“ความเครียด” กำลังเกาะกินคุณอยู่หรือเปล่า

คิ้วผูกโบว์ ใบหน้าแก่เกินวัย อารมณ์แปรปรวนขึ้น – ลงอย่างไม่มีสาเหตุ ชีวิตผูกติดอยู่กับเข็มนาฬิกา (เวลา) ฯลฯ

            หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักมีอาการเช่นนี้ (โดยไม่ใช่ลักษณะนิสัยปกติ) ก็แทบฟันธงชี้ชัดไปได้เลยว่ากำลังถูกความเครียดเล่นงานอยู่แน่ๆ ถ้ารู้ตัวว่ากำลังตกเป็นทาสความเครียดก็ถือว่าดี ยังพอมีโอกาสแก้ไข แต่ถ้าเครียดโดยไม่รู้ตัวละก็ ผลลัพธ์ที่ตามมามีแต่เสียกับเสีย

ใครรู้ตัวว่าเครียด…มาทางนี้

Step 1 หยุด หยุดคิด พักสมองพักใจสักครู่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆ เปลี่ยนอิริยาบถ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อพยายามทำใจให้ปลอดโปร่ง นึกถึงสิ่งที่ชอบ และพาตัวไปอยู่ในบรรยากาศสบายๆ

ปัญหาเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อใจปลอดโปร่งขึ้น ขอให้ยอมรับและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น โลกนี้ไม่มีใครไม่เคยประสบปัญหา เว้นเสียแต่ว่าคุณไม่ได้ทำอะไรเลย

จากนั้นจึงพยายามคิดเรียงลำดับความสำคัญของปัญหา สิ่งใดควรแก้ไขก่อน – หลัง

Step 2 รู้จักระบายและรับคำปรึกษา ระบายความขุ่นข้อง ความกังวลในใจในรูปแบบที่ถนัด เช่น ร้องไห้ กรีดร้อง เล่นกีฬาหนักๆ รวมทั้งขอคำปรึกษาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจากคนรอบข้าง

ขอให้คิดถึงคนที่คุณไว้ใจและเชื่อว่าจะให้คำแนะนำแก่คุณได้ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนสนิท คนรัก หรือครูอาจารย์ เพราะอย่างน้อยจะได้บอกตัวเองว่ายังมีคนที่รักและเป็นห่วงคุณอยู่ คุณไม่ได้อยู่ลำพังคนเดียวและไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว

Step 3 รักชนะทุกอย่าง ความรักจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี รู้จักรัก – ให้อภัย และให้กำลังใจตัวเอง อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการดูถูกและมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเพียงเพราะอารมณ์เครียดชั่วขณะ

Step 4 ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าแก้ปัญหานั้นไม่ตก หรือไม่พึงพอใจกับแนวทางแก้ไขใดๆ ข้างต้น ก็ขอให้ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว และปล่อยให้เวลาทำหน้าที่แทน

วัคซีนป้องกันความเครียด

1. ใช้ชีวิตด้วยความหวัง แต่ไม่ตั้งอยู่บนความคาดหวัง การตั้งความหวังเป็นสิ่งดี แต่อย่าคาดหวังอะไรมากจนเกินไป ต้องรู้จักเผื่อใจไว้ยอมรับความพ่ายแพ้และความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
2. ออกแบบตารางชีวิตให้สมดุล แบ่งเวลาทำงานจดรายการที่ต้องทำในแต่ละวัน เพื่อจะได้ทำงานให้สนุก มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็มีเวลาให้กับตัวเองครอบครัว เพื่อนพ้อง
3. โลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟ็คท์ จำไว้ว่าไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน ไม่ว่าคนคนนั้นจะยากดีมีจนอย่างไร หรือเก่งกาจแค่ไหน ในการทำงาน 100 ชิ้น คงไม่มีใครได้คะแนนเต็มหมดทั้ง 100 ชิ้น ฉะนั้นอย่าใช้ตนเองเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใคร เพราะโลกนี้ไม่มีใครเหมือนใครได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ขอให้คิดว่าความแตกต่างเหล่านี้จะทำให้โลกสมบูรณ์และน่าอยู่ขึ้นต่างหาก
4. ยอดมนุษย์ไม่มีจริง ตราบใดที่คุณยังหิวเหนื่อย เจ็บ คุณก็ยังเป็นมนุษย์ปกติที่มีเนื้อหนังมีร่างกายที่ต้องคอยซ่อมเสริมดูแล ดังนั้นการกินอาหารพักผ่อนนอนหลับจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่างานจะหนักหนาขนาดไหน
5. ให้รางวัลกับตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง เห็นใจตัวเองบ้าง เช่น ทำงานตรากตรำมายาวนานควรได้ลาหยุดพักผ่อน ทำกิจกรรมอย่างที่ชอบ ฯลฯ
6. ยอมรับและเข้าใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดีจะร้ายเพียงใด แค่คุณ “ยอมรับ” และ “เข้าใจ” ชีวิตจะเป็นอย่างไรก็เอาอยู่!

ตราบใดที่ “ตื่นรู้” และ “มีสติ” ในการแก้ปัญหา รับรองได้ว่าไม่มีอะไรจะทำให้คุณเครียดได้…(ง่ายๆ)!