แม้แต่หมา..ยังรักลูก
แม้แต่หมา..ยังรักลูก
มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ฉันคิดถึงความรักของแม่หมาตัวหนึ่งขึ้นมาอย่างซึ้งใจ บางคนอาจคิดไม่ถึงว่าหมาเป็นเพียงสัตว์เท่านั้น จะแสดงความรักความเป็นแม่ออกมาเท่าแม่คนได้อย่างไร ขอให้ลองอ่านเรื่องนี้ดูค่ะ
ที่บ้านฉันเลี้ยงหมาไว้ 2 ตัว เป็นหมาแม่ลูกอ่อนกับลูกหมาอายุได้เดือนเศษกำลังน่ารัก บ่ายวันหนึ่งขณะที่ฉันไปทำงานตามปกติ ทางบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่า เจ้าลูกหมามันหลุดออกมานอกรั่วถูกรถชนตรงหน้าปากซอย คนชนก็ช่างใจร้าย ชนโครมแล้วหนีไปเลย แม่และน้องของฉันอุ้มลูกหมาเข้ามาในบ้าน หากล่องปูผ้าให้มันนอน โดยมีแม่หมาเดินวนเวียนไปมาส่งเสียงครางเบาๆ รอบลูกมันด้วยความเป็นห่วง
ด้วยความกระวนกระวายใจ ฉันรีบกลับบ้านทันที สำรวจแล้วมันถูกชนตรงหัวอย่างจัง เลือดโชกเลย เห็นแล้วสงสารมันมากจึงรีบพาไปหาสัตวแพทย์ทันที แม่หมาเมื่อเห็นลูกมันถูกอุ้มขึ้นรถไป มันก็วิ่งตามรถพร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างโหยหวน
หมอตรวจแล้วบอกว่า ไม่มางรอดจะฉีดยาให้มันหลับยาว (ตาย) ไปเลย จะได้ไม่ทรมาน แต่ว่าลูกๆ ของฉันไม่ยอมให้ฉีดยาให้มันตาย จะพาไปรักษาที่อื่นลูกคนเล็กของฉันร้องไห้สงสารมัน ดิฉันตัดสินใจนำเจ้าลูกหมากลับออกมาเพื่อไปรักษาที่อื่น บังเอิญพบร้านสัตวแพทย์อีกแห่งจึงรีบนำไปรักษา หมอคนนี้ก็ดีเหลือเกิน บอกว่าหมอจะพยายามช่วยมันให้ถึงที่สุด แล้วบอกพวกฉันให้กลับบ้านก่อน ฝากลูกหมาไว้ที่คลินิกแล้วค่อยไปดูอีกทีวันรุ่งขึ้น
ขณะกลับถึงบ้าน แม่หมาวิ่งมาที่รถดมกลิ่นไปรอบๆ รถเพื่อตามหาลูก เมื่อไม่เจอมันส่งเสียงครางเบาๆ คล้ายสงสัยว่า ลูกมันหายไปไหน มันวิ่งไปรอบๆรถ จนเราต้องเปิดประตุให้มันมาดู แล้วบอกมันว่า “ลูกไม่ได้อยู่ในรถ อยู่ที่ร้านหมอแล้ววันพรุ่งนี้จะพาไปหาลูกนะ” มันค่อยสงบลงได้ แต่อาการที่น่าสงสารของแม่หมาคือ มันไม่ยอมกินข้าว กินน้ำ นอนครางเบาๆ ด้วยความเป็นห่วงและคิดถึงลูกมันตลอดเวลา มันนอนดมกลิ่นลูกของมันที่เคยนอนด้วยกันทั้งคืน
รุ่งเช้า ฉันและลูกๆ เวียนไปมาระหว่างบ้านกับคลินิก หมอบอกว่าจะรักษาสุดความสามารถเพราะสงสารลูกคนเล็กของฉัน แม้หมาจะเป็นพันธุ์พื้นเมืองไม่มีราคาค่างวดอะไร แต่ลูกๆ ก็รักมันมาก หมอยังให้น้ำเกลือ ให้ยา ให้อาหารเหลวทางสายยางเจ้าลูกหมาตลอดเวลาจนถึงเย็นวันที่ 2 ที่ถูกรถชน มันเริ่มร็สึกตัว ตอนเราเรีกยชื่อมัน มันก็มองเราได้ แต่อนิจจา พวกเราทั้งหมดมัวแต่ห่วงลูกหมาจนลืมแม่หมาที่สัญญากับมันว่า จะพาไปหาลูก เรารีบกลับบ้านตอนบ่ายๆ จึงได้เห็นว่ามันนอนสงบนิ่งในที่ที่มันเคยนอนกับลูกไม่ยอมแตะอาหารแม้แต่นิดเดียว
พอถึงเวลาเย็น ฉันกับลูกๆ จึงพาแม่หมาขึ้นรถไปคลินิก หมอก็อนุญาตให้พาแม่หมาขึ้นไปชั้น 2 เพื่อเยี่ยมลูกของมันพอเห็นลูก มันรีบเข้าไปเลีย ส่งเสียงครางเบาๆ พวกเราสงสารมันมาก บอกมันว่าลูกต้องหายแน่ๆ เหมือนมันจะรู้ความที่เราพูดกับมัน มันยอมฟังแต่โดยดี หลังจากนั้นเราพามันมาหาลูกมันที่คลินิกทุกวัน
ลูกหมารักษาที่คลินิกอยู่ 4 วันจึงพากลับบ้านได้ แต่สมองของมันสั่งการได้เพียงเดินตรงอย่างเดียว เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไม่ได้ มีนจึงเดินชนโน่นชนนี่ตลอดเวลาแม่ของมันก็เฝ้าดูแลอยู่ใกล้ๆ ไม่ยอมไปไหนเลยจนลูกมันหาย
เรื่องนี้เล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนที่มีลูกแล้วไม่รักลูก ทิ้งลูกได้ลงคอ หรืออีกนัยหนึ่ง คนที่เป็นแม่ทุกคนย่อมรักลูก แม้ลูกจะเป็นอย่างไรก็ยังรักไม่เสื่อมคลาย เช่นเดียวกับเรื่องแม่หมาที่ฉันเล่ามา ความรัก ความเป็นห่วงของแม่จะอยู่ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ครูกลัยา วิจิตร/เชียงราย