5 สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ในรถไฟญี่ปุ่น
ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่นึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็คงจะมี “รถไฟ” อยู่ในคำตอบนั้นด้วย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของประเทศญี่ปุ่นจึงทำให้ “รถไฟ” กลายเป็นหนึ่งในสาธารณูปโภคที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังมีสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสถานีรถไฟ ที่บางครั้งถ้าเราไม่ได้สังเกต เราก็จะไม่รู้เลยว่ามันมีอยู่จริง ๆ นะยูว์
มามะ ตาม เจ้ไปลุยกันเลย!!
1.ได้ฟังเพลงฟินน์ ๆ ก่อน ขึ้นรถไฟ กับ “เพลงเมโลดี้ประจำแต่ะละสถานี”
หากต้องใช้บริการรถไฟ JR ในระหว่างที่ยืนรอเพื่อที่จะขึ้นรถไฟ สิ่งที่ทางรถไฟจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่า รถไฟนั้นมาถึงแล้วนอกจากเสียงประกาศ แบบมุ้งมิ้ง ที่เรามักจะฟังกันไม่ค่อยออก ก็ยังมีเสียงเพลงเมโลดี้น่ารักให้ฟังอีกด้วยค่ะ โดยกิมมิค มันอยู่ที่แต่ละสถานีเค้าจะมีเพลงที่ไม่ค่อยซ้ำกัน ซึ่งฟังครั้งแรกเราก็เข้าใจว่ามันคือเพลงเดียวกันทั้งหมด แต่พอฟังไปฟังมาหลายๆ ครั้ง อุแม่เจ้า มีหลายเพลงเลยหล่ะ แต่สถานีไหนเพลงจะเป็นอย่างไรต้องมาลองฟังกันดูนะคะ …แต่อย่าฟังเพลินจนลืมขึ้นรถไฟกันหล่ะ
2.หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา….มีร้านราเมน บนชานชลา ด้วยนะเธอ
ปกติบนรถไฟในบางประเทศนั้นเค้าจะห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปทานบนรถ หรือชานชลาอย่าง เช่นประเทศไทย, ไต้หวัน ฯลฯ ก็ห้ามโดยเด็ดขาด แต่ที่ญี่ปุ่นเค้าไม่ได้ห้ามสามารถนำขึ้นไปทานได้ แต่ก็แปลกที่ไม่ค่อยเห็นคนนำขนมหรืออาหารขึ้นมาทานบนรถไฟ หรือขณะยืนรอรถไฟมากเท่าไหร่นะ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเค้าไม่ค่อยเดินไปทานไปกัน มันจะดูมิงามนะก๊ะ และหรือ หากจำเป็นต้องทานอาหารหรือขนมเค้าจะต้องหาที่นั่ง ..โอ๊ะ คนญี่ปุ่นกริยาเค้าเป๊ะจัง!!
ซึ่งว่าด้วยเรื่องอาหารการกินบนรถไฟ ญี่ปุ่นเค้าล้ำกว่านั้นเยอะไม่ใช่แค่นำอาหารหรือขนมมาแล้วหามุมนั่งทานเงียบๆ เค้ามาแบบจัดเต็มค่ะ ยกกันมาทั้งร้านเลยทีเดียว …ใครจะไปนึกถึงว่า สถานีรถไฟกับความวุ่นวายเร่งรีบของคนญี่ปุ่นจะมีโมเม้นต์ ยืนกินอุด้ง โซบะ ราเมน ซดซุป ซื้ดเส้น ซู๊ดซ๊าด ให้ตายเหอะไม่เคยมีภาพเหล่านี้ในหัวเลย จริงๆ แต่มันก็มีจริงๆแล้วค่ะคุณ! อย่างที่กล่าวไปแต่ละสถานีเค้าจะมีร้านเหล่านี้ ไม่ราเมนก็ อุด้ง หรือ โซบะ ประจำอยู่ ไว้คอยให้บริการเหล่าซาลารี่แมน นอกเหนือจากร้านสะดวกซื้อ บางสถานีที่ชานชลากว้างหน่อยเค้าก็ไปตั้งร้านกันบนชานชลานั้นเลย แต่ถ้าสถานีไหนแคบ เค้าก็จะขยับร้านมาไว้ยังใกล้จุดแตะบัตร เข้า-ออก แต่ร้านราเมน หรือ โซบะเหล่านี้ มักจะไม่มีที่ให้ลูกค้านั่ง เพราะพฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่ คือ รีบกิน รีบไป และส่วนใหญ่ คือ ชายอกสามศอก หรือ มนุษย์สูทที่เราเห็นบ่อยๆ ที่ญี่ปุ่นนั่นเอง จริงๆ ต้นแบบมาจาก standing sushi แต่เปลี่ยนเป็น standing soba แทน ….ขอฮัมเพลงตบท้ายว่า “หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา มีราเมนที่ชานชลา ด้วยนะเธอ” ฮู้วว์
3.ไฟสีน้ำเงิน ช่วยให้คนไม่กระโดดรถไฟฆ่าตัวตายได้ จริงหรือ???
มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ? ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ไอ้เจ้าหลอดไฟสีน้ำเงิน ที่เรามักจะเห็น หรือบางคนก็ไม่ได้ทันสังเกตเห็นที่ชานชลารถไฟนั้น เค้าติดเอาไว้เพื่ออะไร จากที่ได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น และ คนญี่ปุ่นมาแล้ว บอกว่า เจ้าดวงไฟสีน้ำเงิน นั้นที่ติดเอาไว้ เป็นหลักการทางจิตวิทยา ที่ส่งผลต่ออารมณ์ของมนุษย์ เมื่อมองแล้วจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด และทำไมต้องมาติดไว้ที่ชานชลาสถานีรถไฟกันด้วย
ก็เพราะว่า ประเทศญี่ปุ่น มีสถิติการฆ่าตัวตายสูง โดยเฉพาะการกระโดดรถไฟเพื่อฆ่าตัวตายนั้นเฉลี่ย 70คน/วัน โดยร้อยละ71 เป็นผู้ชาย ซึ่งมีอายุระหว่าง 20 – 44ปี สาเหตุของการฆ่าตัวตายส่วนใหญ่มาจากความเครียด (ข้อมูลปี2014 จากwikipedia) จะเห็นได้ว่า ในแต่ละปีของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีจำนวนคนเสียชีวิตจากการกระโดดรถไฟเป็นจำนวนที่เยอะมาก ดังนั้น เจ้าไฟสีน้ำเงินนี้ เลยต้องมียังชานชลารถไฟ โดยเฉพาะรถไฟสาย Chuo line เป็นรถไฟที่วิ่งเร็ว และมักจะมีคนมากระโดดฆ่าตัวตายในเส้นทางที่รถไฟสายนี้ผ่าน ถ้าอยากมาทดสอบการผ่อนคลายทางด้านอารมณ์ ด้วยเจ้าไฟสีน้ำเงินนี้ ด้วยตาตัวเองขอแนะนำว่า เชิญชมได้ที่ ชานชลาหมายเลข 12 สถานีรถไฟชินจุกุ เลยค่ะ … ชมไฟสีน้ำเงินอย่างเดียวนะ ถ้าไม่ผ่อนคลายก็ไม่ต้องพิสูจน์สันนิษฐานด้วยการกระโดด นะก๊ะ ไม่ดี ไม่เอา นะยูว์
4.อุตะ!!!! สละที่นั่งให้ คุณลุง คุณป้า แต่ทำไมเจอ สะบัดบ๊อบใส่
ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเราจะสละที่นั่งให้กับคุณลุง คุณป้า แต่พวกนางไม่ยอมนั่งแถมสะบัดบ๊อบใส่ให้เราหน้าแตกอีก อย่าได้อายไปค่ะ เหตุที่พวกนางไม่ยอมนั่ง ก็เพราะพวกนางยังคงมีความเชื่อว่า ฉันยังแข็งแรงดีอยู่ เสมือนวัยหนุ่มวัยสาว ยังไม่ต้องการได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น และ อีกประการหนึ่งก็คือไม่ต้องการรบกวนคนอื่นเพื่อเป็นบุญคุณกัน…โอ้ว ฟังแบบนี้แล้ว รู้สึกว่า คุณลุง คุณป้า ญี่ปุ่นนี่ อีโก้ สุดพลัง … แต่อย่างไรก็ตาม การสละที่นั่งในผู้ที่อาวุโสกว่า ก็ยังแสดงถึงการมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในสังคมไทย ซึ่งไม่ค่อยเห็นในสังคมญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ คนไทยอย่าได้อายไปค่ะ ขอให้ยังคงทำดีกันต่อไป เรื่อยๆ ถึงแม้จะถูกปฏิเสธ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ชาวโลกได้รู้ว่าคนไทยมีน้ำใจเสมอ โน๊ะ โน๊ะ
จริงๆ เรื่องการสละที่นั่งบนรถไฟในญี่ปุ่นนั้น มีหลายกรณีมาก ก็ต้องแบ่งตามสถานที่ที่เราขึ้น และช่วงอายุของกลุ่มผู้โดยสารด้วย มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งรู้สึกแปลกใจมากๆ ขอเรียกว่า คุณตา กับ คุณยาย ซึ่งท่านทั้งสองเดินด้วยไม้เท้ากันทั้งคู่ ก้าวขาขึ้นมาบนรถไฟ ซึ่งเราแปลกใจมากว่าทำไมไม่มีใครลุกให้ท่านนั่งเลย แม้แต่บริเวณที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุก็เต็มไปด้วยผู้สูงอายุนั่งอยู่แล้วอย่างครบครัน ท่านก็เลยเดินมายังบริเวณที่นั่งธรรมดา ก็ยังไม่มีใครลุกให้ท่านนั่งสักคน จากการสังเกตุด้วยตา เห็นได้ว่า คุณยาย น่าจะมีสภาพร่างกายแข็งแรงไม่เท่าคุณตา เราก็เลยสะกิดและบอกให้คุณยายมานั่งแทนที่เรา แต่เรากลับแปลกใจมากๆ ที่คุณยายไม่ยอมนั่งแต่ท่านเสียสละที่นั่งนั้นให้แก่คุณตา ถึงแม้ว่าคุณตาจะดูแข็งแรงกว่าคุณยายก็ตาม …. ได้สอบถามเรื่องนี้กับคนญี่ปุ่นแล้วว่า ในสมัยก่อนนั้น ผู้หญิงจะให้เกียรติผู้ชายมาก เพราะผู้ชายต้องออกจากบ้านไปทำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ไม่ได้ทำงาน ดังนั้นก็ต้องดูแลผู้ชายเสมือนราชา แม้แต่การเดินออกไปซื้อของด้วยกันคนที่ต้องถือสิ่งของหนักๆส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้ชายนะจ๊ะ แต่เป็นผู้หญิงจ้ะ เห็นภาพโอชิน ลอยมาไกลๆเลยหล่ะ โอ๊ะ!! ได้เห็นอีกมุมน่ารักๆ ของคุณยายโอชิน อิจฉาคุณตาจังเลย แต่ในสมัยนี้คงหายากแล้วสินะแบบนี้
5.ตู้นี้มีแต่ หญิง ล้วนๆ
สำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะ เด็ก , สาว หรือ สูงวัย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสัมผัส ถูกลวนลามในขณะที่ใช้บริการบนรถไฟ โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ที่คนจะแน่นสุดๆ อาจจะถูกเบียด ถูกบี้ ขยี้ปลายเท้า จนคนล้นทะลักออกมาจากตู้รถไฟนั้น ที่ญี่ปุ่นจะมีตู้โดยสารพิเศษเฉพาะ ผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิงขึ้นเท่านั้น บางสายก็อยู่ต้นขบวน บางสายก็จะอยู่ท้ายขบวน เพื่อช่วยเกิดความสบายใจ ปลอดภัยแก่หญิงสาวผู้ที่ไม่ต้องการถูกเนื้อต้องตัว หรือ ถูกลวนลามจาก ชายแปลกหน้า โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใดๆ เมื่อลูกสาวก้าวขาออกจากบ้านไป ปลอดภัย หายห่วงจากการถูกลวนลามแน่นอนค่ะ รถไฟฟ้าที่เมืองไทยน่าจะมีตู้นี้บ้างโน๊ะ
แต่เราก็เคยได้ยินเรื่องเล่า ต่อๆ กันมาจากคนญี่ปุ่นว่า ถ้า หญิงคนใดไม่เคยถูกแตะ ถูกสัมผัส หรือ ถูกลวนลามบนรถไฟ นั้นถือว่า ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาไม่ผ่าน หรือ ไม่สวย นั่นเอง ได้ยินอย่างนี้แล้ว ขอกลับไปนอนคิดทบทวนก่อนนะคะว่าเจ้เคยถูกลวนลามบ้างไหมน๊า ..อิอิ แหม่ ถ้ามาวัดเลเวลความสวยของผู้หญิงด้วยการถูกสัมผัส อย่างนี้ เจ้ขอเปลี่ยน category ของตัวเองเป็นแค่น่ารัก ใสๆ มุ้งมิ้งกิงก่องแก้ว เบาๆแค่นี้ก็พอแล้ว โน๊ะ สวยแต่ถูกลวนลาม เจ้ ไม่ไหว ไม่ไหว จริงๆ ฮ่ะ
เรื่องโดย #TKLS สาวแซ่บ แห่งไซตามะ