5 เทพ 'สไนเปอร์' กับเรื่องราวที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน
Roza Georgiyevna : โรซา จอร์จิเยฟน่า เป็นสไนเปอร์สาววัยเพียง 20 ปี ของโซเวียต ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เธอได้รับฉายาว่า ‘ฝันร้ายที่มองไม่เห็น’ จำนวนเป้าหมายที่เธอสังหารคือ 59 ราย แต่โชคร้ายที่เธอเสียชีวิตที่เลนินกราด จากไดอารี่ของเธอที่พบ ทำให้เชื่อว่าเธอถูกสังหารโดยกระสุนปืนใหญ่จากรถถังของนาซีเยอรมัน
Billy Dixon : บิลลี่ ดิ๊กซัน คือพลเรือนจาก 1 ใน 8 คน ที่ได้รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor
ไม่มีใครทราบจำนวนเป้าหมายที่ถูก เขาสังหารแน่ชัด ดิ๊กซันเป็นที่รู้จักในฐานะนักล่าควายไบซัน ในช่วงที่เท็กซัส กำลังถูกโจมตีโดยชนเผ่าอินเดียนแดงพื้นเมืองจำนวน 700 คน และเขาได้สร้างสถิติการสังหารเป้าหมายที่อยู่ไกล ถึง 1.6 กม. ในช่วงการสู้รบกับชนเผ่าพื้นเมือง เขาทำหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมของทางการในการไล่ล่า ชนเผ่าพื้นเมือง
Craig Harrison : สิบโท เคร็ก ฮาร์ริสัน จากกองทัพอังกฤษคือผู้สร้างสถิติสังหารเป้าหมายที่ไกลที่สุด
คือ 2.47 กิโลเมตร สถิติดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2009 เมื่อเขาสังหารกลุ่มตาลีบัน 2 นาย โดยใช้เวลาเพียง 6 วินาทีนอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าเห็นเหยื่อจำนวนมากที่ถูกเขาสังหารตามมา หลอกหลอนในความฝันของเขา ซึ่งไม่สามารถระบุจำนวนเป้าหมายที่ถูกเขาสังหารได้แน่ชัด
Carlos Hathcock : คาลอส ฮาร์ธค็อก คือสไนเปอร์แห่งหน่วยนาวิกฯ สหรัฐ ในช่วงสงครามเวียดนาม
ต่อมาเขาถูกยกย่องว่าเป็นอีกหนึ่ง สไนเปอร์ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งเท่าที่อเมริกาเคยมีมา จำนวนเป้าหมาย ที่ถูกฮาร์ธค็อกสังหารอยู่ที่ 93 ราย แต่เชื่อจำนวนจริงอาจสูงถึง 300 ถึง 400 คน
กล่าวกันว่ากองทัพเวียดนามเหนือและ เวียดกงต่างหวาดกลัวฮาร์ธค็อกจนถึงขนาดตั้งค่าหัวสไนเปอร์คนนี้ถึง 30,000 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว เพราะสไนเปอร์ที่กล่าวกันว่าฝีมือดีที่สุดของเวียดนามในขณะนั้นถูกฮาร์ธค็อก จัดการได้อย่างง่ายดาย!
Simo Hayha : ซิโม เฮย์ฮา คือสไนเปอร์ของกองทัพฟินแลนด์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาคือศัตรู
อันดับต้น ๆ ที่โซเวียตหวาดกลัว กล่าวกันว่าเขาคือสไนเปอร์ที่สังหารเหยื่อมากที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา และอาจหมายถึงสไนเปอร์ที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยจำนวนเหยื่อของเขาคือ 505 ราย!
ซิโมได้รับสมญานามว่า ‘ปีศาจหิมะ’ เนื่องจากเขาชอบพรางตัวกับพื้นที่หนาวเย็นและมีหิมะเพื่อรอคอยการสังหาร เหยื่ออย่างใจเย็น จนโซเวียตตัดสินใจยิงปืนใหญ่ถล่มที่ตั้งของซิโมเพื่อเอาคืน เขาได้รับบาดเจ็บ ถูกลูกหลงจากกระสุนปืนจนทำให้ใบหน้าของเขาเสียโฉม หลังจากสงครามสิ้นสุด ซิโมได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษของชาติ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจนเสียชีวิตในปี 2002
http://www.clipmass.com/story/107839