ข้อเสีย-ข้อดี ก่อนไปดู ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

GTH กลัวหนังไม่ถึง 100 ล้านมากไปรึเปล่า ? / Frebber
(คนที่คิดว่าจะไปดูฟรีแลนซ์ดีไหมควรอ่านก่อน)
.
ขอบอกก่อนเลยว่าแฟนๆ GTH ที่หวังจะไปเจอหนังฟีลกู้ด อารมณ์ดี ยิ้มทั้งเรื่องในหนังฟรีแลนซ์ นี่คือคิดผิดถนัดนะครับ เพราะฟรีแลนซ์มันเป็นหนังสไตล์หม่นๆ.....
.
ตอนที่ผมชม ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ จบ ผมคิดว่าจะรอให้หนังเข้าวันแรกก่อน แล้วผมอยากรู้ว่าคนที่ไปดูมาจะคิดยังไง และตอนนี้ผมก็พบว่ามากกว่าครึ่งบ่นหนักมากว่า มันผิดกลิ่นไปจากหนัง GTH ที่เค้าเคยดู คือจริงๆมีคนเยอะมากที่บ่น GTH ว่าทำแต่หนังเดิมๆจนเป็นสูตรสำเร็จ ก็เลยอยากเห็น GTH เปลี่ยนแนวฉีกสูตรดูบ้าง และก็ออกมาเป็น ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ นี่แหละที่ผมว่าไม่ใช่สูตร GTH เลย แต่........
.
แต่การโปรโมท การตลาด การตัดตัวอย่างออกมายังใช้สูตรเดิมเป้ะ เดิมๆจนคนคิดว่าสุดท้ายมันก็คือหนังฟีลกู้ด แต่ทว่ามันไม่ใช่เลย ฟรีแลนซ์ ไม่ใช่หนังฟีลกู้ด แต่กลับกลายเป็นหนังโทนหม่นนิดๆที่ว่าด้วยผู้ชายที่ทำอาชีพฟรีแลนซ์คนนึงที่ทำงานหนักจนล้มป่วยไปหาหมอและเค้าบ่นคนเดียวพูดคนเดียวทั้งเรื่อง และสารพัดที่ต้องโดนแรงกดดันในการปั่นงาน !
.
ผมไม่ได้ตำหนิ GTH ตรงๆนะ เพราะผมมองว่ามันก็ไม่เชิงเป็นความผิด GTH 100% และผมก็เข้าใจ GTH ด้วยว่าถ้ามาโปรโมทว่าเป็นหนังอินดี้โทนหม่น ใครมันจะเข้าไปดู แต่ GTH มองสั้นๆเพียงแค่ ทำยังไงก็ได้ให้คนเข้าไปดูมากๆ โดยลืมไปว่า แฟน GTH จำนวนมากที่เค้าไปอุดหนุนหนัง GTH มาแล้วเป็นพันล้านร้อยล้าน เค้าจะรับได้ไหมที่ต้องมาเจอหนังแบบนี้
.
โดยส่วนตัวผมขอสารภาพว่าผมเป็นคนดูหนังแมสที่ชอบดูหนังอิสระและเปิดรับหนังอิสระได้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้ ชอบก็มาอวยไม่ชอบก็มาบ่น และผมเองก็เชื่อนะว่ามีคนที่ดูหนังแมสที่เค้าพร้อมจะเปิดใจรับหนังอิสระหนังอินดี้ เพียงแต่ช่วยทำให้เค้าได้เตรียมใจก่อนเข้าไปชมจะได้ไหมว่าเค้าเข้าไปในโรงแล้วเค้าจะต้องเจอกับหนังแนวไหน
.
สิ่งที่ตามมาคือวันแรกๆ ฟรีแลนซ์ อาจจะทำเงินถล่มทลาย แต่จากนั้นอาจจะมีเสียงบอกว่าว่า อย่าไปดูเลย และผิดหวังในขณะที่แฟนคลับ เต๋อ นวพล (ผู้กำกับเจ้าของแฟชั่นยืนเคารพธงชาติถ่ายรูป) บางส่วนก็อาจจะบ่นว่าหนังมันสู้แมรี่ไม่ได้ และอีกกลุ่มที่พร้อมขย้ำคือ คนที่ตั้งแง่กับ GTH รอด่าอย่างเดียว คนพวกนี้เค้าไม่มองหรอกว่า GTH ฉีกแนว แต่เค้าจะมารุมด่า รวมไปถึงผู้กำกับหนังไทยค่ายอื่นบางคนที่อิจฉาเต๋อและหมั่นไส้ GTH เป็นทุนก็พร้อมขย้ำ แต่เอาเถอะคนพวกหลังๆนี่ไม่ต้องไปให้ราคามาก มาให้ราคาแฟนคลับ GTH ตัวจริงๆดีกว่า
.
ผมคิดว่า GTH ควรจะโปรโมทหนังแบบตรงไปตรงมา ผมมั่นใจว่าแฟนคลับ GTH แบบเดนตาย ยังไงเค้าก็เข้าไปดู และแฟนคลับหนังคุณภาพโดยทั่วไปเค้าก็ไม่รังเกียจ แต่หนังอาจจะไม่ถึง 100 ล้าน แต่อาจจะไปที่ 40-50 ล้าน ซึ่งจริงๆฟรีแลนซ์ทุนสร้างแค่ 15 ล้านเอง มันก็น่าจะพอแล้ว แต่ท้ายที่สุด GTH กลับตกหลุมความสำเร็จของตัวเองที่กลัวหนังจะไม่ได้ 100 ล้านอีก ก็เลยโปรโมทหน้าหนังให้ออกมาในแนว GTH แบบเดิมๆเพราะกลัวแฟน GTH ที่มีจำนวนมากจะไม่ยอมไปดู
.
การโปรโมทหนังฟรีแลนซ์ เปรียบไปก็เหมือนการโปรโมทคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิค แต่เอาโปรดักชั่นและทีมงานตัดต่อโฆษณาคอนเสิร์ตเลดี้กาก้ามาตัดต่อยั่วให้คนปกติที่ไม่ได้ชอบฟังเพลงคลาสสิคไปดู
.
ผลที่ตามมามันก็เลยเป็นหนังทีคนบ่นเยอะมาก เช่นกระทู้แนะนำนี้ในพันทิปเป็นต้น ------ > http://pantip.com/topic/34135175
.
ท้ายที่สุด แฟนๆ GTH เปิดใจครับ ผมแนะนำให้เปิดใจ ลองเปิดใจดูหนังแนวนี้ดูเพื่อความหลากหลายในชีวิตคนดูหนัง ผมคิดว่ายังไงฟรีแลนซ์ก็คือหนังไทยที่ดีเรื่องนึง แต่มันจะผิดกลิ่นสำหรับคนที่คาดหวังจะไปเจอหนังแบบ GTH ในแนวเดิมๆนั่นแหละ.... ส่วนคนที่ออกมาบ่นว่าอยากเห็น GTH ทำหนังที่ฉีกไปจากแนวเดิมๆบ้าง ก็ช่วยไปดูหน่อยนะครับ เพราะท้ายที่สุดถ้าผลงานเค้าขาดทุน(กำไร) เดี๋ยวเค้าจะไม่ทำแบบนี้มาให้ดูอีกไม่รู้ด้วย

จบล่ะ
ไปค่ะ พี่สุชาติ!!

HaRa Quinn GrimmJow

เหมือนเป็นควายที่โดนหลอก..ถ้าทำไตเติ้ลให้แม่งเหมือนแก่นหนังจริงๆหน่อยจะไม่ว่าเลย ทำไตเติ้ลซะโรแมนติกคอเมดี้ อีสันเขื่อน

Ouy Sawi Tree

โทนสีภาพที่โปรยออกมาก็ดูหม่นอยู่นะคะ แต่ดันตัดต่อซะน่ารักแอนด์ขำเบาๆ เนี่ยะดิ ลูกชาย 6 ขวบ fc ซันนี่ นี่ร้องขอให้พาไปดูเลย 555 งั้นคงต้องบอกไว้ก่อนว่ามันไม่ใช่หนัง Happy นะลูก แต่ก็จะไปดูค่ะ ให้กำลังใจคนทำหนัง

Pu Sungyou

อยากไปดูเพราะแรงโปรโมท แต่เมื่อวานอ่านคอมเม้นคนที่ไปดูมาแล้ว เกิน 70% บ่นๆๆ เลยทำให้ความอยากดูลดลงไปเยอะเลย

Mongkol Hatyai

ผกก. อยากทำหนังอินดี้ก็เรื่องของ แต่เล่นมาโปรโมทให้ดูเป็นหนังตลก หนังฟิลกุ้ดทำไม กุจะไปดูเพื่อให้มีความสุข ที่ไหนได้ หม่นทั้งเรื่อง นางเอกออก15 นาที พระเอกบ่นทั้งเรื่อง ตัวประกอบหญิงออกมากกว่า

Rosy PK

ตอนดูตัวอย่างไม่รู้สึกว่าโดนหลอกนะ ดูแบบไม่คาดหวังอะไรมาก กลับชอบการเล่าเรื่องและการแสดงของซันนี่มากกว่า

Phattanajeam Thongya

อย่างน้อยผมก้อหัวเราะให้กับหลายมุขก้อถือว่าคุ้ม เสียดายไม่มีฉากเซอไพร์ประมานว่าวินมอไซถอดหมวกกันน้อคแล้วกลายเป็นพี่เต๋อ คือเหนว่านั่งรอในห้องจะใส่หมวกกันน้อคทำไม แต่ก้อจบดีนะผมชอบหมอโรงบาลรัฐจะให้จบแบบมารักกะคนไข้มันก้อเกินไปนะ

Amn Bizkit

หนังดีมากครับ ฉีกขนบ GTH เลยแต่ก็ยังมีกลิ่นอายอยู่นิดๆ ถ้าใครชอบ Birdman น่าจะชอบมาก และถ้ารู้จักผู้กำกับเค้าดีจากเรื่อง 36 และ Mary is Happy ก็น่าจะเข้าใจผู้กำกับเลยครับ ส่วนการแสดงก็เยี่ยมเลยโดยเฉพาะซันนี่ ท้าทายแบบสุดๆ

Nuii Pansuppawat

ไปดูมา คือจริงแหละ มันไม่ใช่แนว gth เลยยยย
มันเหมือนเป็นหนังอินดี้ที้ดูง่ายขึ้นอ่ะ
ตอนแรกคาดหวังว่ามันจะเป็น romantic comedy ตามค่าย แต่ดูชื่อ ผกก คงต้องผิดแปลกไปจากหนัง gth เดิมๆมั่งละแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นขนาดนี้
ส่วนตัวดูหนัง gth เกือบทุกเรื่อง แล้วเราโอเคกับหนังเรื่องนี้นะ ดูโคตรจริง

*** ทิมมี่จะสรุปง่ายๆ นะจ๊ะ ถ้าอยากเห็นซันนี่สุดหล่อพูดเพ้อๆ เอ๋อๆ ทั้งเรื่อง เพราะงานมันโหดกดดันทำให้บ้าให้ป่วยก็ไปดูเถอะ เล่นดีมาก แต่ถ้าจะไปดูกุ๊กกิ๊กจิกหมอนโรแมนซ์แสนหวานของหมอ-คนไข้ ก็จงทำใจไว้ก่อนนะเธอ มันแค่รักโปรโมต โอเคป่ะ ***