เพราะชีวิตไม่ใช่นิทานจึงไม่มีคำว่า Happy Ending จะมีก็แต่ Live and Learn
ผมไปเจอเรื่องราวจากกลุ่มๆ หนึ่ง เข้าไปอ่านแล้วทำให้ผมได้แง่คิดอะไรได้หลายๆอย่างเกี่ยวกับความรัก จึงขอเอามาแชร์ต่อนะครับ
เพราะชีวิตไม่ใช่นิทานจึงไม่มีคำว่า Happy Ending จะมีก็แต่ Live and Learn แล้วเราก็จะเรียนรู้ความสุขและความทุกข์ไปกับมัน
ตอนแรกที่ผมคบแฟนคนนี้ ตลอดระยะเวลา 8 ปี มีรักๆ เลิกๆ บ้าง แต่เมื่อต่างคนต่างไปใช้ชีวิตห่างกันสักพัก สุดท้ายก็กลับมาหากัน จนมีอยู่วันนึงผมตัดสินใจขอเธอแต่งงาน เธอตอบตกลง (หลายคนคงคิดว่าชีวิตผมนี่ดีแล้วชีวิตคงโรยด้วยกลีบกุหลาบ) ถึงจะมีขวากหนามบ้างแต่สุดท้ายก็ผ่านมาจนได้ครับ จนได้ … มีเรื่องเข้ามาจนได้ อยู่ดีๆเธอมาขอเลิกกับผม ตอนแรกผมก็ช็อคและไม่เข้าใจอย่างแรง แต่ท้ายสุดผมก็ได้รู้ว่า เธอไม่สามารถมีลูกได้ เธอกลัวผมจะเสียใจ เพราะเราคาดหวังอนาคตไว้ว่าจะมีตัวน้อยๆด้วยกัน แต่ผมก็บอกกับเธอ “ไม่เป็นไร แล้วเราจะผ่านไปด้วยกัน” และเราก็ได้กลับมาคบกันต่อ ผมทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้เวลาเธอมากขึ้น เราวางแผนสำหรับชีวิตเรา 2 คน วางแผนจะไปเที่ยวด้วยกัน วางแผนแต่งงาน สิ่งเลวร้ายได้ผ่านไปแล้ว ....
แล้วก็เกิดเรื่องที่ต้องทำให้ช็อคอีกเป็นครั้ง ที่ 2 เมื่อเธอไม่สบายเป็นลมล้มพับไป ผลตรวจออกมาว่า “เธอเป็นมะเร็งสมองขั้นที่ 2 หมอ บอกว่าอยู่ได้อีก 3-4 ปี อย่างมาก”
ตอนนั้น ผมไปไม่เป็น แฟนผมร้องไห้ จนไม่มีน้ำตาให้ร้อง ทุกอย่างพังทลายลงสิ้น คิดถึงสิ่งที่เราแพลนไว้ด้วยกันมากมาย
วันนั้นผมนอนไม่หลับ ส่วนแฟนร้องไห้จนหมดแรงและหลับไป "เราเลิกกันเถอะไปหาคนอื่นที่ดีกว่า " ประโยคแรกที่เธอบอกผมในตอนเช้าวันใหม่
ผมกำมือเธอแล้วบอกว่า เราจะผ่านไปด้วยกัน เธอได้แต่ร้องไห้
จนเวลาผ่านไปสักระยะ เธอกลับมาบ้าน แล้วบอกผมว่า “ไม่ต้องรอแล้วนะ” เธอบอกว่าเธอคือบ่วงในชีวิตเรา และขอตัดสินใจใช้ช่วงสุดท้ายของชีวิต เข้าหาพระธรรมอย่างไม่มีกำหนด ส่วนตัวผมนั้นก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้เขา ไม่ว่าจะในฐานะอะไร ผมก็เป็นกำลังใจให้เสมอ สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ในครั้งนี้ สำหรับผมและแฟน คือ การยอมรับความจริงอยู่กับปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับอดีต เพราะชีวิตยังคงต้องไปต่อ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะผ่านไปด้วยความปลง และการให้กำลังใจกันและกัน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม
แล้วถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร จะสู้ไปด้วยกันกับคนที่รักหรือป่าว
#LiveandLearn