พระเทวทัตเริ่มผูกเวรกับพระพุทธเจ้า
ปฐมชาติที่พระเทวทัตเริ่มผูกเวรกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คือ ในชาติที่ทั้งคู่ได้เกิดเป็นพ่อค้าเร่ พ่อค้าเร่(เทวทัต)ก็ได้เร่ขายของไปยังเมืองๆ หนึ่ง บังเอิญวันนั้นไปเจอยายหลานคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ดีตกยาก ได้เสนอขายถาดใบเก่าๆใบนึง แต่ความหมองจึงดูไม่รู้ว่าเป็นถาดทองคำ เมื่อพ่อค้าเทวทัตรับมาก็รู้ทันทีว่า นี่คือถาดทองคำ เพราะ หนักกว่าเหล็ก หนักกว่าตะกั่ว หนักกว่าโลหะอื่นทั้งนั้น พอแอบเอาเข็มกรีดดูก็เห็นประกายทอง จึงมั่นใจว่าใช่แน่นอน
ด้วยความโลภอยากได้กำไรเยอะๆ จึงแสร้งบอกว่า “นี่มันถาดเก่าๆ ไม่มีค่าอะไรหรอก”’ แล้วยื่นถาดคืนให้ คิดว่าอีกสักพักค่อยแกล้งเดินกลับมารับซื้อเพื่อจะได้กดราคา แต่พอคล้อยหลังพ่อค้า(เทวทัต) พ่อค้าพระโพธิสัตว์ก็เดินผ่านมาพอดี ยายหลานก็นำถาดมาเสนอแลกข้าวของจากพระโพธิสัตว์ เมื่อท่านหยิบมาพิจารณาดู จากประสบการณ์ที่ได้ค้าขายมานานก็รู้ว่าดีว่า “นี่คือถาดทองคำ” จึงบอกไปตรงๆว่า “นี่เป็นถาดทองคำที่มีค่ามหาศาล ของทั้งหมดที่เอาติดตัวมามีค่าไม่พอจะแลกกับถาดใบนี้หรอก” ด้วยความดีใจยายหลานจึงตอบไปว่า “มีของทั้งหมดก็เอามาเถิด ได้แค่นั้นก็ดีใจมากแล้ว”
พระโพธิสัตว์จึงยกของที่มีทั้งหมดให้แก่ทั้งสองแล้วเอาถาดทองคำกลับไป พอพ่อค้า(เทวทัต)ย้อนกลับมาแลกถาดก็ได้รู้ว่ายายหลานได้แลกสินค้ากับพ่อค้าพระโพธิสัตว์ไปแล้ว
แทนที่จะอายตัวเองว่า “โลภมากลาภหาย” แต่กลับโกรธพ่อค้าพระโพธิสัตว์ที่ฉวยลาภของตนเองไป ด้วยความโกรธแค้นพ่อค้า(เทวทัต)
จึงวิ่งไล่ตามไปถึงแม่น้ำแต่ไปไม่ทัน เพราะพ่อค้าพระโพธิสัตว์ได้ข้ามแม่น้ำไปแล้ว ด้วยความขาดสติโกรธจัดที่พ่อค้า พระโพธิสัตว์มาขัดลาภก้อนใหญ่ของตนเองไป
จึงคว้าเอาฝุ่นผงดินริมแม่น้ำขว้างตามไปแล้วอธิษฐานจิตว่า”จะขอตามจองเวรทุกชาติเหมือนกับจำนวนเม็ดฝุ่นที่ขว้างออกไป” เมื่อพูดเสร็จตนเองก็ขาดใจตาย
หลังจากนั้นมาพระเทวทัต ก็ตามจองล้างจองผลาญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งเมื่อบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ามาทุกภพทุกชาติ ที่สุดก็ต้องรับบาปกรรมไปมากมาย ไม่คุ้มเลยจริงๆ
พวกเราอย่าไปจองเวรใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีคุณธรรมสูง เป็นเรื่องที่อันตรายน่ากลัวมากจริงๆ