเขา ฉันมีแต่คำถาม เช่น ฉันหน้าตาดูไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไม่ดีมากเลยเหรอถึงทำร้ายฉันขนาดนี้ แล้วคำสัญญาว่าจะรักจะไม่ทำให้เสียใจมันคืออะไร แล้วนิยามความรักของเขาคืออะไร