จริงๆแล้วคุณไม่ได้อ้วน แค่ “บวมน้ำ”
มีคนมากมายที่กำลังเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณนั้นมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว แต่ที่ยังดูไม่ผอมอาจเป็นเพราะว่าเกิดอาการตัวบวม เนื่องจากการรับประทานอาหารบางชนิดที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป รวมถึงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่บ่งชี้ให้คุณตัวบวมมากขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว รับรองได้เลยว่า หากคุณเลิกพฤติกรรมผิดๆเหล่านี้ โอกาสที่คุณจะสวย หุ่นดี มีสูงขึ้นแน่นอน อย่ารอช้า ไปดูวิธีการที่ว่านี้กันเลยดีกว่าค่ะ
1. เพราะเป็นวันนั้นของเดือน
อาการบวมน้ำสามารถเกิดขึ้นได้มากโดยเฉพาะในช่วงการมีประจำเดือน เนื่องจากจะเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนเกิดความไม่สมดุล และมีผลให้ร่างกายกักเก็บของเหลวในร่างกายเอาไว้มากกว่าปกติ จนทำให้คุณบวมน้ำและมีอาการท้องอืดได้
วิธีแก้ แม้เราจะห้ามประจำเดือนไม่ได้แต่รู้หรือไม่ว่าการได้รับแมกนีเซียมเพียงวันละ 200 มิลลิกรัม ก็สามารถลดอาการท้องอืดได้เกือบ 50% แล้ว ซึ่งแมกนีเซียมสามารถหาทานได้ในอาหารประเภทถั่ว เมล็ดทานตะวัน ผักโขม จมูกข้าว และอโวคาโด
2. ดื่มน้ำมีไม่เหมาะสม
ถ้าคุณกำลังคิดว่า “การดื่มน้ำจะเพิ่มอาการบวมน้ำ” คุณคิดผิดแล้วละ แต่ในทางตรงกันข้าม “การดื่มน้ำน้อยเกินไปจะยิ่งทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้มากขึ้นต่างหาก” เพราะการดื่มน้ำน้อยเกินไป จะทำให้เลือดข้นจนทำให้ของเหลวไหลเวียนไม่สะดวก และเกิดอาการบวมที่มากขึ้นไปกว่าเดิม
วิธีแก้ การดื่มน้ำให้เพียงพอวันละประมาณ 8 แก้ว จึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ที่จะช่วยลดระดับสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ลดความรู้สึกท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง หรืออึดอัด ได้เป็นอย่างดี
3. ลดอาหารเค็ม สาเหตุสำคัญของอาการบวมน้ำ
ทราบหรือไม่ค่ะว่าอาหารที่มีรสเค็มส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย ‘โซเดียม’ และโซเดียวตัวนี้นี่ละที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการบวมน้ำได้มากถึง 2 กิโลกรัมในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน ทั้งนี้ก็เพราะร่างกายจะทำการเก็บน้ำไว้อย่างอัตโนมัติ เพื่อขับเอาโซเดียมส่วนเกินออกทางไต แต่กว่าที่ร่างกายจะขับเสร็จ คุณก็จะรู้สึกอึดอัด น้ำหนักขึ้น ตัวบวมไปก่อนแล้ว
วิธีแก้ ทานอาหารรสเค็มแต่พอดี หลีกเลี่ยงการทานขนมกรุบกรอบ เนื่องจากมีส่วนประกอบของโซเดียมในปริมาณมาก
4. ออกกำลังกายผิดเวลาก็ทำให้ตัวบวมน้ำได้
งานวิจัยชี้ว่า “การออกกำลังกายหลังรับประทานอาหาร จะทำให้เกิดแก๊สในระบบย่อยอาหารได้อย่างรวดเร็ว และเป็นผลให้เกิดอาการท้องอืด อึดอัด แน่นท้อง เนื่องจากระบบการย่อยอาหารกำลังทำงานอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมๆกับระบบกล้ามเนื้อที่เริ่มทำงานตอนที่คุณออกกำลังกาย” ซึ่งการที่ 2 ระบบนี้ทำงานไปพร้อมๆ กัน จะยิ่งทำให้เกิดแก๊สในระบบการย่อยอาหารได้มากขึ้น
วิธีแก้ ควรเว้นช่วงเวลาให้อาหารย่อยหมดก่อนที่จะเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือหากอยากจะออกกำลังกายเลย แนะนำให้เริ่มต้นจากการเดินจ็อกกิ้งเบาๆ จะมีผลดีกว่า
5. กินอาหารให้ช้าลง
การทานอาหารหรือเคี้ยวข้าวเร็วๆ จะทำให้คุณรับเอาอากาศเข้าไปมาก ซึ่งเวลาที่คุณกลืนอาหารลงไป อากาศก็จะตามเข้าไปในระบบย่อยอาหารมากด้วย เหตุผลนี้ทำให้เกิดอาการท้องอืดหรืออาการตัวบวมได้
วิธีแก้ ทานข้าวให้ช้าลง เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากขึ้น และควรฝึกเคี้ยวแบบไม่อ้าปาก เพื่อลดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังถือเป็นมารยาททางสังคมที่คุณควรมีติดตัวด้วย
6. ลดอาหารที่มีแก๊สสูง
อาหารที่มีแก๊ส เมื่อทานเข้าไปก็จะยิ่งไปเพิ่มแก๊สในระบบทางเดินอาหาร และมีผลให้คุณตัวบวมขึ้นได้ อาหารที่ก่อให้เกิดแก๊สมาก เช่น กะหล่ำปลี ชะอม สะตอ บล็อกโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วงอก เป็นต้น
วิธีแก้ เราไม่ได้ห้ามให้คุณหยุดทานอาหารเหล่านี้ เพราะอาหารเหล่านี้ต่างมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น สิ่งที่จะแก้ได้ง่ายนิดเดียว เพียงแค่คุณนำผักเหล่านี้ไปลวก 1-2 นาที ความร้อนจะช่วยลดแก๊สในอาหารชนิดนั้นได้ ส่วนผลไม้บางชนิด เช่น ฝรั่ง ก็อาจทำให้คุณรู้สึกท้องอืดได้เช่นกัน ลองปอกเปลือกฝรั่งออกก่อนทานก็จะช่วยลดแก๊สได้ดีมากขึ้น
7. คับเกินไปหรือป่าว
การสวมใส่เสื้อผ้าหรือรองเท้าที่คับมากจนเกินไป จะรัดให้เลือดลมไหลเวียนได้ไม่สะดวก และอาจส่งผลให้เกิดอาการบวมเฉพาะที่ โดยเฉพาะเท้าที่เต็มไปด้วยเส้นประสาทมากมาย ที่เชื่อมโยงการทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกายเอาไว้ที่จุดเดียว
วิธีแก้ เลือกรองเท้าที่สวมใส่สบายที่สุด พอดีกับเท้า ไม่เล็กหรือไม่ใหญ่มากจนเกินไป
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก lovefitt.com
เครดิตจาก women.thaiza.com