9 สัตว์โลกน่ารัก…ที่ถูกฝึกมาให้รบและเป็นสายลับ !!

6 ตุลาคม 2558 (14:36) โพสท์โดย Bran Stark

Spy Cat ในยุคสงครามเย็นปี 1961 หน่วย CIA ของสหรัฐ ได้ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญ เพื่อสร้างโครงการลับสุดยอดซึ่งจะเปลี่ยนแมวธรรมดาๆ ให้กลายเป็นแมวที่อุปกรณ์ดักฟัง พวกเขาได้ทำการผ่าตัดแมว แล้วฝักไมโครโฟนไว้ที่หู เครื่องขยายเสียงและสายอากาศตามแนวสันหลังมาถึงหางของมัน ซึ่งแมวเหล่านี้ได้รับการฝึกมาเป็นพิเศษด้วย โดยเจ้า Spy Cat ตัวแรกก็ได้ถูกปล่อยตัวไว้ใกล้กับสถานทูตโซเวียต เพื่อหวังจะให้มันเดินเข้าไปปะปนและแอบฟัง แต่ยังไม่ได้ทันทำหน้าที่ของมัน เจ้าแมวสายลับตัวนี้ก็ถูกแท็กซี่ชนตายเสียก่อนขณะเดิมข้ามถนน เอวัง… โครงการนี้จึงเป็นอันต้องพับเก็บไป…
Insect cyborgs อาจฟังดูเหมือนิยาย แต่ก็มีคนคิดค้นขึ้นมาแล้ว โดยนักวิทยาศาสตร์โครงการ Hybrid Insect Micro-Electro-Mechanical Systems program ของ U.S. Defense Advanced Research Projects Agency ได้ประสบความสำเร็จในการฝังอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ขนาดจิ๋วไว้ในตัวของแมลงตั้งแต่ในช่วงแรกๆ ของขบวนการ metamorphosis ซึ่งแมงพวกนี้เมื่อโตขึ้นเนื้อเยื่อของมันก็จะห่อหุ้มอุปกรณ์ขนาดจิ๋วเอาไว้ และนักวิทยาศาสตร์สามารถควบคุมพวกมันได้ ยกตัวอย่าง อาจจะใช้ให้หนอนผีเสื้อที่ถูกฝังไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์ดักฟัง หรือฝัง gas censor ไว้ตรวจจับอาวุธเคมี เป็นต้น
Bomb-sniffing bees ผึ้งน้อยสัตว์โลกที่มีความไวต่อกลิ่นและสามารถจำแนกชนิดได้อย่างแม่นยำ เจ้าผึ้งพวกนี้จึงถูกฝึกให้คุ้นกับกลิ่นของสารเคมีในระเบิด ผึ้งที่ได้รับการฝึกจะถูกพันด้วยอุปกรณ์พิเศษและบรรจุไว้ในกล่อง แล้วนำมาวางไว้ในบริเวณที่ต้องการอย่างสนามบินหรือสถานีรถไฟ เมื่อมันได้กลิ่นต้องสงสัยจะยื่น proboscis ออกมา และถูกตรวจจับได้โดยกล้องวิดีโอที่เชื่อมต่อกับซอฟแวร์
Terrorist-fighting gerbils หน่วยข่าวกรองของอังกฤษ ได้ทำการฝึกให้เจ้าหนู Gerbil เป็นตัวช่วยตรวจจับผู้ก่อการร้ายที่ปะปนเข้ามากับสายการบินอังกฤษ ตั้งแต่ปี 1970 ผู้ต้องสงสัยที่ตื่นเต้นจะมีสารอะดรีนาลีนในร่างกายสูง มีเหงื่อออกที่มือ เมื่อพัดลมพากลิ่นนี้ไปยังกรงของเจ้า Gerbil เจ้าหนูที่ถูกฝึกให้ไวเป็นพิเศษกับกลิ่นแห่งความเครียดนี้ ก็จะโยกคันโยกในกรงตามที่ถูกฝึกมา แต่ในที่สุดแล้วโครงการนี้ก็ได้ถูกยกเลิกไป เนื่องจากเจ้า Gerbil ไม่สามารถแยกแยะความเครียดของผู้ก่อการร้ายกับผู้โดยสารที่กลัวการบินได้
Soldier bear หมีพันธุ์ Syrian Brown Bear ตัวนี้มีชื่อว่า Voytek ถูกพบอยู่ในเทือกเขาประเทศอิหร่าน เป็นลูกหมีตัวเล็กๆ ที่แม่ตายจาก… และได้ถูกนำตัวไปยังค่ายทหารโปแลนด์ตั้งแต่ปี 1942 ถูกเลี้ยงอย่างดีด้วยนมผง น้ำผึ้ง ผลไม้ และเบียร์ อีกทั้งยังสูบบุหรี่กับพวกทหารอีกด้วย -_-” ในปี 1944 เจ้า Voytek ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพโปแลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และมันได้ช่วยขนย้ายลูกระเบิดและกระสุนให้กับเหล่าทหารท่ามกลางสงคราม และมีครั้งหนึ่งเจ้าหมีตัวนี้ได้ตรวจเจอสายลับของฝ่ายอาหรับที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องอาบน้ำ (จีเนียสสสส)
War pigeons ในช่วงส่งครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 นกพิราบสื่อสารได้ถูกนำมาใช้งานกันอย่างกว้างขวาง โดยที่อเมริกามีศูนย์ฝึกนกพิราบ Pigeon Breeding and Training Center ซึ่งพวกมันจะถูกฝึกให้บรรทุกแคปซูลเล็กๆ ที่บรรจุไปด้วยข้อมูลทั้งข้อความ รูปถ่าย แผนที่ รวมไปถึงกล้องถ่ายรูป !! กองทัพอเมริกันอ้างว่า ร้อยละ 90 ของสารที่ถูกส่งโดยนกพิราบที่ถูกฝึกนั้น สามารถไปถึงมือผู้รับได้ และนกพิราบสื่อสารยังได้มีส่วนสำคัญในช่วงสงคราม อย่างในวัน D-day (6 June 1944) ซึ่งเป็นวันที่วิทยุสื่อสารได้ยุติการกระจายเสียง เจ้านกพิราบสุดเท่ส์ก็เป็นตัวนำข่าวมาช่วยบอกตำแหน่งของกองทัพเยอรมันที่หาด Normandy และเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นมันยังช่วยรายงานความสำเร็จอีกด้วย
Bat bombs ในช่วงท้ายๆสงครามโลกครั้งที่ 2 Dr. Lytle S. Adams ได้เสนอความคิดไปยังทำเนียบขาว โดยเขาได้เสนอให้ติดระเบิดขนาดเล็กเข้ากับตัวค้างคาวสายพันธุ์ Mexican Free-tailed Bat ซึ่งตัวเล็กและแข็งแรง บินได้ว่องไว โดยผ่าตัดใส่ระเบิดขนาดเล็กไว้ใต้ผิวหนังตรงหน้าอกของมัน จากนั้นนำพวกมันไปใส่กล่อง แล้วทิ้งลงมาจากเครื่องบินคล้ายๆ กับการทิ้งระเบิด โดยคาดหวังว่าเมื่อมันหลุดออกมาจากกล่องแล้วมันจะบินเข้าไปตามสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในเมืองแล้วรอเวลาระเบิดทำงาน ซึ่งกองทัพสหรัฐได้ทดลองใช้ค้างคาวระเบิดนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1943 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากค้าวคาวบินได้ช้า มีบางส่วนตาย และทำให้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บนเครื่องบิน โครงการนี้จึงถูกโยนให้กองทัพเรือสานต่อ และกองทัพเรือก็สามารถทำได้สำเร็จ คือ นำไปใช้ระเบิดเมืองญี่ปุ่นจำลองได้ในอีกปีต่อมา แต่ในที่สุดโครงการก็ถูกล้มเลิกไป เนื่องจากมีความคืบหน้าช้า และรัฐบาลสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก
Anti-tank dogs ได้ถูกฝึกฝนโดยกองทัพโซเวียตเพื่อต่อสู้กับรถถังของเยอรมันในช่วงส่งครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากรถถังมีจุดอ่อนตรงเกราะท้องที่ค่อนข้างบาง จึงได้มีการคิดค้นให้ระเบิดจากใต้ท้องรถถัง วิธีการฝึกก็คือนำอาหารของเจ้าหมาไปไว้ใต้รถถังและฝึกให้ค้นหา จากนั้นเมื่อจะใช้งานก็ให้อดอาหาร 2-3 วันก่อน เจ้าหมาผู้น่าสงสารจะถูกผูกติดด้วยระเบิดทำลายรถถัง ซึ่งมีกลไกเป็นไม้ยื่นไปด้านบน เมื่อมันมุดไปหาอาหารไม้จะพบลงและระเบิดจะทำงาน (T-T) ด้วยวิธีนี้ทางโซเวียตอ้างว่าสามารถทำลายรถถังของเยอรมันได้ถึง 300 คัน ! แต่ด้วยวิธีนี้ก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน เพราะเจ้าหมาบางตัวก็ไม่ยอมมุดไปใต้รถถังหรือบางทีก็แยกไม่ออกว่าเป็นรถถังฝ่ายไหน… ทางฝ่ายนาซีจึงมีพลแม่นปืนไว้คอยซุ่มยิงเจ้าหมาพวกนี้ ซึ่งถ้ามันวิ่งกลับมาก็จะถูกทหารจองตัวเองยิงเข้าใส่เช่นกัน
Bottlenose Dolphins เจ้าโลมาที่แสนจะน่ารักและเฉลียวฉลาดนี้ถูกฝึกโดย Marine Mammal Program ของกองทัพเรือสหรัฐ ฝึกให้ช่วยตรวจจับสิ่งผิดปกติในน่านน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรือต้องสงสัย เรือดำน้ำ หรือทุ่นระเบิด โดยใช้คลื่นความถี่ธรรมชาติในตัวของพวกมันเอง มันทำงานร่วมกับกองทัพมาตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม รวมถึงสงคราม Iraq ในปี 2003 ด้วย นอกจากโลมาแล้วยังมีสัตว์อื่นๆ ที่ถูกฝึกเช่น ปลาวาฬ แมวน้ำ เป็นต้น