หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ขังวังหลวง จองจำอิสรภาพ“นางห้าม”

โพสท์โดย ตัวเดืยวอันเดืยว

 

 

จากภาพด้านซ้ายคือ ทั้งสองพระองค์ทรงฉายพระรูปร่วมกัน ณ ตำหนักจิตรดาลโหฐาน พระราชวังดุสิต อันเป็นที่ประทับ

จากภาพด้านขวาคือ ประตูศรีสุดาวงศ์ ประตูที่เปิดเข้าไปยังเขตพระราชฐานชั้นใน ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของพระองค์เจ้าวัลลภาเทวี

 

"ขังวังหลวง" หรือในอีกชื่อคือ "จำสนม" เป็น บทลงโทษอันร้ายแรงที่ใช้ลงโทษเหล่าพระราชวงศ์หญิง แต่การลงโทษนั้นจะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการลงโทษสามัญชนทั่วไป เพราะท่านๆเหล่านั้นได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงในพระราชวงศ์ ดังนั้นคำว่าขังวังหลวงในที่นี้ก็คือ การนำโซ่ตรวนทองคำ พร้อมเครื่องยศไปเชิญเสด็จองค์ผู้กระทำความผิดเข้าไปประทับยังตำหนักฝ่ายใน ภายในพระบรมมหาราชวัง ในขณะที่ถูกคุมขังอยู่นั้นจะเรียกสถานที่จองจำว่าคุกหลวงทันที ถึงแม้ว่าจะถูกคุมขังอยู่ในตำหนักของพระองค์เองก็ตาม แต่หากองค์ผู้กระทำความผิดนั้นมีตำแหน่งเป็นสนม-นางใน ของพระเจ้าอยู่หัว นอกจากจะถูกจองจำอิสรภาพทางกายแล้ว ยังส่งผลถึงอิสรภาพทางใจอีกด้วย เพราะถือว่าท่านพระองค์นั้นได้ถวายตัวเป็นคนของหลวงแล้ว จะไม่สามารถไปเสกสมรสกับชายอื่นได้ตลอดชีวิต ดังเรื่องที่จะนำมาเป็นกรณีศึกษาของวันนี้ คือ

ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จไปงานประกวดภาพเขียน ณ โรงละครวังพญาไท ซึ่งเป็นงานชุมนุมของเหล่าพระราชวงศ์ และชนชั้นสูงในสมัยนั้น ภายในงานนั้นเองพระองค์ได้มีโอกาสพบปะ และพูดคุยกับ หม่อมเจ้าหญิง วรรณวิมล จากราชสกุล วรวรรณ จนกระทั่งเกิดมีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน และแล้วในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462 หลังจากงานที่วังพญาไทเพียงไม่กี่เดือนนั้น ได้มีประกาศสำนักพระราชวังสถาปนา หม่อมเจ้าหญิงวรรณวิมล ขึ้นเป็น "พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี" ในที่ของพระคู่หมั้น และตอกย้ำถึงความสนิทเสน่หาโดยการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุล จอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า ฝ่ายใน(ประดับเพชร สายสะพายสีชมพู)โดยมีพระบรมราชโองการตอนหนึ่งว่า "เพื่อจะกระทำการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในภายภาคหน้า"

พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีผู้นี้ทรงคร่ำหวอดอยู่ในวงสังคมชั้น สูง ทรงมีพระอุปนิสัย และมีวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากราชนารีทั่วไป เพราะกล้าที่จะพูดและแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ทรงมักจะทำอะไรๆด้วยพระองค์เองดังที่บุรุษเพศทำได้ เช่นทรงนั่งรถไปเสวยชากาแฟที่โฮเต็ลด้วยตัวเอง และยังทรงเขียนบทความเรื่อง "ดำริหญิง" ลงในหนังสือรายสัปดาห์ ที่มีทำนองเนื้อหาส่งเสริมให้สตรีมีความเท่าเทียมกับบุรุษ โดยในเนื้อหามักจะสื่อว่า สตรีจะอุ้มชูหรือชักบุรุษให้ต่ำลงก็ย่อมทำได้ นับได้ว่าทรงมีกรอบแนวความคิดที่นำสมัยพอสมควร

แต่แล้ว!!...ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2463 พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ได้มีราชกิจจานุเบกษาประกาศถอนหมั้นจาก พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งในประกาศว่า"...มีพระราชอัธยาศัยมิได้ต้องกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมีพระโรคประจำพระองค์อันเป็นไปใน ทางเส้นประสาทไม่ปรกติ..." พร้อมกันนั้นได้มีพระบรมราชโองการให้ท้าวนางจ่าโขลนนำโซ่ตรวนทองคำใส่พานทอง ไปเชิญเสด็จพระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมายังพระบรมมหาราชวัง

หลังจากวันนั้นเรื่องทรงถอนหมั้นนี้จึงเป็นกระแสอันโด่งดัง ไปทั่วพระนคร ไม่ว่าจะในราชสำนักหรือชาวบ้านประชาชนต่างก็พูดถึงสาเหตุที่ทำให้พระเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงโกรธจนประกาศถอนหมั้น โดยสาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ พระกริยาของพระองค์เจ้าวัลลภาเทวีที่ดูเป็นคนตรง มีความคิดที่ทันสมัยโดยเฉพาะในเรื่องของบทบาทสตรีเพศ และที่สำคัญคือ มีเรื่องกับมหาดเล็กคนสนิทของพระเจ้าอยู่หัว สืบเนื่องจากครั้งหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวเสด็จโดยรถพระที่นั่งมาพร้อมกับพระ องค์เจ้าวัลลภาเทวีเมื่อถึงที่หมาย มหาดเล็กคนสนิทผู้นั้น ได้ยื่นมือไปรอรับเสด็จเพื่ออำนวยความสะดวกตามอย่างธรรมเนียมชั้นสูงของยุโร บ แต่ทันใดนั้น!..พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีก็ทรงชักพระหัตถ์หนีพร้อมมีรับสั่ง ตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรง ...เล่ากันว่าในวันที่พระองค์ถูกจับกุมตัวนั้น พระองค์ไม่ทรงทูลขอพระราชทานอภัยโทษแต่อย่างใด และทรงห้ามมิให้ผู้ใดไปทูลขอพระราชทานอภัยโทษแทนพระองค์อีกด้วย ทรงประทับอยู่ในตำหนักฝ่ายในจนกระทั่งพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคต

เมื่อถึงแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล 7 พระองค์จึงมีพระบรมราชโองการให้ปลดปล่อย พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ออกจากพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานที่ดินพร้อมตำหนักที่ประทับให้อยู่บริเวณแยกพิชัย ถนนนครไชยศรี ขณะที่ได้รับการปล่อยตัวออกมานั้น พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี มีพระชนม์ 33 พรรษา ทรงครองพระองค์เป็นโสดอย่างสมพระเกียรติยศในฐานะ"นางห้ามของร.6" ตราบจนสิ้นพระชนม์

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
48 VOTES (4/5 จาก 12 คน)
VOTED: DaDa mini, ป้าสวย, letter, pacific, khunwat, PRP, Lovethailand
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ขมคอ! ห้างดังย่านลาดพร้าวส้วมแตก! พ่อค้าแม่ค้าย้ายของจ้าละหวั่น! (คลิป)"เอ็ดวิน คาสโตร" ผู้ถูกรางวัลลอตเตอรี่ 2 พันล้านดอลลาร์ ถูกวิจารณ์ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย"เมฆสีรุ้งกับเงาแท่งปริศนา... นี่คือข้อความจากฟ้าหรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ?" 🌈☁️แห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้วรวบ'สามารถ'ได้แล้ว! ปมเส้นเงินโยง'บอสพอล'ดิไอคอน!กลัวการขาดมือถือ เล่นมือถือทั้งวัน วันไหนไม่ได้เล่นเหมือนจะขาดใจ คุณอาจเป็น “โนโมโฟเบีย (Nomophobia)”รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันทีเป็นวันจันทร์ ที่เริ่มมีบรรยากาศวันคริสต์มาส ตามร้านสะดวกซื้อแล้วเด้อเกิดโรคระบาดที่แคนาดา หลังราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นเก๋ชนศwติดรถ อ้างตกใจขับหลบหนีร้านแลนด์มาร์ค "เครยอนชินจัง" ปิดตัวลงแล้ว9 อาหารกินแล้ว 'หน้าเด็ก' ช่วยชะลอความแก่ อาหารต้านริ้วรอย หาทานง่าย ดีต่อสุขภาพอุดรธานีเดือด! บัตรประชาชนหาย กลายเป็นหนี้ 6,000 บาท ถูกนำชื่อไปแอบอ้างเปิดบริการไวไฟที่บ้าน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไขปริศนา: ทำไมเราถึงฝันซ้ำเรื่องเดิม? วิทยาศาสตร์และความเชื่อที่คุณอาจไม่เคยรู้อ้าวพ่อ! 'พ่อรวยสอนลูก' เป็นหนี้-ล้มละลาย-ฉ้อโกงผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการเร่งช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่สูญหายเจ้าหญิงสวีเดน ฝึกนาวิกก่อนขึ้นเป็นราชินีเก๋ชนศwติดรถ อ้างตกใจขับหลบหนีลดน้ำหนักแบบชิลล์ๆ ไม่ต้องออกกำลัง แต่หุ่นเป๊ะ!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ไขปริศนา: ทำไมเราถึงฝันซ้ำเรื่องเดิม? วิทยาศาสตร์และความเชื่อที่คุณอาจไม่เคยรู้ตายแล้วก็ไม่เว้น !! "มู่หรงซี" ฮ่องเต้ผู้รักลุ่มหลงจนกลายเป็นความวิปริตที่โลกต้องจารึก5 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘โรคออฟฟิศซินโดรม’ กำลังถามหา และวิธีรับมือก่อนจะสายการรักษา "โรคนอนไม่หลับ" หรือ "หลับยาก"
ตั้งกระทู้ใหม่