หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

น้ำหนักของวิญญาณคนตาย...หนักเท่าไหร่กัน

เนื้อหาโดย ลูกสาวอบต

 

บอกกล่าว: เพื่อป้องกันความสับสน “วิญญาณ” ในที่นี้ ให้หมายถึง “Soul” และเป็นคนละอย่างกับ วิญญาณขันธ์ ตามศาสนาพุทธนะครับ
 
ผู้เขียนได้รับรู้เรื่องน้ำหนักของวิญญาณคนตายจาก Status เพื่อนใน Facebook ว่ามีบทความอ้างการทดลองทางวิทยาศาสตร์วัดน้ำหนักวิญญาณคนตายได้ 21 กรัม เรื่องราวของน้ำหนักวิญญาณคนตายมีกล่าวอ้างในหนังสือความรู้รอบตัวและบทความต่างๆอยู่หลายครั้ง ผู้เขียนเองก็ยังแปลกใจว่าน้ำหนักของวิญญาณถ้ามันวัดมาได้ก็แสดงว่าวิญญาณควรเป็นสสารไม่ใช่พลังงาน และการตรวจจับวิญญาณควรเป็นเรื่องง่ายๆมาแต่ไหนแต่ไรและเราควรได้ใช้ประโยชน์จากการศึกษาอนุภาควิญญาณกันแล้ว แต่มันก็ไม่มีปรากฏ ดังนั้นเรามาถือโอกาสชำแหละมันเสียดีกว่าว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไรมาอย่างไร
 
 
ความเชื่อเรื่องน้ำหนักของวิญญาณนี้ มาจากบทความของ ดร ดันแคน แมคดูกัล (1866-1920)[1] นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งได้พยายามวัดน้ำหนักส่วนต่างของมนุษย์ที่มีชีวิต และเสียชีวิตไป โดยได้ทำการทดลองในปี 1901ซึ่งได้ข้อสรุปการทดลองว่า น้ำหนักที่หายไปคือ 21 กรัมเมื่อคนเรานั้นตายลง แต่ทั้งนี้  การทดลองของ ดร แมคดูกัลเป็นการวัดน้ำหนักคนตายในระบบเปิด โดยเขาใช้ตาชั่งแบบอุตสาหกรรม แล้วเอาเตียงคนไข้ไปวางตรงเหนือตาชั่ง  ตาชั่งนี้ใช้การถ่วงน้ำหนัก Balance ออกมา คนไข้ที่เขาใช้เป็นคนไข้วัณโรคซึ่งการทำนายการตายสามารถบ่งชี้ได้ในหลักชั่วโมง การควบคุมการสูญเสียของน้ำหนักจากการระเหย และหายใจออกนั้น ดร แมคดูกัลใช้วิธีวัดปริมาณน้ำหนักที่หายไป ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 1 ออนซ์ หรือ 28 กรัมทุกชั่วโมง และเขาบ่งชี้ว่า เมื่อตอนตาย น้ำหนักของ Weight Scale ลดลง “ทันที” ดังนั้นการสูญเสียมวลน้ำหนักจากการระเหยของน้ำจึงได้มีการคิดไว้แล้ว และความสามารถในการอ่านของตาชั่งคือ 1/20 ของหน่วยออนซ์ หรือ ± 1.4กรัม
 
วิธีการบ่งชี้ว่าน้ำหนักหายไป ดร. แมคดูกัลดูจากน้ำหนักที่ต้องเลื่อนหรือถ่วงเพิ่ม ตัวตาชั่งที่ ดร แมคดูกัลใช้ ก็จะคล้ายๆแบบนี้ 

ประเด็นเจ้าปัญหาก็คือ น้ำหนักที่ว่านั้น เป็นน้ำหนักเฉลี่ย และ ผลการทดลองของ ดร แมคดูกัล มีช่วงน้ำหนักที่วัดได้คือระหว่าง 45.8 – 10.6 กรัม มันไม่ใช่ 21 กรัมพอดีเป๊ะ อย่างที่มีกล่าวในบทความต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกเหนือจากนี้ การทดลองมีการชั่งตัวอย่าง 6 ครั้ง และทิ้งผลการวิจัยไป 2 ตัวอย่างเพราะ ปรับตาชั่งไม่ทันเวลาตาย กับมีปัญหาปรับตาชั่งไม่ดี ดังนั้น ข้อสรุปน้ำหนักวิญญาณ 21 กรัมที่มีในปัจจุบันจึงตั้งอยู่บนผลการทดลองเพียง 4 ตัวอย่าง และมีค่าการ Error มากกว่า ±100%

 

 

ผลการทดลองของ ดร. แมคดูกัลนั้นหยาบมาก มันอาจบ่งชี้ได้แค่ว่า มันมีน้ำหนักหายไปประมาณ 10-45 กรัม แต่ไม่ใช่ระดับที่จะสรุปได้ถึงการมีอยู่ของวิญญาณเลย แม้แต่ในบทความของ ดร. แมคดูกัล ก็ยังบ่งชี้ไว้ว่าผลการทดลองนี้ สรุปได้แค่ว่ามีมวลหายไป และมันไม่อยู่ในสารบบที่เรารู้ นอกจากนี้ ยังต้องมีตัวอย่างมากกว่านี้ที่จะใช้เพื่อสรุปอะไร ซึ่งก็มิได้มีการทำการทดลองอะไรต่อหลังจากนั้น เพราะข้อจำกัดว่าการทดลองนี้ต้องทำกับ “มนุษย์” เพราะตามความเชื่อของคริสต์ และ อิสลาม “วิญญาณ” มีเฉพาะในมนุษย์ ไม่มีในสัตว์ และ ดร แมคดูกัลได้ทำการทดลองกับสุนัขและบ่งชี้ว่าไม่พบการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
 
 
ทั้งนี้ สุนัขกับมนุษย์มีข้อต่างที่สำคัญคือ มนุษย์ควบคุมอุณหภูมิในร่างกายด้วยการขับเหงื่อ แต่สุนัขใช้วิธีหอบ ให้น้ำระเหยออกทางปากได้อย่างเดียว และอาจรวมถึงการที่สุนัขตายด้วยการวางยา แต่มนุษย์เป็นการป่วยตายด้วย
 
แต่ถึงผลการทดลองจะดูน่ากังขาอย่างไร มันก็ยังไม่มีการทดลองเพื่อพิสูจน์ข้อผิดพลาดของ ดร แมคดูกัลออกมา ว่าน้ำหนักมันลดลงด้วยปัจจัยใด ในข้อสันนิฐานความผิดพลาดที่มีกล่าวกันโดยกว้างขวาง ได้แก่วินาทีที่ตาย ซึ่ง ดร แมคดูกัลไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจน (โดยอาจผิดพลาดได้กว่า 10 นาที) การสั่นสะเทือนแบบ Resornance จากการเต้นของหัวใจอาจทำให้ตาชั่งบ่งชี้น้ำหนักเบากว่าที่เป็นขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ และยังมีข้อสันนิฐานเรื่องการที่อุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้นช่วงสั้นๆเพราะระบบเลือดหยุดทำงานไม่มีการระบายความร้อน ซึ่งก็ได้มีผู้ทำการทดสอบสมมุติฐานตาม  และก็พบว่าความน่าจะเป็นต่างๆนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อน้ำหนักได้ถึงขนาดนั้น และนอกจากนี้ก็ยังมีผลการทดลองที่น่าสนใจของกรณีการวัดน้ำหนักของแกะที่พบว่ามีการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักหลังการตายเป็นช่วงสั้นๆ
 
 
อันที่จริงมนุษย์เราก็ยังไม่รู้เกี่ยวกับกลไกทางชีวภาพของตัวเราเองสักเท่าไร บางที น้ำหนัก อาจหายจริง และมันอาจเป็นข้อสังเกตที่บ่งชี้ถึงกลไกการทำงานของร่างกายมนุษย์ที่มีความแตกต่างจากสัตว์ แต่น่าเสียดาย เรื่องน้ำหนักที่หายไปนี้ กลายเป็นแค่ข้อถกเถียงว่า วิญญาณมีจริงหรือไม่ แทนที่จะมาหาคำตอบว่า กลไกการหายไปของน้ำหนัก เกิดจากอะไร เครื่องมือวัด หรือการหยุดลงของกลไกใดๆของร่างกายเราที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักได้
เนื้อหาโดย: ลูกสาวอบตกลับมาแล้ว
อ้างอิง https://www.facebook.com/note.php?note_id=34681
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: เอ๋ง ไม่ดัดจริต, vho, njack, Adams Jaidee, นางเบิร์ด, ลูกสาวอบตกลับมาแล้ว, คุณกินเองนะจ๊ะ บีสอง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
อดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว เขมรโป๊ะแตก! โชว์ "มงกุฎร่ายรำ" เขมรโบราณอายุพันปี ชาวเน็ตไทยตามแหก ลั่น แบบนี้ที่สำเพ็งมีขายเยอะเลย!!ออกหมายจับ นักร้องชื่อดัง คู่ปรับ เสรีพิศุทธ์คืนชีพผักเหี่ยวแบบง่ายๆ..ให้กลับมาสดใสอีกครั้งปลัดทรงสืบ แฝงนั่งชิลล์อยู่ริมหาดจอมเทียน เจอเหตุรัวปืนญี่ปุ่นสั่งกั้นมุมภเขาไฟฟูจิ! เหตุ นนท. ทำพิษ"โซฮี" วง ALICE เตรียมแต่งงานและลาออกจากวงนางเอกดัง จบป.เอกแล้ว ลุ้นเล่นการเมือง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภาพชุดมวยไทย กับ กังฟู จีน ต่อสู้กันจริงๆ เรามีการต่อสู้กับมวยกังฟูมานานมากแล้ว สู้กันจนมวยจีนต้องกลับไปพัฒนารูปแบบใหม่อ่ะเน่อนางเอกดัง จบป.เอกแล้ว ลุ้นเล่นการเมืองสื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว พฤติกรรมและวัฒนธรรมแปลกประหลาด แต่เป็นเรื่องปกติของผู้คนในอิตาลี ที่คุณอาจจะสงสัยและไม่รู้มาก่อน!อดีตผู้บริหารหญิง Google ไทย เมาแล้วขับ ลาออกเมื่อต้นปี..ทั้งนี้ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก!
ตั้งกระทู้ใหม่