ลักษณะ 8 ของคนไร้ค่า

บุคคลผู้เป็น ‘คนไร้ค่า’ มักมีลักษณะสำคัญครบถ้วนทั้ง 8 ประการดังต่อไปนี้:
1. ชมชอบชอบเสพสุข (Hedonist) ในรูปแบบต่าง ๆ ในฐานะผู้ได้เปรียบในสังคม เช่น ไปเที่ยวโสเภณี (ราคาแพง) ชอบกีฬาแฟชั่นทั้งหลาย เป็นพวก ‘นิยมวัตถุ’ ซึ่งต่างจาก ‘วัตถุนิยม’ (materialism) ที่เป็นหลักปรัชญาที่ตรงข้ามกับ ‘จิตนิยม’ (idealism) จะสังเกตได้ว่าพวกนี้รักสุขภาพสุดชีวิต กะจะมีชีวิตอยู่อย่างยาวนาน แต่น่าเสียดายที่เป็นได้แค่ ‘แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน’ เพราะนอกจากเสพสุขแล้ว ก็แทบไม่ได้สร้างสรรค์อะไรเพื่อคนอื่น
2. ไม่ใฝ่ใจศึกษา: พวกเขามักเป็นคนที่ขี้เกียจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ บ้างก็ทำตัวเป็น ‘ชาล้นแก้ว’ บางคนอาจทำการศึกษาแต่ใช้วิธีการ ‘ยืมจมูกคนอื่นหายใจ’ ไม่ลงมือปฏิบัติเอง หรือเข้ารับการศึกษาโดยไม่ใช่เพื่อหาความรู้แต่เพื่อเข้าคลุกวงใน (networking) มากกว่า คนเหล่านี้มักเป็นพวก ‘แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน’ ไม่ทันความรู้ใหม่ ๆ ยกเว้นการจำคำพูดคนอื่นมาคุยโตไปวัน ๆ
3. ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง: เมื่อไม่รู้จริง ก็มักเกลียด กลัวและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่เป็นคุณต่อส่วนรวมแต่กระทบในทางลบต่อตนเอง กลัวตนเองจะหมดบทบาทในสังคมก้าวหน้า คนเหล่านี้มักเป็นผู้มีสถานะดีในสังคมหรือมีอาชีพน่ายกย่อง เช่น อาจารย์ แพทย์ หรือนักวิชาชีพชั้นสูงอื่น แต่ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไม่ได้เหมารวมยกเข่งทั้งวงการ ‘คนไร้ค่า’ เหล่านี้แม้อยู่ในวงการศึกษาหรือวงวิทยาการชั้นสูง ก็ไม่ค่อยเปิดรับสิ่งใหม่ ถือตนว่ามีใบปริญญาบัตรแต่แท้จริงไม่ใช่ปัญญาชน เราจึงเห็นนักวิทยาศาสตร์ (ที่ทำงานแบบกลไกไปวัน ๆ) ผู้กลับงมงายในไสยศาสตร์
4. ชอบทำดีเอาหน้า: ทั้งนี้เพื่อสร้างภาพหรือเพื่อลวงให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเป็นคนดี จึงเป็นการทำดีแบบ ‘ลูบหน้าปะจมูก’ ‘ผักชีโรยหน้า’ หรือ ‘ไฟไหม้ฟาง’ คล้ายกับพวกคุณหญิงคุณนายที่เที่ยวแจกของเพื่อให้ตัวได้รับเกียรติยศ แต่สังคมก็แทบไม่เคยดีขึ้นเพราะความดีฉาบฉวยดังกล่าว หากสังเกตให้ดี คนเหล่านี้บางคนไปร่วมกิจกรรมทำดีโดยไม่ออกเงินตัวเองสักบาท หรือออกเงินแต่น้อย (แต่ออกข่าวใหญ่โต) หรือใช้สถานะของตนเองไป ‘ไถ’ เงินผู้อื่นมาทำดี อาจกล่าวได้ว่า ในความเป็นจริง คนเหล่านี้เป็นคนขี้เหนียว ไม่ใช่คนใจกว้างจริงแต่อย่างใด
5. มีความเป็นเจ้าขุนมูลนายสูง: ทั้งนี้คล้ายกับที่มักปรากฏในภาพยนตร์น้ำเน่าประเภท ‘ผู้ดีตีนแดง ตะแคงตีนเดิน’ หรือ ‘หนังจักร์ ๆ วงศ์ ๆ’ บุคคลที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าขุนมูลนายเช่นนี้ มักทำไปเพื่อลบปมด้อยของการเป็นคนระดับล่างในอดีต หรือหวังยกระดับตนเองให้มีฐานะดูเหนือผู้อื่นหรือเป็นพวกจมไม่ลง คนเหล่านี้มีความชมชอบที่จะให้คนอื่นยกย่อง เอาใจ และมักเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง (self-centredness) ซึ่งแสดงว่าคนเหล่านี้ไม่คิดถึงใครอื่นอีกเลย
6. สยบยอมต่อผู้มีอำนาจ: ในขณะที่ตัวเองมีความเป็นเจ้าขุนมูลนายสูงมาก แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มักเป็นคนสยบยอมกับผู้มีอำนาจเหนือกว่าโดยดุษฎี การนี้แสดงว่าคนเหล่านี้ยินดี ‘เลีย’ หรือทำงานด้วยลิ้น เพื่อหวังให้ตนเองได้ก้าวหน้าในธุรกิจหรือการงาน และหากจำเป็นจริง ๆ คนเหล่านี้ไม่ว่าเพศใด ก็อาจยินดีเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตน คือนอกจาก ‘พายเรือให้โจรนั่ง’ แล้ว ยังยอมให้ ‘โจรพายเรือให้ตนนั่ง’ (ประสบความสำเร็จโดย ‘โจร’ สนับสนุน) เสียอีก ลองสังเกตในวงการรอบตัวเราให้ดีว่าเราพบตัวอย่างเช่นนี้อยู่บ้างหรือไม่
7. เฉยชากับความไม่เป็นธรรมโดยถือคติว่า ‘ธุระไม่ใช่’ หรือไพล่ไปโทษบาปกรรมแต่ชาติปางก่อน พวกเขาไม่ใช่คนประเภท ‘ตัวสั่นทุกครั้ง (ทนไม่ได้) ที่เห็นความอยุติธรรม’ แต่อย่างใด พวกเขายินดีวาง ‘อุเบกขา’ โดยถือคติ ‘วัวเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด’ ‘พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง’ หรือ ‘เอาหูไปนา เอาตาไปไร่’ กับเรื่องอะไรก็ตามที่แม้จะเสื่อมเสียศีลธรรมหรือผิดกฎหมายก็ตาม ตราบเท่าที่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียผลประโยชน์
8. ชอบห่อหุ้มด้วยศาสนา: ทั้งนี้เพื่อใช้ศาสนาเป็นอาภรณ์หรือเครื่องมือโฆษณาให้ตนดูดี และเพื่อบำบัดความอ่อนแอทางจิตซึ่งอาจเป็นผลจากการทำบาป (อยู่เนือง ๆ) คนเหล่านี้เปลือกนอกดูสงบงาม พล่ามจริยธรรม ชอบชวนคนเข้าวัด แต่แท้จริงสุดรุ่มร้อน ลักษณะเด่นของคนเหล่านี้ก็คือ ‘เสพติด’ การนั่งสมาธิ (แต่อย่าเข้าใจผิดว่าคนดีที่นั่งสมาธิเป็นคนเช่นนี้ไปด้วย) คือแทนที่นั่งแล้วจะเกิดความสงบ กลับยิ่งทำให้เห็นนิมิตต่าง ๆ และยิ่งเป็นการแบ่งชนชั้นมากขึ้นเพราะไปอ้างอิงถึงการสั่งสมบุญเก่าแต่อดีตชาติเพื่อข่มคนอื่น คนเหล่านี้มักไม่เอาแก่นศาสนา แต่มักเพี้ยนไปเน้นกระพี้ เช่น เรื่องพิธีกรรม ชาดก ไสยศาสตร์ ชาติก่อน-ชาติหน้า หรือเครื่องรางของขลัง เป็นต้น
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้ง
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
Zootopia 3: เมื่อ ‘หนูมาเฟีย’ ถอดรหัส Godfather สู่เก้าอี้นายกเทศมนตรี
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้ง
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก