เจ้าของร้านเผยสูตร!! น้ำจิ้มหมูกระทะสไตล์ผู้บ่าวกาฬสินธุ์ ใครได้กินต้องติดใจ
เมื่อคิดถึงการเลี้ยงฉลอง หลายคนคงต้องนึกถึง “หมูกระทะ” อาหารที่เหมาะกับการกินสังสรรค์เป็นกลุ่ม จากความสนุกสนานในการปิ้งย่างและพูดคุยกันในวงสนทนา ทำให้หมูกะทะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการรับประทานหมูกะทะ นั่นก็คือ “น้ำจิ้มหมูกระทะ” ที่ช่วยเพิ่มรสชาติแสนอร่อยนั่นเอง
ผู้ใช้พันทิป baokalasin เจ้าของร้านหมูกะทะชื่อดัง “ชาย 7 หมูกระทะ” ได้เปิดเผยสูตรน้ำจิ้มหมูกระทะรสเด็ด ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่าคิดสูตรไว้ทำกินเอง จนได้มีโอกาสทำขายก็ใช้สูตรนี้ ซึ่งเป็นสูตรที่ทำได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเลย โดยความอร่อยขึ้นอยู่กับการปรับสูตรของผู้ปรุง ไม่มีเคล็ดลับอะไร งานนี้ใครอยากจะเอาสูตรไปทำกินเองหรือทำขายก็ได้ เจ้าของสูตรใจดีไม่ได้หวงแต่อย่างใด
แม่บอกว่าอย่าหวงสูตรนะลูก ใครอยากได้ก็บอกเขาไปแนะนำเขาไป ยิ่งเขาเอาไปทำมาหากิน ยิ่งน่าให้น่าสนับสนุน เพราะคำขอบคุณ คำอวยพระที่เขาให้เรามาเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใดอีก
สูตรน้ำจิ้มหมูกระทะ
ส่วนผสม
1. พริกแดง 1.5 กิโลกรัม
2. กระเทียมปลอกเปลือก 1.5 กิโลกรัม
3. ซอสพริก 3 กิโลกรัม
4. น้ำตาล
5. น้ำกระเทียมดอง
6. น้ำปลา
7. น้ำส้มสายชู
8. งา
9. เกลือ
10. น้ำเปล่า
เมื่อได้กระเทียมและพริกตามต้องการแล้วก็เตรียมนำไปปั่นได้เลย ใช้ปั่นจะดีที่สุดหากจะโครกกระเทียม โครกพริก คงโครกจนกล้ามแขนขึ้นแน่นอน ฉะนั้นเพื่อความรวดเร็วและให้แตกละเอียดใช้วิธีการปั่นเขาจะดีที่สุด ที่สำคัญในการปั่นอย่าลืมเตรียมน้ำเปล่าไว้ด้วยนะครับ
เดี่ยวก่อนครับ เดี่ยวจะหาว่าบังครับให้ปั่น หากใครทำไม่เยอะก้สามารถลงมือโครกพริกโครกกระเทียมเองได้ครับ ไม่ว่ากัน
เริ่มกรรมวิธีการปั่นเลยนะครับ
ปั่นกระเทียมให้ละเอียด โดยเติมน้ำเปล่าลงไปด้วยเพื่อให้การปั่นง่ายขึ้น การเติมน้ำนั้นกะให้พอดีอย่าให้เยอะเกินไป
ปั่นพริกให้ละเอียด โดยการปั่นเติมน้ำลงไปด้วยเพื่อให้การปั่นง่ายขึ้น การเติมน้ำกะให้พอดีอย่าให้เยอะเกินไป
หลายคนคงเห็นว่า พริกเยอะขนาดนี้คงเผ็ดน่าดู ใช่แล้วครับพริกเยอะขนาดนี้เผ็ดม๊ากกกกก รับรองกินเข้าไป อร่อยปาก ลำบากตูด เป็นแน่แท้
ไม่ต้องห่วงครับ รับรองน้ำจิ้มสูตรนี้ไม่เผ็ดแน่นอนครับ เมื่อเราได้พริกปั่นละเอียดแล้ว เราก็นำเอาพริกมาล้างด้วยน้ำสะอาดเพื่อล้างความเผ็ดออกให้หมด ค่อยๆล้างออกโดยใช้ตระแกรงกรองน้ำกระทิเป็นตัวร่อน ล้างพริกไปเรื่อยๆจนหมด เราก็จะได้พริกสีสันน่ากินแต่ไม่เผ็ดร้อน แถมกลิ่นพริกก็จะหมดไป
กระเทียมที่ปั่นเรียบร้อยแล้วจะมีกลิ่นที่แรงมาก บางคนอยากกินกระเทียมแต่ไม่ชอบกลิ่น ฉะนั้นเราต้องกำจัดกลิ่นกระเทียมออกไปเสียก่อนโดยการล้างน้ำสะอาดเช่นเดียวกับการล้างพริกปั่น
ข้าวของหลักๆที่จะใช้สำหรับทำน้ำจิ้มหมูกระทะ
1. พริก 1.5 กิโลกรัมที่ปั่นละเอียดและล้างความเผ็ดออกแล้ว
2. กระเทียม 1.54 กิโลกรัมที่ปั่นละเอียดและล้างกลิ่นออกเรียบร้อยแล้ว
3. ซอสพริก 3 กิโลกรัม
4. น้ำกระเทียมดอง 2 ขวด
5. น้ำตาลทรายขาว 2 กิโลกรัม
มาถึงกรรมวิธีการทำกันบ้างนะครับ
ยกหม้อตั้งไฟ จะใบเล็กก็ได้ ใบใหญ่ก็ได้ แล้วแต่ปริมาณที่จะทำ ใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 5 กระบวย(กระบวยตามรูปนะครับ) หรือกะให้พอประมาณ ตามความคิดของตนเอง ใส่งาขาวลงไปพอประมาณ
เทน้ำกระเทียมใส่ลงไป 2 ขวด ใส่หัวกระเทียมลงไปด้วยเลยนะครับ
ตามด้วยกระเทียม
ตามด้วยพริก
ตามด้วยซอสพริก แล้วก็คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
หน้าตาเริ่มแจ่ม สีสันชวนลิ้มลอง
คนไปเรื่อยๆให้ส่วนผสมเข้ากัน เป็นไง? เห็นไหมล่ะว่ามันน่ากิ๊นน่ากิน
เห็นหน้าของน้ำจิ้มแล้ว ทุกๆท่านกรุณาเช็ดน้ำลายด้วยนะครับ
ยังๆๆ ยังไม่เสร็จแค่นี้นะครับต่อไปคือความอร่อยของน้ำจิ้มแล้ว…
เติมเกลือลงไปประมาณ 3 ช้อนแกง ตอนทำผมเทเกลือลงหม้อเลยครับกะปริมาณเอา บางครั้งก็ใช้หมือหยิบเอา ความอร่อยมันอยู่ที่มือเรานี่ล่ะ
ตามด้วยน้ำปลา 3 กระบวย
น้ำส้มสายชู 3-4 กระบวย ขึ้นอยู่กับความชอบว่าจะชอบเปรี้ยวขนาดไหน ปรับลดลงได้
ตามด้วยน้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม
จะใส่ผงชูรส ก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน จากนั้นก็คนให้เข้ากัน แล้วก็ลองชิมดู ความอร่อยมันจะอยู่ตรงนี้ละครับว่าเราจะปรุงอย่างไร ใส่นั้นนิดเพิ่ม ใส่นี้หน่อย ขึ้นอยู่กับลิ้นของผู้ชิม ผู้ปรุงรส
เสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับน้ำจิ้มหมูกระทะครับ จะตักใส่หม้อหรือจะใส่โถใบใหญ่ก็ได้ สามารถเก็บไว้ได้หลายวันโดยใส่ตู้เย็นไว้ เวลาจะกินก้นำออกมาอุ่นก็สามารถรับประทานได้แล้ว หรือจะทำสุกี้ก็สามารถเอาน้ำจิ้มนี้ตักราดลงไปได้เลย อร่อยอย่าบอกใครเชียวล่ะ
หลายท่านคงงงๆกับวิธีการทำ ผมไม่รู้จะลำดับขั้นตอนแบบไหนจึงจะออกมาดูดี เพราะผมมันก็แค่พ่อครัวสมัครเล่นไม่ใช่กุ๊กมือโปร หรือกุ๊กติดดาว กุ๊กมีใบรับรอง ผมพยามนำเสนอด้วยภาพเพื่อที่จะเข้าใจง่ายและทุกๆท่านจะได้มองเห็นภาพว่าทำแบบไหน ทำอย่างไร หากผิดพลาดประการใดแล้ว กระผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
หากใครได้ลิ้มลองน้ำจิ้มหมูกะทะของผู้บ่าวกาฬสินธุ์สูตรนี้ รับรองว่าต้องฟินแน่นอน
ที่มา: baokalasin, Pantip
ขอขอบคุณ ที่มา : meekhao.com