ไม่ต้องง้อเพศแม่ ไม่ต้องแต่งงานกับหญิงหรือจ้างอุ้มบุญเพราะมดลูกเทียม
เครดิตจากคุณหมอแนนนี่ จากเวปเด็กดีหมวดวิทยาศาตร์และการค้นคว้า
ได้ออกมาอธิบายถึงเทคโนโลยีในอนาคตว่าเรากำลังจะมีเครื่องผลิตมดลูกเทียม
"นับเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาตร์มากๆค่ะ เมื่อเทคโนโลยีเอ็กโตเจเนซิส (Ectogenesis)
เด็กหลอดแก้วเติบโตในมดลูกเทียมนอกร่างกายมนุษย์ หรือเรียกว่าเทคโนโลยีเอ็กโตเจเนซิส (Ectogenesis) ความหวังนี้ไม่ไกลเกินเอื้อม และอาจพัฒนาจนใช้งานแพร่หลายในอนาคต
เทคโนโลยีเอ็กโตเจเนซิสพัฒนาระยะเริ่มแรกตั้งแต่ปี 2001 และในปี 2003 ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล ใช้เนื้อเยื่อสร้างมดลูกอิสระและเริ่มเลี้ยงตัวอ่อนหนูเติบโตในครรภ์เทียมได้สำเร็จ เป็นความหวังว่าจะสามารถสร้าง “ครรภ์เทียม” เลี้ยงมนุษย์ให้เติบโตได้
โซลทัน อิสต์วาน (Zoltan Istvan) เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะพร้อมใช้งานภายใน 20 ปี (2577) คาดว่าจะนิยมแพร่หลายในอีกทศวรรษต่อมา อิสต์วานอ้างว่าเทคโนโลยีนี้มีอยู่แล้ว แต่ความกังวลทางกฎหมายและจริยธรรมจะส่งผลในการทดลองในมนุษย์เลื่อนออกไป
เทคโนโลยีเพาะเลี้ยงสิ่งมีชีวิตนอกร่างกายอาจนำไปใช้กับสัตว์และแบคทีเรียได้ โดยการสร้างมดลูกเทียมให้สารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์ มีถุงน้ำคร่ำเพื่อถ่ายของเสียออกมา ซึ่งเชื่อมต่อเครื่องรกจำลองและสายเคเบิลเพื่อตรวจสอบทุกอย่างนับจากน้ำหนัก อัตราการเต้นของหัวใจ และพัฒนาการของทารก
เนื่องจากทารกในครรภ์เทียมจะได้รับการตรวจสอบและดูแลอย่างใกล้ชิด โอกาสที่ทารกคลอดออกมาแล้วเสียชีวิตจะลดลง
รวมถึงเครื่องมดลูกเทียมนี้ยังสามารถจำแนกเพศของอสุจิได้ (เหมือนกับเราเลือกตัวละครเกมส์แหล่ะว่า จะเล่นเป็นตัวผู้ชายหรือตัวผู้หญิง)
>> เพราะว่ามนุษย์เกิดมาเป็นเพศใด ขึ้นอยู่กับอสุจิ1เดียวเท่านั้น
ดังนั้น มดลูกหรือรังไข่ของผู้หญิง ไม่มีสิทธิค่ะ
มดลูกเทียม ทดลองนำมาใช้กับแกะสำเร็จแล้ว
จุดเริ่มต้นมากจาก นักวิจัยชาวญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคโนโลยีมดลูกเทียม(การท้องนอกมดลูก)
ประสบความสำเร็จ โดยใช้แกะเป็นสิ่งทดลอง คาดว่าเทคนิคดังกล่าวจะพัฒนามาใช้กับมนุษย์
เทคโนโลยีมดลูกเทียมนี้ แน่นอนสอดคล้องกับสังคมในยุคใหม่และอนาคต เช่น
1. ประชากรเกย์ซึ่งเพิ่มมากขึ้นทุกๆวัน อีกหน่อยไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับหญิงเพื่อที่จะมีลูก แต่จะใช้มดลูกเทียมนี้เพื่อสร้างครอบครัวชายรักชายให้สมบูรณ์
**คติแห่งความจริง(ลูกของเขา น้ำเชื้อของเขา เขาย่อมมีสิทธิในตัวลูกได้100%)
2. ปัจจุบันการอุ้มบุญ หญิงที่เป็นมดลูกเช่า ไม่มีสายเลือดอะไรเลยกับตัวลูก เพราะทางการแพทย์สามารถนำอสุจิ(พ่อที่ต้องการมีบุตร)มาผสมกับรังไข่(หญิงที่บริจาคไข่) นำมาเพาะเชื้อให้เจริญเติบโตในมดลูกเช่าเท่านั้น
(พูดง่ายๆคือ หญิงที่เป็นมดลูกเช่าไม่ใช่แม่ที่แท้จริง)
และ การอุ้มบุญเหมาะสมกับคู่เกย์ที่ต้องการมีบุตรเป็นอย่างมาก
แต่ยังมีบางกลุ่มที่เหมือนจะขัดขวางโดยตั้งแง่กฎหมาย และหมอบางพวก "ดิฉันเข้าใจค่ะว่ายังมีคนบางกลุ่มที่มีความคิดล้าหลัง ซึ่งหลักๆในข้ออ้างคือ แม่อุ้มบุญจะเกิดรักและผูกพันธ์ต่อลูก แต่คุณไม่อาจปฎิเสธว่า การอุ้มบุญ หญิงมดลูกเช่าไม่ได้เป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กเลยแม้แต่น้อย
แต่เป็นเหมือน "มดลูกเทียมที่มีชีวิต"เท่านั้น