คำเตือน! จากผู้ชายที่เคยผิดพลาด
ที่ผมมาตั้งกระทู้เพราะผมคิดว่าเรื่องนี้อาจทำให้ใครหลายๆคนรู้ตัวก่อนที่จะสายไป... เรื่องราวที่ผมจะเล่า เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ผมขออนุญาติแทนตัวเองว่า "เอ" นะครับ ตอนนั้นผมมีแฟน สมมติว่าชื่อ "บี" ละกันนะครับ เราสองคนรักกันมาก ผมเป็นแค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆคนนึง ส่วนแฟนผมก็เป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนกันแต่ตำแหน่งสูงกว่าผม ่ทางบ้านแฟนผมค่อนข้างที่จะมีฐานะ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรระหว่างผมกับแฟนเลย เราสองคนรักกันและเข้าใจกันดีในเกือบทุกๆเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่แล้ววันนึงผมก็ต้องเลิกกับเธอเพียงเพราะเหตุผลที่ว่า....ผมไม่มีเงิน ไม่มีอนาคต
จุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะเป็นจุดจบของเรื่องนี้ เริ่มมาจากช่วงหลังๆที่คบกัน ผมเริ่มไปบ้านบีอยู่บ่อยๆ แวะไปไหว้ ไปสวัสดี แต่พ่อแม่ของบี ท่านดูไม่ค่อยชอบผมซักเท่าไหร่ ตอนแรกผมก็พยายามเข้าใจว่า ท่านอาจยังไม่คุ้นชิน เราคงยังไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรให้เค้า ผมคิดแค่ว่าไม่เป็นไร คราวหน้าเอาใหม่ก็ได้ จนมาวันนึงท่านชวนผมไปทานข้าวเย็นที่บ้าน ผมดีใจมาก ตอนนั้นผมเข้าใจถึงอารมณของ์ผู้หญิงที่เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดสวยๆ เสื้อผ้ากองเต็มเตียง เพราะผมก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน วันนั้นผมพยายามแต่งตัวให้ดูดีที่สุด เรียบร้อยที่สุด เมื่อไปถึงท่านก็เรียกให้ผมนั่งคุยกันก่อน ส่วนบีท่านให้ไปเตรียมอาหารเย็นในครัว ตอนแรกผมก็คิดว่าสถานการณ์มันอาจจะดีขึ้นแล้วแน่ๆ ท่านคงอยากมีเวลาคุยกับผมบ้าง แต่บทสนทนาที่เกิดขึ้นผมจำได้ขึ้นใจจนถึงทุกวันนี้เลยครับ
พ่อบี : เอ พ่อขอพูดเข้าประเด็นเลยละกันนะลูก
ผม : อ่อ ได้ครับ
พ่อบี : เอเลิกกับบีได้มั้ย ปล่อยบีไปเถอะนะ ถือว่าพ่อขอ
ผม : …..
พ่อบี : บีเป็นลูกสาวคนเดียว และพ่อกับแม่ก็รักบีมาก พ่ออยากให้บีเจอสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าเราไม่ดีนะ แต่พ่อคิดว่าเราไม่ค่อยเหมาะสมกับบีเท่าไหร่ พ่ออยากให้บีเจอคนที่เหมาะสมกับเขาจริงๆ
ผม : เอ่อ (ตอนนั้นผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ)
แม่บี : แม่พูดตรงๆนะเอ เอดูไม่เหมาะที่จะมาดูแลลูกแม่ กับการเป็นพนักงานเงินเดือนธรรมดาที่อยู่กับที่ไม่ก้าวหน้าไปไหน ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เข้าใจพ่อกับแม่ใช่มั้ย ว่าพ่อกับแม่มีลูกคนเดียว มันก็คงไม่ผิดถ้าพ่อกับแม่อยากจะให้บีได้เจอกับสิ่งที่ดี เพราะบีเป็นสิ่งมีชีวิตที่พ่อกับแม่สร้างมากับมือ ทั้งให้ความรัก ความอบอุ่น ความสบายมาจนป่านนี้ แม่แค่อยากให้บีเจอคนที่สามารถดูแลเค้าได้ไปตลอดชีวิต แค่นี้พ่อกับแม่ก็ตายตาหลับแล้ว
ผม : (ตอนนั้นสมองผมเหมือนถูกสต๊าฟ คิดไรไม่ออก ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง มันชาไปหมด) ปกติเค้าโดนแฟนบอกเลิกแต่นี่ผมโดนพ่อแม่แฟนบอกเลิก! พูดไม่ออกสิครับตอนนั้น เจอเรื่องแบบนี้เข้าไปเป็นใครจะทนหน้าด้านอยู่ล่ะจริงมั้ย จากนั้นผมก็รีบลาท่านทั้งสองแล้วรีบออกจากบ้านด้วยความเจ็บปวด โดยไม่ได้บอกบีก่อน ในหัวผมตอนนั้นคิดเพียงแต่ว่า ทำไมเขาไม่คิดว่า ผมก็รักบีมากเหมือนกัน! ผมจะทนให้บีลำบากได้ไง! ทำไมต้องมองแค่ภายนอกของผม! จนบีโทรมาหาผมหลายสายมาก แต่ผมไม่ได้รับคือตอนนั้นไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเลยไม่รับดีกว่า
สองวันหลังจากเหตุการณ์ผ่านไป ผมเหมือนกับหุ่นยนต์เดินได้ ถ้าใครเคยอกหักมักจะเข้าใจความรู้สึกนั้นดี! ผมทำอะไรไม่ค่อยถูก เก้ๆกังๆ เหมือนกับปลั๊กที่ถูกถอดสวิซไปชั่วขณะ ผมคิดแต่ว่า อะไรทำให้พ่อแม่ของบีคิดกับผมแบบนั้น สองวันที่ผ่านมานี้บีก็โทรหาผมตลอด ตอนแรกก็กะจะไม่รับแต่สุดท้ายผมก็ใจอ่อนรับ
บีถามผมว่า : หายไปไหนมา ทำไมเพิ่งจะรับ! โอเคมั้ย? เป็นอะไรรึเปล่า ? เสียงของบีดูเป็นห่วงผมมาก
ผม : (พูดปัดๆไปว่า)อื้ม...โอเค ไม่เป็นไร ความจริงในหัวผมมันแทบระเบิด มันสับสน มันงง ไปหมด! สุดท้ายผมตัดสินใจบอกกับบีว่าที่ผมหายไปเพราะอะไร ซึ่งพอผมบอกเสร็จ ผมก็ตกใจอีก! เพราะความจริง บีรู้มาก่่อนที่ผมจะรู้ซะอีกว่าพ่อแม่บีไม่ค่อยชอบผม ท่านบอกให้บีหาคนที่ดีกว่านี้ อย่าคิดที่จะเอาผมมาเป็นลูกเขยเด็ดขาด เพราะยังไงก็ไม่มีวันรับเป็นลูกเขย คำพูดนี้มันทำให้ผมรู้สึกต่ำต้อยมาก ทำไมเค้าต้องรังเกียจผมขนาดนั้น ผมกับบีก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แต่ผมมานึกๆดูแล้วบีก็เคยเตือนๆผมแบบอ้อมๆอยู่เหมือนกัน บีบอกให้ผมหยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โตแล้ว ทำงานแล้วอย่าทำตัวเหมือนเด็กมหาลัยที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตใช้เงินไปวันๆ ให้หัดเก็บเงิน มองหาลู่ทางที่จะพัฒนาตัวเองบ้าง เพื่อพ่อแม่ของบีจะได้มองเห็นอนาคตของผม แต่ตอนนั้นผมไม่คิดว่ามันไม่เกี่ยวกันครงไหนเลย ผมเลยไม่สนใจที่จะฟังคำเตือนจากบี ผมหามาได้เท่าไหร่ผมก็ใช้หมด ในแต่ละเดือนผมแทบไม่มีเงินเหลือเก็บเพราะผมมักใช้อารมณ์มากกว่าสมองในการใช้เงิน รายรับที่ควรจะได้ก็กลายเป็นรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
จนเรื่องราวผ่านไปซักระยะพ่อแม่ของบีก็แนะนำผู้ชายคนใหม่ให้บีรู้จัก ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนอื่นคนไกลแต่เป็นลูกชายของเพื่อนพ่อบีเอง ซึ่งเค้ามีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีความรับผิดชอบ มีฐานะ และที่สำคัญพ่อแม่บีชอบผู้ชายคนนี้มากๆ ผมรู้สึกว่าผมแพ้ตั้งแต่เขายังไม่ทันได้รู้จักกับบีเลยด้วยซ้ำ ซึงผมรู้นิสัยบีดีว่าบีเป็นคนที่รักพ่อกับแม่มาก ตามใจพ่อแม่ ไม่กล้าขัดคำสั่ง พอพ่อแม่แนะนำให้รู้จักเค้าก็ปฏิเสธไม่ได้ นานวันเข้าผมทนไม่ไหว ด้วยคำพูดของพ่อแม่บียังคงตอกย้ำอยู่ในหัวของผม ผมคิดว่าผมควรจะถอยจริงๆละแหละ ถึงแม้จะต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม เพราะผมทนเห็นบีทุกข์ใจไม่ไหวจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องพ่อแม่ เรื่องที่ผมไม่สามารถดูแลเค้าได้ ผมอยากให้คนที่ผมรักได้เจอกับสิ่งที่ดีที่เหมาะกับเค้า ผมเลยเป็นคนบอกเลิกเธอ ด้วยเหตุผลที่ว่า "ผมเบื่อกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ เราเลิกกันเถอะ!" บีรู้และเข้าใจว่าจริงๆผมหมายความว่ายังไง ผมรู้สึกอย่างไร ภาพที่บีร้องไห้ผมยังจำมันได้ ไม่เคยลืม มันทำให้ผมรู้ว่าผมได้ปล่อยคนที่ผมรักที่สุดไป ผมผิดเองที่ไม่พยายามทำตัวให้ดีขึน ให้พ่อกับแม่ของบีมั่นใจในตัวผม ผมทำถูกแล้วใช้มั้ยที่ปล่อยเธอไป ….. ตอนเลิกกันแรกๆ เราสองคนก็ค่อยๆห่างกันไป ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน พึงจะได้มาติดต่อกันในช่วงไม่กี่เดือนนี้เอง มันทำให้ผมแน่ใจว่า ผมยังรักบีอยู่ และบีก็ยังรักผมอยู่เหมือนกัน บีบอกว่า “ผมเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิต ต่อให้ใครจะลบผมออกไปจากชีวิตของบี แต่ก็ไม่มีใครสามารถลบผมออกจากความทรงจำของบีได้” และจะไม่มีวันลืมว่าเคยได้รักผม แต่ชีวิตจริงมันโหดร้าย ! ไม่นานมานี้ผมได้ข่าวว่าบีจะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อแม่แนะนำให้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แล้วผมจะไปทำอะไรได้ ตอนนี้ผมเป็นได้มากสุดก็แค่เพื่อนที่รักเธอมากที่สุดเท่านั้น....
ที่ผมมาตั้งกระทู้ก็เพื่ออยากเตือนผู้ชายทุกคนที่กำลังคิดว่าเรื่องเงิน เรื่องฐานะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่รักกันก็พยายามฝ่าฟันด้วยกันไปได้ นี่มันชีวิตจริงนะครับ ประโยคที่ว่า “ความรักชนะทุกสิ่ง” สำหรับผมมันไม่จริงครับ วันนี้ถึงแม้ผมจะรู้ตัวว่าผมไม่สามารถดึงเธอกลับมาได้อีกแล้ว แต่ผมกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองตามคำแนะนำของเธอที่เคยเตือนผมในอดีต ผมเริ่มจากออมเงินเดือนละเล็กๆน้อยๆ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่อย่างน้อยผมก็ได้ก้าว ผมไมอยากให้บีรู้สึกผิดหวังในตัวผมอีก
ขอบคุณครับ :) ที่อ่านเรื่องราวของชายที่เคยผิดพลาดคนนี้