หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แชร์ประสบการณ์ “วิ่งเปลี่ยนไซส์” คุณก็ทำได้ จากอดีต พี่อ้วน Dude คนเดิม

โพสท์โดย ลูกสาวอบต



         ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเรียนจบใหม่ๆ คนอ้วนอย่างผมลุกขึ้นมาจริงจังกับการลดน้ำหนักเพียงเพราะรู้สึกอึดอัดกับรูปร่างของตัวเอง  เลยหันมาดูแลตัวเองจริงๆจังๆ จนรูปร่างผมได้เปลี่ยนจากอ้วน มาเป็นฟิตแอนด์เฟิร์ม จากการที่ผมเริ่มต้นวิ่ง และในช่วงนี้เรื่องของการวิ่งก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยอยากมาแชร์เรื่องราวดีๆให้คนอื่นได้เห็นถึงประโยชน์ของการวิ่งออกกำลังกาย



         เมื่อก่อนผมเป็นคนที่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ จริงๆก็เรียกว่าอ้วนเลยแหละ 5555 บอกก่อนว่าผมไม่ได้เป็นคนอ้วนแต่เด็ก มันก็เพิ่งมาเริ่มอ้วนตอนอยู่มหาลัย ช่วงนั้นไม่ได้สนใจดูแลตัวเองเท่าไร ปล่อยตัวตามใจ จนน้ำหนักค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนเรียนจบ ช่วงนั้นน้ำหนักผมขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 90 กิโล  ตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจเรื่องความอ้วนของตัวเองเท่าไร ไม่ได้สนใจว่าใครจะมองยังไง แต่พอเริ่มอ้วนขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยชอบละ เพราะเวลาจะทำอะไรมันก็อึดอัด ไม่ค่อยมีความคล่องตัว เวลาไปเตะบอลกับเพื่อนๆก็เหนื่อยง่าย เหนื่อยเร็ว เริ่มรำคาญที่ตัวเองเป็นแบบนี้ รู้สึกเลยว่าความอ้วนเนี่ยเป็นอุปสรรค เลยอยากลด อยากเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดีขึ้น ด้วยการดูแลอาหารการกิน และเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง

          ช่วงแรกๆที่ลด ก็มีนัดเพื่อนๆไปเตะบอลกันบ้าง แต่มันยากเหลือเกิน กว่าจะนัดคนได้แต่ละทีโคตรลำบาก เดี๋ยวคนไม่ครบบ้าง ไม่ว่างบ้าง เตะกันได้ไม่นาน สุดท้ายก็ล่มไป



          กลับมาคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี แบบนี้พังแน่ๆ เลยจะหาอะไรที่มันทำได้คนเดียว ตอนนั้นคิดอยู่ว่าฟิตเนสก็น่าสนใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เล่นอีก เพราะปรึกษาเพื่อนคนหนึ่ง แล้วมันพูดคำนึงขึ้นมาว่า “ตอนกินก็เสียตังค์ จะออกกำลัง จะลดน้ำหนัก ยังต้องเสียตังค์แพงๆอีกหรอวะ” พอได้ยินแบบนั้นเข้าไป ก็เลยคิดว่าจะหันไปวิ่งแทน เพราะแถวที่ทำงานมีสวนสาธารณะอยู่ เห็นคนไปวิ่งออกกำลังกายกันตอนเย็น สถานที่ก็ใกล้ ไปง่ายเดินทางสะดวก ออกกำลังกายแบบไม่เสียเงิน ไปคนเดียวก็ได้ จะวิ่งเมื่อไรตอนไหนก็ได้ เลิกงานผมก็เปลี่ยนรองเท้าไปสวน วิ่งวันละ 4-5 โล วิ่งอยู่สองอาทิตย์ได้ ไปวิ่งวันเว้นวัน และอาศัยปรับเปลี่ยนวิธีการกินด้วยการ ลดน้ำตาล น้ำมันหมู แอลกอฮอลล์ ของทอด เน้นไปกินผัก โยเกิร์ต ผลไม้แทน มีกินแป้ง เนื้อ และไข่บ้าง




             ตอนนั้นหลังเลิกงานก็จะไปวิ่งทุกวัน กลายเป็นคนเริ่มติดการวิ่งไปแล้ว เหมือนว่าร่างการมันต้องการวิ่ง ถ้าไม่ได้วิ่งมันจะหงุดหงิด อยากวิ่ง ถ้าคนที่วิ่งเป็นประจำน่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เชื่อมั้ยครับว่า ภายในสองอาทิตย์น้ำหนักลดมาได้ถึง 15 โล น้ำหนักลดเหลือประมาณ 75 โล

             แต่พอวิ่งมาจนถึงจุดหนึ่งแล้วกลับรู้สึกเริ่มเบื่อเพราะวิ่งคนเดียวมาตลอดประมาณเกือบ 1 ปี ไม่มีเพื่อนวิ่งด้วย แล้วตอนนั้นก็ย้ายที่ทำงานเลยไม่มีที่วิ่ง ช่วงนั้นเป็นสมัยที่มาเป็น DUDE รายการจีบสาว ปี 2011-2012 ก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ติดเที่ยว สังสรรค์บ่อยน้ำหนักก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ในช่วงเวลา 2 ปีกว่าๆ น้ำหนักขึ้นมา 80 กว่าโล จนหลายๆคนที่ดูรายการเรียกผมว่า “พี่อ้วน” ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่า นี่จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิมแล้วใช่มั๊ย? หลังจากที่เลิกทำรายการจีบสาว ก็หันมาออกกำลังกายแบบจริงจังอีกครั้ง



          กลับมาเริ่มวิ่งครั้งนี้เพื่อจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังอีกครั้ง ตอนประมาณปี 2013 ช่วงนั้นวิ่งหนักมาก จนน้ำหนักลดลงมาต่ำที่สุดอยู่ที่ 65 กิโล แล้วก็มีซิตอัพนิดหน่อย จนเริ่มมีซิกแพคเล็กๆ จากที่ไม่เคยมีมาก่อน

         แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองผอมไป เลยกินให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีกนิดอยู่ที่ประมาณ 70 โล ผมไม่ได้คุมอาหารเหมือนตอนแรกแต่จะกินวันหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 900 แคล และไม่เกิน 1500 แคล แต่กินครบ 3 มื้อ ตอนเช้ากินปกติ หนักกลางวัน เย็นกินเบาๆ ก็ไม่ได้รู้สึกหิวโหยอะไร อยู่ได้สบายๆ มีออกกำลังกายอย่างอื่นนอกจากวิ่งด้วย รู้สึกว่าร่างกายตอนนี้ฟิตมากถ้าเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน เพราะทั้งออกกำลังกายและลดเรื่องเหล้า บุหรี่ลงด้วย



         จนมาเมื่อประมาณปี2014 เริ่มเจอเพื่อนและคนรู้จักโดยบังเอิญตอนที่ไปวิ่ง ได้พูดคุยและเริ่มมีเพื่อนวิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเทคโนโลยีในสมัยนี้ ก็มีแอปพลิเคชั่นต่างๆที่ซัพพอร์ตการวิ่งออกมามากมาย ทำให้การวิ่งสนุกมากขึ้นและมีมิติเพิ่มขึ้นมาทำให้ไม่น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อน เกิดมีสังคมและเพื่อนมากมายขึ้นมาผ่านทางโซเชียล



          จนเข้าไปอยู่ในกลุ่มของคนที่วิ่งด้วยกันใน Facebook ก็มาแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่ง ตั้งแต่เรื่องการใช้อุปกรณ์ การซ้อมการเตรียมตัวก่อนวิ่ง รวมไปถึงเรื่องอาการบาดเจ็บต่างๆ ซึ่งผมก็หาข้อมูลการวิ่งจากในกลุ่ม เริ่มมีการจัดอีเว้นท์วิ่งกันมากขึ้น ผมเองก็เริ่มสนใจ งานแรกที่ผมสมัครวิ่งคือที่เขาใหญ่ ลงระยะทางไว้ 21 กิโล ตอนแรกที่ไปเพราะอยากลองว่าเราจะวิ่งได้ขนาดไหน อยากวัดใจตัวเอง ก่อนถึงวันจริงก็นัดเพื่อนมาซ้อมกันจริงจัง ตื่นตี 4 ไปซ้อมวิ่งกันที่สวนรถไฟ พอถึงวันจริงได้ไปวิ่งที่เขาใหญ่ รู้สึกตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะมีคนมาร่วมวิ่งกันเยอะขนาดนี้ เป็นบรรยากาศที่ใหม่สำหรับผมในตอนนั้น ออกวิ่งไปเรื่อยๆไม่ได้หวังจะทำสถิติอะไร วิ่งชมธรรมชาติ กินบรรยากาศบนเขา ทั้งสนุกและประทับใจ เป็นความรู้สึกที่ดีและชอบมากๆ ภาพมันฝังใจและประทับใจจริงๆ หลังจากนั้นก็ลงสมัครวิ่งมาเรื่อยๆ ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด





          ในช่วงหลังๆนี้ มีการจัดอีเว้นท์วิ่งเยอะมาก ก็จะพยายามไปวิ่งไม่ให้พลาดเท่าที่จะไปได้ ผมวิ่งตั้งแต่ มินิมาราธอน 10 กิโล, ฮาล์ฟ มาราธอน 21 กิโล, มาราธอน 42 กิโล และ อัลตร้า มาราธอน  ที่ผมวิ่งได้ไกลสุดคือ 54 กิโล มันเหมือนเป็นการท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆว่าเรามีขีดจำกัดแค่ไหน จะชนะเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ได้ไหม

         ใครที่อยากมาจะลองตามงานวิ่งแบบนี้ แนะนำให้หางานที่เหมาะกับตัวเองก่อน เริ่มจากน้อยๆก่อนก็ได้ ไม่งั้นอาจจะน็อกแล้วทำให้ไม่อยากวิ่งอีกเลย มีหลายงานที่จัดในเมืองระยะทางไม่ไกลมาก อย่างงานที่ใกล้ๆจะถึงนี้ก็มีงาน "งานวิ่งสู่ชีวิตใหม่ THAI HEALTH DAY 10 K RUN 2015"  เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นวิ่งใหม่ๆ ที่จะจัดช่วงต้นเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งมีระยะทางให้เลือกตั้งแต่ 3,5 และ 10 กิโล ใครที่อยากเริ่มต้นกับการวิ่งหรืออยากจะลองวิ่งเข้าเส้นชัยดูสักครั้ง แล้วยังไม่รู้จะไปวิ่งที่ไหนก็ลองที่งานนี้ก่อนก็ได้ https://goo.gl/FjVKC4

         มาลองดูบรรยากาศแล้วถ้าติดใจก็หารายการอื่นวิ่งดู เพราะหลังจากงานนี้ก็ยังมีอีกหลายงาน ทั้งงานเล็กงานใหญ่มีติดต่อกันไปจนถึงปลายปีเลย อย่างงาน อยุธยา มาราธอน, เชี่ยวหลานมินิมาราธอนครั้งที่ 5 และ Run for the king ฯลฯ และอีกเยอะแยะมากมายครับ



          และผลที่ได้หลังจากที่หันมาวิ่งอย่างจริงจัง ทำให้ปัจจุบัน น้ำหนักของผมคงที่อยู่ประมาณ 70 โล ซึ่งตั้งแต่ที่มาวิ่ง ชีวิตผมก็เปลี่ยนไปจริงๆ ทำให้ผมได้อะไรหลายๆ อย่างจากการหันมาออกกำลังกายโดยการวิ่งนี้

อย่างแรก : น้ำหนักลดจาก 90 กิโล เหลือ 70 กิโล ไม่ได้รู้สึกอึดอัด หรือไม่คล่องตัวเหมือนเมื่อก่อน มีความมั่นใจมากขึ้น
อย่างที่สอง : จากที่เคยปาร์ตี้กินเหล้าทุกวันศุกร์ ผมก็เบาเรื่องเหล้าลงได้ เพราะต้องตื่นเช้าไปซ้อมวิ่งตอนเช้า
อย่างที่สาม : เลิกบุหรี่ได้ เพราะผมเชื่อว่าหลายคนที่ติดบุหรี่ก็คงอยากจะเลิกบุหรี่ให้ได้ และตัวผมเองก็รู้สึกว่าการออกกำลังกาย กับ บุหรี่ ไม่ควรจะทำคู่กัน ผมเลยตั้งเป้าให้ตัวเองว่าถ้าเข้าเส้นชัยในมาราธอนครั้งแรกได้ ผมจะเลิกบุหรี่ ซึ่งตอนนี้ผมก็ไม่ได้สูบบุหรี่แล้ว
อย่างที่สี่ : รู้สึกได้ว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น มีความฟิตมากกว่าเดิม นอกจากวิ่งแล้ว ผมก็ยังมีเล่นกีฬาประเภทอื่นๆด้วย ถ้าเทียบตัวผมเองกับเพื่อนๆที่อยู่ในรุ่นเดียวกันแล้วร่างกายผมอึดกว่าคนอื่นๆเยอะครับ มีระบบการทำงานของร่างกายทีดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อย่างที่ห้า : ได้สังคมใหม่ มีเพื่อนๆชวนกันไปวิ่งตามอีเว้นท์ต่างๆ ได้เจอคนใหม่ ได้สังคมใหม่ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะแยะ
อย่างที่หก : จากการที่ไปวิ่งตามงานต่างๆมีทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ก็เหมือนกับได้ออกไปเที่ยว ได้ซึมซับบรรยากาศที่ไม่สามารถหาได้ในชีวิตประจำวัน ได้เปิดหูเปิดตา และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
อย่างที่เจ็ด : ได้เอาชนะใจตัวเอง ในการวิ่งแต่ละครั้งจะมีสถิติที่ตัวเราเองเป็นคนสร้างไว้ ซึ่งการวิ่งไม่ใช่อะไรง่ายๆที่คิดว่าอยากวิ่งกี่โลก็วิ่งได้ ต้องมีการซ้อม มีการเตรียมตัวที่ดี ซึ่งตัวเราเองจะก้าวข้ามสิ่งที่เราสร้างเอาไว้ได้รึไม่นั้น มันเป็นการท้าทายตัวเราเอง

              สำหรับผมแล้วเชื่อว่าคนที่อยากลดน้ำหนักสามารถทำได้ทุกคน ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณมีความตั้งใจ และมีวินัยกับตัวเองแค่ไหน ถ้าลดลงมาได้แล้วแต่ขาดวินัย ก็กลับไปอ้วนได้เหมือนผมตอนแรกๆ ทุกอย่างอยู่ที่ใจล้วนๆ ผมรู้ตัวเองได้เลยว่า หลังจากที่หันมาวิ่งออกกำลังกาย ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่เปลี่ยนไป หุ่นที่เปลี่ยนไป การใช้ชีวิต อาหารการกิน และอีกหลายๆอย่าง ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี และผมเชื่อว่าวิ่งก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้เช่นกัน สุดท้ายอยากจะฝากอะไรถึงคนที่อ่านกระทู้นี้แล้วอยากลดน้ำหนักแบบผมว่า  

“อย่าพูดว่าจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง อย่าพูดว่าสักวันจะต้องลดให้ได้
เพราะคนที่จะลดได้จริงๆ ไม่ต้องพูด ไม่ต้องบอกใคร แต่ลงมือทำเลยต่างหาก”
 
ที่มา: http://pantip.com/topic/34282719
ขอบคุณกระทู้จากคุณ สมาชิกหมายเลข 1673655 สมาชิกเว็บพันทิป
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: Noina stupid, ข้าวโพดคั่ว, jinso กลัวตีน, Daeng Chaitoep, Adams Jaidee, Unwanted, PRP
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ขยี้ตาแรง! "นิวเคลียร์" หน้าใหม่เป๊ะเวอร์ ผ่านไป 3 เดือนจำแทบไม่ได้แก๊งน้ำไม่อาบ ประสบอุบัติเหตุสังเวยชีวิตแล้ว 6 ราย หลังชนท้ายรถพ่วงและร้านค้าของชาวบ้านนักท่องเที่ยวดื่มเหล้าปนพิษในลาว กลายเป็นดราม่าเดือด เมื่อชาวเกาหลีขยี้มุมมองจนต้องร้อง อีหยังวะพิซซ่าหน้ากบ พิซซ่าหน้าเต่าของพิซซ่าฮัท"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"ในประวัติศาสตร์จีน ชีวิตของภรรยาทหารที่เสียชีวิตในสงครามชีวิตจะเป็นอย่างไร?ไวรัลหมูเด้ง: "ทำไมหมูเด้งถึงกลายเป็นขวัญใจคนไทย?"10 ความจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับน้ำดื่ม ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณไปตลอดกาลแฮกเกอร์ชื่อ 0Mid16B อ้างว่าขโมยข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก The1 กว่า 5 ล้านรายหนุ่มเดินขายลอตเตอรีระหว่างขึ้นภูกระดึง ได้เที่ยว ได้ตังค์ นี่มัน work and travel ของแท้ห้ามใส่เสื้อผ้าสีแดง พระธาตุศรีสองรักรวมวีรกรรมแก๊งน้ำไม่อาบ! แหกทุกกฎ ตร.ไม่สนลูกใคร จัดหนักทุกราย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มเดินขายลอตเตอรีระหว่างขึ้นภูกระดึง ได้เที่ยว ได้ตังค์ นี่มัน work and travel ของแท้รวมวีรกรรมแก๊งน้ำไม่อาบ! แหกทุกกฎ ตร.ไม่สนลูกใคร จัดหนักทุกรายแก๊งน้ำไม่อาบ ประสบอุบัติเหตุสังเวยชีวิตแล้ว 6 ราย หลังชนท้ายรถพ่วงและร้านค้าของชาวบ้านพิซซ่าหน้ากบ พิซซ่าหน้าเต่าของพิซซ่าฮัท10 ความจริงที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับน้ำดื่ม ที่จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณไปตลอดกาล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
คุณพ่อชาวจีนอุ้มลูก 3 คน พยายามกระโดดลงจากสะพาน โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือได้ทัน 😔หนุ่มเดินขายลอตเตอรีระหว่างขึ้นภูกระดึง ได้เที่ยว ได้ตังค์ นี่มัน work and travel ของแท้เจ้าอาวาสหลับลึกเกิน ปลุกกันทั้งวัดก็ยังไม่ตื่น ถึงกับต้องงัดประตูไปช่วย ลูกศิษย์บอกเพราะท่านหูตึง2025 อยู่กับคนบุคลิกภาพแปรปรวนยังไงให้ปลอดภัยและเข้าใจเขา
ตั้งกระทู้ใหม่