7 วิธีล้างผักขจัดยาฆ่าแมลง
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ในสังคมไทยหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ออกกำลังกายกันมากขึ้น รวมถึงกินของที่มีประโยชน์มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าพืชผลทางการเกษตรเหล่านี้มักจะใช้สารเคมีในการผลิตที่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ แล้วเราจะปลอดภัยได้อย่างไร!!??หายห่วงได้เลยถ้าคุณรู้จัก 8 วิธีเด็ดยาฆ่าแมลงเสร็จทุกราย
1.ล้างผักด้วยน้ำแสมโซเดียมไบคาร์บอเนต
วิธีนี้เราจะใช้โซเดียมคาร์บอเนต(เบคกิ้งโซดา) 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 20 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ในน้ำประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 รอบ จะช่วยลดสารพิษได้ 90-95% แต่ก็ทำให้วิตามินเอหายไปเล็กน้อยเพื่อแลกกับความปลอดภัยของสุขภาพ
2.แช่ผักในน้ำผสมน้ำส้มสายชู
เราจะต้องใช้น้ำส้มสายชูความเช้มช้น 0.5% ผสมน้ำ 4 ลิตรแล้วแช่ผักไว้ 15 นาทีจะช่วยลดสารเคมีและยาฆ่าแมลงจากผักลงได้ 60-85%
3.ล้างผักโดยให้น้ำไหลผ่าน
เด็ดผักออกมาเป็นใบๆ แล้วเปิดน้ำแรงๆ ให้น้ำไหลผ่านไปเรื่อยๆ นาน 2 นาที จะช่วยกำจัดยาฆ่าแมลงได้ 60%
4.การแช่ผักในน้ำสะแาด
ก่อนจะแช่ผักเราควรล้างสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ออกก่อน เช่น เศษผักหรือหญ้าที่ติดมา ออกจากผักก่อน แช่ในน้ำประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะช่วยลดสารพิษ-ยาฆ่าแมลงได้ 7-33%
5.ลวกผักด้วยน้ำร้อน
วิธีนี้จะช่วยให้สารพิษลดลงไปได้ 50%
6.การดึงผิวชั้นออกหรือเปลือกนอกออก
ผัก เช่น กะหล่ำปลี เราควรเด็ดใบนอกกะหล่ำปลีออก เพราะจะเป็นใบที่สัมผัสกับสารพิษจากยาฆ่าแมลงเยอะที่สุด
7.ใช้ผงปูนคลอรีน
ละลายผงปูนคลอรีนครึ่งช้อชาผสมกับน้ำ 1 ลิตร แช่ผักนาน 30 นาที จะฆ่าเชื้อโรคได้ดีมาก
ต่อไปก็เป็นวิธีการเก็บรักษาผัก เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหารของผักไว้ให้ได้มากที่สุด เราจึงต้องเก็บมันอย่างถูกวิธี
1.เก็บไว้ในตู้เย็นที่มีอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส มีความชื้นระหว่าง 80-90% ใส่ไว้ในถุงพลาสติกหรือภาชนะพลาสติกอย่าใส่ไว้จนแน่นเกินไปเพราะจะทำให้ผักช้ำได้
2.ของที่ต้องเก็บไว้นอกตู้เย็น เช่น หัวหอม กระเทียมควรเก็บไว้ในที่สูงจากพื้นพอสมควร ใส่ตะกร้าหรือภาชนะที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก อยู่ให้ห่างความชื้นเพราะจะทำให้เกิดเชื้อราได้