หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สักการะ มหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ประเทศพม่ากับน้องวิ

Share แชร์โพสท์โดย setsuna

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน สำหรับทริปนี้เป็นทริป พิเศษ ค่ะ พิเศษอย่างไร หลายๆ ท่านคงสงสัย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของตัวผู้เขียนเอง ได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศพม่า กับโปรแกรม ย่างกุ้ง หงสาวดี พระธาตุอินทร์แขวน สิเรียม 4 วัน 3คืน ครั้งนี้ ตัวผู้เขียนได้ไปเป็นหัวหน้าทัวร์ ซึ่งทริปนี้ มีลูกทัวร์ทั้งหมด 15 ท่าน วันนี้วันที่ 26 กันยายน 56 เราเริ่มจากโปรแกรมแรกของทริปนี้ เราออกจากกรุงเทพ ไปสนามบินย่างกุ้ง โดยสายการบิน MYANMAR AIRWAYS เราใช้เวลาอยู่บนเครื่อง โดยประมาณ 50 นาที ค่ะ

1

เก็บภาพลูกทัวร์ก่อนขึ้นเครื่อง

2

เวลาประมาณ สองทุ่มกว่าๆ คณะเราก็ถึงสนามบินมิงกาลาดง เมืองย่างกุ้งผ่าน ต.ม พม่าเสร็จเรียบร้อย คณะเราก็ออกเดินทางลิ้มลองอาหารเลิศรสมื้อแรก แห่งเมืองย่างกุ้งประเทศพม่ากันที่ร้านอาหาร หยิงฟง เป็นอาหารจีนๆหลังจากรับประธานอาหารเสร็จเรียบร้อยหลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าที่พัก

3

โรงแรม YUZANA HOTEL
……………………..ราตรีสวัสดิ์………………………

4

วันที่ 26 กันยายน 56 หลังจากนั้นก็เดินทางแต่เช้าเพื่อเริ่มเดินสายกันทำบุญ สถานที่แรกเราออกเดินทางจากเมืองย่างกุ้งเข้าเมืองหงสาวดี ระหว่างทางเราทุกท่านแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อที่จะได้ซื้อของเพื่อไปทำบุญกัน

5

หลังจากนั้นเราเดินทางไปสถานที่แรกกันที่ มหาเจดีย์ชเวมอดอร์ หรือที่เราเรียกกันว่า พระธาตุมุเตา ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังบุเรงนอง พระเจดีย์องค์นี้ถือว่ามีความโดดเด่นในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของชาวพม่า นอกจากนี้มหาเจดีย์ชเวมอดอ ยังเคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง 4 ครั้ง โดยแผ่นดินไหวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 ก.ค. พ.ศ. 2473 ได้ทำให้ปลียอดของเจดีย์องค์นี้หักพังลงมา แต่ว่าด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้ พวกเขาได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2497 ด้วยความสูงถึง 374 ฟุต (ตอนแรกที่สร้างสูง 70 ฟุต) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไหว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน สำหรับความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเจดีย์ชเวมอดอก็คือ เป็นเจดีย์ที่มีลักษณะแบบมอญอย่างเด่นชัด คือมีฉัตรแบบเรียบๆและมีองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ภายนอกหุ้มด้วยทองจังโก้ ภายในเป็นอิฐกลวง แตกต่างจากเจดีย์ชเวดากองที่เป็นเจดีย์แบบพม่า(อย่างชัดเจน) ส่วนบริเวณรอบๆองค์เจดีย์ก็มีพระพุทธรูปหลายองค์ให้กราบไหว้ มีอาคารสถาปัตยกรรมพม่าผสมตะวันตก นอกจากนี้ที่ด้านหนึ่งของเจดีย์ยังมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆเก็บโบราณวัตถุต่างๆให้ชม และยังมีซุ้ม 4 ทิศ ประกอบไปด้วยทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก การกราบไหว้องค์พระธาตุ ไกด์ก็จะพาท่านเดินไปไหว้พระทางทิศเหนือก่อน เชื่อกันว่าหากเราไปกราบไหว้บูชาพระธาตุที่ทิศนี้ก่อนเราจะทำอะไรเหนือกว่าผู้อื่น เพราะก่อนที่กษัตริย์บุเรงนอง จะออกรบ ท่านก็ได้มากราบไหว้บูชาองค์พระธาตุนี้ หรือการทำพิธีต่างๆ เช่นการทำพิธีเจาะพระกรรณของพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ หรือ ตะบินเฉวฺ่ ทีก็มาทำที่สถานที่แห่งนี้เช่นกัน เมือเรากราบไหว้ บูชาพระธาตุแล้ว หลังจากนั้น ก็เดินตามเข็มนาฬิกา มาตรงจุดที่ ยอดพระธาตุ ที่หักตกลงมา ใช้ธูป 1 ดอกปัก ไหว้ โดยไม่ต้องจุดไฟ ใช้ก้นธูปปักลงไปก่อนแล้วค่อยโน้มปลายธูป ปักไว้ ห้ามให้ธูปหัก เพราะเชื่อกันว่า จะช่วยในเรื่องการค้ำจุนชีวิต หน้าที่การงานให้ มั่นคง

6

พระราชวังบุเรงนอง พระราชวังแห่งเมืองหงสาวดี เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 ชื่อ กัมโพชธานี (Kanbawzathadi Palace) เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการ ซึ่งนับเป็น พระราชวังใหญ่โตมีประตูทางเข้าออกถึง 10 ประตู สร้างโดยแรงงานข้าทาสที่ถูกเกณฑ์มาจากเมืองขึ้นต่าง ๆ โดยหนึ่งในนั้นมีเมืองเชียงใหม่และอยุธยารวมอยู่ด้วย หลังจากที่พระเจ้าบุเรงนองสิ้นพระชนม์พระเจ้านันทบุเรงก็ได้ขึ้นครองราชย์แต่ท่านเข็มแข็งไม่พอจะต้านทาน ศัตรู สุดท้ายเมืองหงสาวดีที่เคยรุ่งเรื่องมาก่อนก็ได้ถูกทำลายลง ด้วยกบฏยะไข่พร้อม ๆ กับอาณาจักรตองอูที่เคยเรืองอำนาจเสื่อมลง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2533 รัฐบาลพม่าได้ขุดค้นพบซากของพระราชวังที่เหลือเพียงแค่ตอไม้ที่โผล่พ้นดินออกมาเท่านั้น และได้มีการเร่งสร้างพระราชวังจำลององค์ใหม่ขึ้นมา ฉาบด้วยสีทองทั้งหลัง ทั้งที่พื้นดินบริเวณโดยรอบได้ขุดพบโบราณวัตถุต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเชื่อว่ายังมีอยู่อีกจำนวนมากที่ยังไม่ถูกขุดขึ้นมา แต่ได้ถูกทางการสร้างพระราชวังทับลงไปแล้ว แต่ซากไม้ที่ใช้สร้างพระราชวังแต่ครั้งอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ได้ถูกจัดแสดง ซึ่งไม้แต่ละท่อนมีตัวอักษรจารึกอยู่ว่าเป็นผลงานของเมืองใด ภายในพระราชวัง มีพระราชบัลลังก์ที่มีชื่อว่า บัลลังก์ภุมรินทร์ หรือ บัลลังก์ผึ้ง ซึ่งสร้างขึ้นมาจากคติเรื่องจักรวาลตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ปัจจุบัน พระราชวังกัมโพชธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของหงสาวดีและประเทศพม่า

7

เก็บภาพความประทับใจ และเกร็ดความรู้ เล็กๆ น้อยๆ เสร็จแล้วก็เดินทางไปทำบุญใส่บาตรพระหมู่ที่วัดไจ้คะวาย วัดนี้ไม่ใช่วัดประเภทที่มีชื่อในเรื่องของเจดีย์หรือพระพุทธรูปองค์โตสูงใหญ่ แต่วัดนี้มีชื่อในเรื่องของการเป็นโรงเรียนสอนพระพุทธศาสนาเปรียญธรรมชั้นตรี, โท และเอก อันโด่งดังของพม่า จึงมีคนส่งลูกหลานมาบวชเรียนธรรมที่นี่กันเป็นจำนวนมากนับพันรูป อีกทั้งยังเป็นวัดที่มีคนนิยมทำบุญใส่บาตรพระหมู่ถวายเพลพระกันเป็นประจำ สำหรับตัวดิฉันมีโอกาสได้เห็นและได้ใส่บาตร พระ-เณรพม่าจำนวนมากที่เดินขบวนกันเป็นแถวยาวนับพันรูปพระทุกรูปท่านเดินเป็นขบวนเพื่อให้พุทธศาสนิกชนรวมถึงนักท่องเที่ยว ได้ทำบุญใส่บาตรกันตามจิตศรัทธาของแต่ละคนต่างหาก ซึ่งแตกต่างจากการใส่บาตรหมู่ทั่วไปตรงจะมีถังใบใหญ่ๆ สองใบสำหรับไว้ใส่ข้าว นักท่องเที่ยวได้ตักข้าวใส่บาตร และที่ต่างจากวัดอื่นๆ คือ ที่พระ-เณรท่านไม่ได้ออกมาเดินบิณฑบาตรนอกวัด แต่นี่เป็นการใส่บาตรในช่วงสายๆที่เราเดินทางไปใส่บาตรกันถึงที่ในวัดเลยทีเดียว

8

หลังจากนั่นนำทุกท่านเดินทางกันต่อ เพื่อที่จะไปรับประทานอาหารเที่ยงกัน ที่ร้านอาหาร 555 เมนูพิเศษ มื้อนี้ กุ้งแม่น้ำย่าง

9

หลังจากนั้น นำทานเดินทางขึ้นสู่เมือง ไจ้ก์โท ตลอดระยะทางหลายสิบกิโลเมตร เราจะได้พบเห็นวิถีชีวิตของชาวพม่า โดยผ่าน สะพานข้ามแม่น้ำสะโตง แม่น้ำแห่งนี้มีความยาวประมาณ 420 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 3 กิโลเมตรในช่วง ไม่กี่อึดใจ เราก็เดินทาง ถึงจุดเปลี่ยนรถ เราเปลี่ยนจาก รถโค้ชปรับอากาศ มาเป็น รถ 6 ล้อที่ถูกขนานนามว่า “รถขนหมู” บรรยากาศ ฝนโปรยปราย ซึ่ง ลูกทัวร์ เรียกกันว่า บรรยากาศ เทวดาให้น้ำมนต์ เราใช้เวลาขึ้นสู่ ที่พักบนพระธาตุอินทร์แขวน ใช้เวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมงเศษๆ กับเส้นทางขึ้นเขา แบบ ชันและ โค้ง มากมาย

เราก็เดินทางถึงที่พัก ด้านหน้าที่พักโรงแรม Kyaitho Hotel เดินทางถึงโรงแรมเรียบร้อยแล้ว กับบรรยากาศฝนพรำ ลูกทัวร์ทุกท่าน ก็เก็บสัมพภาระเข้าห้องพัก เสร็จแล้วก็นำทุกท่านขึ้นไป นมัสการพระธาตุอินทร์แขวน ในบรรยากาศยามเย็น หลังฝนตก

10

บรรยากาศ หลังฝนตก เหมือนเดินบนสวรรค์ พระธาตุอินทร์แขวน 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า พระธาตุประจำปีเกิด ของคนเกิดปีจอ ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้ก์โถ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญ ประเทศพม่า บนยอดเขา เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต มีลักษณะของพระธาตุ เป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่เหมือนจะหล่นและท้าทายแรงดึงดูดของโลกโดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ ไจ้ก์ทิโย (Kyaikhtiyo) ในภาษามอญ หมายความว่า หินรูปหัวฤๅษี โดยมีตำนานเล่าขานกันในสมัยพุทธกาลเรื่องเล่าขาน พระธาตุอินทร์แขวนเมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้มอบ พระเกศา ให้กับ ฤาษี ตนหนึ่ง มีนามว่า ตัสสะ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้มาแสดงธรรมเทศนา ที่ดินแดนสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นตัวแทนพระพุทธองค์ หลังจากที่ได้รับพระเกศาแล้ว ฤาษีตัสสะ ก็ได้นำพระเกศาไปซ่อนไว้ที่มวยผม จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ฤาษีตัสสะก็แก่ชราไปและถึงเวลาที่ต้องละสังขาร ฤาษีตัสสะตั้งใจไว้ว่าจะเอาพระเกศา ไปเก็บไว้ในก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนศีรษะของเขา พระอินทร์เห็นความตั้งใจของเขาจึ่งช่วยเสาะหาก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายกับศีรษะมาจากใต้มหาสมุทร และนำมาวางไว้ที่หน้าผาสูงเมืองไจ้โถ แห่งนี้ จนถึงปัจจุบัน ก็ยังคงมีแรงศรัทธาของผู้คนทุกสารทิศ ที่ขึ้นมากราบสักการะ ชาวพม่าเลื่อมใสพระพุทธศาสนามาก และพระธาตุอินทร์แขวนจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ชาวพม่าเชื่อว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องมากราบนมัสการพระธาตุอินทร์แขวนให้ได้ เพื่อเสริมศิริมงคลความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชีวิต ชาวพม่าส่วนใหญ่ ที่พบเห็น จะมานั่งสวดมนต์ขอพร กับพระธาตุ มาทุกครั้ง ก็เห็นชาวพม่าเยอะๆทุกครั้งที่ขึ้นมา

11

ได้เวลาพอสมควรเดินทางกลับลงมารับประทานอาหารเย็น ที่โรงแรม Kyaitho Hotel จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ

…………….ราตรีสวัสดิ์…………………………

12

สวัสดีตอนเช้าวันนี้อากาศเหมือนเดิม มีฝนเล็กน้อย ลูกทัวร์ทุกท่านเตรียมตัวออกเดินทางกลับสู่เมืองหงสาวดี

13

คณะพร้อมกันออกเดินทางสูเมืองหงสาวดี เดินทางไปยังพระพุทธไสยาสน์เชเวตาเลียว เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันดับสองของเมืองหงสาวดี รองจากพระมหาธาตุมุเตา และเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีความยาว 181 ฟุต สูง 50 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ พ.ศ.1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน เล่าขานว่าเป็นพระรูปสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในคืนก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุธรูปดังกล่าว มีตำนานเล่าขานตำนานว่า มีพระราชาองค์หนึ่งไม่ศรัทธาพุทธศาสนา ทรงลุ่มหลงบูชายักษ์ตนหนึ่งขนาดปั้นรูปไว้กราบไหว้ วันหนึ่งขณะที่พระราชาเสด็จประพาสป่าพร้อมพระโอรส และพระโอรสไปพบสาวชาวบ้านกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธารก็เกิดความหลงรัก ถึงกับพากลับเข้าวัง แต่สาวเจ้าอันเชิญพระพุทธรูปไปบูชาในวังด้วย ทำให้พระราชากริ้วมาก ถึงขั้นสั่งให้ทหารจับพระโอรสและคนรักมัดรวมกันเพื่อจะประหาร แต่ชาวบ้านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าพระพุทธเจ้ามีจริงก็ขอให้นางแคล้วคลาด ปรากฏว่าเชือกขาดโดยพลัน ขณะที่รูปปั้นยักษ์แตกกระจาย พระราชาถึงกับเกิดความเลื่อมใสศรัทราพุทธศาสนา และขอไถ่บาปด้วยการสร้างพะพุทธไสยาสน์เป็นเครื่องเตือนสติ หลังจากนั่นให้ท่านได้ช๊อปปิ้งกันที่บริเวณด้านหน้า มีของขายมากมาย อาทิเช่น ไม้หอมต่างๆ เป็นต้น

14

ได้เวลาทานข้าวเที่ยงนำท่านเดินทางไปยังร้านอาหาร KYAW SWA เมนูวันนี้กุ้งแม่น้ำย่าง

15

หลังจากนั้นนำท่านไปสักการะ วัดเจดีย์ไจ๊ปุ่น เป็นวัดที่มีอายุกว่า 500 ปี เป็นวัดที่สร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพระพักตร์ไปทุกทิศ แทนความหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ มีตำนานเล่าว่า พระราชธิดาทั้งสี่องค์ของกษัตริย์มอญที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนา จึงสร้างพระพุทธรูปแทนตนเองและได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา จนต้องมีการสร้างขึ้นมาใหม่ตามที่เห็นในปัจจุบัน โดยพระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะแตกต่างจากองค์อื่น ๆ คือจะเป็นศิลปะแบบพม่า

16

นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองย่างกุ้ง สักการะ พระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตยี หรือพระตาหวาน เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดและมีความงดงามที่สุดของประเทศพม่า ทั้งพระพักตร์และขนตาที่งดงาม ดวงตาของท่านเป็นแก้ว สั่งผลิตมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะรวมไปถึงพระจีวรที่มีความพริ้วไหวสมจริงและเมื่อเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ตรงที่พระบาทมีภาพวาดเป็นมิ่งมงคลสูงสุด เพราะประกอบด้วยลายลักษณ์ธรรมจักร ในบริเวณใจกลางฝ่าพระบาทและล้อมด้วย รูปมงคล 108 ประการ ด้านหน้าวัดก็จะมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย

17

ได้เวลาพอสมควรนำท่าน ไปช๊อปปิ้งกันต่อ ที่ ตลาด บอซกอองซาน หรือ ตลาตสก็อต ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้ามากมาย อาทิ ผ้าทอ งานไม้ อัญมณี และข้าวของเครื่องใช้ทุกชนิด

18

จุใจกับการช็อป และทุกท่านก็ได้ของฝากติดไม้ติดมือกันพอสมควรแล้ว นำท่านเดินทางไปยัง พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระ เมืองย่างกุ้ง เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ปัจจุบันพระเจดีย์มีความสูง 326 ฟุต เส้นรอบวง 1,420 ฟุต สูงกว่าระดับน้ำทะเล 190 ฟุต ประดับด้วยแผ่นทองคำ 4 หมื่นแผ่น รวมน้ำหนักทอง 8 ตัน สำหรับฉัตรซึ่งครอบยอดเจดีย์ ก็มีการซ่อมแซมหรือสร้างขึ้นใหม่มาเป็นระยะๆ ฉัตรเก่าสร้างในสมัยพระเจ้ามินดง สูง 33 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 18 ฟุต ครั้งล่าสุดได้มีการสร้างฉัตรขึ้นใหม่เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมานี้เอง โดยประดับเพชรพลอยรวมถึง 4,351 เม็ดรวม น้ำหนัก 2,000 กะรัต เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดบนยอดฉัตรมีฐานกว้าง 2 ฟุต ยาว 1 ฟุต 10 นิ้ว และหนัก 76 กะรัตการสักการะพระเจดีย์

ทางเข้าพระเจดีย์ชเวดากองมีทั้ง 4 ทิศ แต่ทางเข้าใหญ่คือทางทิศใต้ซึ่งมีสิงห์นั่งสองตัวสูง 30 เมตรเฝ้าทางเข้าอยู่ นำท่านไปขึ้นลิฟต์ซึ่งจะขึ้นถึงลานใหญ่ของพระเจดีย์เลย เมื่อขึ้นไปถึงลานอธิฐาน เพื่อจุดธูปเทียนไหว้พระถวายดอกไม้และจตุปัจจัย หลังจากนั้น ก็เดินพาไปกราบไหว้ สถานที่สำคัญต่าง ๆ รอบลานซึ่งจะมีวิหารใหญ่ 4 เจดีย์ชเวดากอง ตอนกลางคืน ทิศ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปของพระพุทธเจ้าที่มีมาแล้วทั้ง 4 พระองค์คือ พระกักกุสันโธ พระโกนาคม พระกัสสปะ และพระโคตมะองค์ปัจจุบันให้ประชาชนได้กราบไหว้ทำบุญด้วยรวมถึงการไปตีระฆัง สิงคุที่เล่ามาแล้วด้วย 3 ครั้ง นอกจากนั้นก็มาที่จุดลานอธิษฐานซึ่งเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากและก็ยังมีอีกจุดหนึ่งบนลานซึ่งเขาทำจุดให้ยืนไว้ซึ่งจะทำให้มองเห็นประกาย เพชรบนยอดฉัตรได้ด้วยตาเปล่า ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือจะมีพระพุทธรูปและสัตว์สัญลักษณ์ประจำวันเกิด ตั้งอยู่รอบ ๆ ลานเป็นคู่ ๆ ด้วย โดยเชื่อกันว่าการสรงน้ำพระพุทธรูปและสัตว์เหล่านี้ จะสร้างความบริสุทธิ์และความสุขความเจริญแก่ผู้สรงน้ำ โดยจะรดน้ำด้วยขันเล็ก ๆ ที่มีจัดเตรียมไว้ให้เป็นจำนวนเท่าอายุ +1 แต่สำหรับ คนแก่ ๆ ที่อายุ 60-70 ไปแล้วก็อาจจะย่นย่อลง เหลือ 5 ขันก็ได้ ซึ่งหมายถึงพระรัตนตรัยรวมกับบิดามารดานั่นเอง

สัตว์ประจำวันเกิดของพม่าคือ


19

อิ่มบุญกับ การทำบุญเสร็จแล้ว ก็นะคณะเดินทางไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร เรือการะเวก พร้อมชมการแสดงโชว์นาฏศิลป์ ของชาวพม่า การะเวกลำนี้ อยู่ในสวนสาธารณะกันดอจี ใกล้ ๆ กับเจดีย์ชะเวดากองเรือการะเวกลำนี้สร้างขึ้นมากว่า 30 ปีแล้ว เป็นเรือขนาดใหญ่มาก สร้างตามแบบของเรือที่ประทับของพระมหากษัตริย์ของพม่าในอดีต แต่เรือการะเวกลำนี้ ไม่สามารถแล่นบนน้ำได้ เพราะเป็นเรือจำลอง อันที่จริงจะเรียกว่าเป็นอาคารในน้ำก็ได้แต่สร้างเป็นลักษณะของเรือที่ประทับ ปัจจุบัน เรือลำนี้เป็นร้านอาหาร ภายในจัดบริการอาหารสำหรับแขกวีไอพี มีโชว์วัฒนธรรมของพม่าให้ชมด้วย เรียกว่าทานอาหารไป ก็ดูการแสดงไปเป็นการศิลปะของชาวพม่า

อิ่มอร่อยกับอาหารเย็นพร้อมชมโชว์อย่างจุใจ นำท่านเดินทางกลับพักผ่อนที่โรงแรม YUZANA HOTEL พักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ

…………………………ราตรีสวัสดิ์…………………………

20

แสงแรกของวัน ต้อนรับกันกับวิว พระมหาเจดีย์เชวดากองวันนี้ คณะเราออกเดินทางกันเช้านิดหนึ่งค่ะ สถานที่แรกของวันนี้เราเดินทางไปยังเมืองสิเรียมซึ่งห่างจากเมืองย่างกุ้งประมาณ 40 นาทีค่ะ สิเรียมเป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำหงสาและแม่น้ำย่างกุ้ง ซึ่งในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองท่าสำคัญในการเดินเรือของชาวโปรตุเกส ปัจจุบันเมืองสิเรียมเป็นเมืองอุตสาหกรรม ชาวเมืองส่วนใหญ่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมันหรือไม่ก็เป็นลูกจ้างในโรงเบียร์ ประชากรส่วนมากเป็นชาวพม่าเชื้อชายอินเดีย เพราะในสมัยที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ สิเรียมเป็นศูนย์กลางของเมืองท่าและยังเป็นแหล่งผลิตอาหารส่งสู่กรุงย่างกุ้ง และอังกฤษต้องเกณฑ์แรงงานอินเดียมาทำนา แล้วพากันมาปักหลักทำมาหากินกันจนถึงปัจจุบันนี้

21

เมื่อถึงเมืองสิเรียมแล้วเราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปยังเจดีย์กลางน้ำหรือ เจดีย์เยเลพญา เป็นเจดีย์ที่ถูกสร้างอยู่กลางน้ำนับพันปี ตามตำนานเล่ากันว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างในสมัยมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ ถ้ามีผู้คนมากราบไหว้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ขอให้ไม่มีวันเต็มล้นพื้นที่ เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆกลางแม่น้ำกว้างใหญ่เท่านั้น และเล่ากันว่าหากต้องการทำการค้าหรือธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ จะต้องมาขอพรต่อพระเจดีย์แห่งนี้ แล้วจะทำให้การทำธุรกิจทางการค้า เจริญก้าวหน้าและสมดังใจหวัง เมื่อถึงแล้วเราก็ไปนมัสการพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิเก่าแก่ที่ประดิษฐานบนบัลลังก์ไม้แกะสลักปิดทองคำเปลวที่งดงาม ซึ่งมีอายุนับพันปี หลังจากนั้นก็นั่งเรือกลับขึ้นฝั่งและเดินทางกลับเข้าเมืองอย่างกุ้งค่ะ แล้วเราก็เดินทางไปยังเจดีย์โบดาทาวน์

22

เจดีย์โบดาทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1000นาย เมื่อราว 2000 ปีก่อน พระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญทรงบัญชาให้นายทหารระดับแม่ทัพตั้งแถวถวายสักการะแด่พระเกศาธาตุ ที่นายวาณิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่ง ณ บริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่2 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดถล่มย่างกุ้ง ทำให้เจดีย์โบดาทาวน์องค์เดิมถูกทำลายพินาศ แต่ในระหว่างการบูรณะได้ค้นพบผอบทรงสถูปบรรจุพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อเจดีย์โบดาทาวน์องค์ใหม่ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2496 จึงนำพระเกศธาตุมาบรรจุในมณฑปครอบแก้วใส ประดิษฐาน ณ ใจกลางเจดีย์ และทำช่องทางให้พุทธศาสนิกชนเดินเข้าไปดูและสักการบูชาได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าชมในอาณาบริเวณเจดีย์โบดาทาวน์คือ พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารด้านขวา ซึ่งเป็นพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก

23

จากนั้นเราเดินไปทางด้านซ้ายไปไหว้ขอพรจาก เทพทันใจหรือนัตโบโบจี ( นัต ของพม่า หมายถึงเทพต่างๆที่คอยอำนวยพร ให้โชค รักษาคุ้มครองกับผู้ที่มาขอพร แต่ตำนานของนัตพม่าจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกัน ) การขอพรจากเทพองค์นี้ได้ผลรวดเร็วทันใจยิ่งนัก วิธีการกราบไหว้นำเครื่องบูชา มาถวายให้ท่านแล้วนำเงินม้วนไว้ 2 ใบใส่ที่มือของท่านจากนั้นก้มศรีษะเพื่อให้หน้าผากของเราติดกลับปลายนิ้วชี้ของท่านอธิษฐานขอพรแล้วขอลานำเงินออกจากมือท่านเก็บไว้เป็นสิริมงคล 1 ใบค่ะ

จากนั้นนำทุกท่านเดินออกมาทางหน้า ซุ้มประตูทางออกของตัวเจดีย์ ตรงข้ามเรานำทุกท่านเดินข้ามถนนเพื่อไปขอพรกับเทพกระซิบ หรือ เมี๊ยะนานหน่วย ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้

24

จากนันนำทุกท่านไปรับประทายอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร Western Park ร้านนี้จะเป็นอาหารจีน เมนูเด็ดร้านนี้คือ สลัดกุ้งมังกร และเป็ดปักกิ่งค่ะ จะมีแม่ครัวมาสาธิตการแล่เนื้อเป็ดให้เราดูด้วยค่ะ

25

อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อเที่ยงสุดพิเศษกันแล้ว นำทุกท่านเดินทางกันต่อไปยัง ปางช้างเผือก

ปางช้างเผือก แห่งนี้มีช้างที่ถูกต้องตาม คชลักษณะ ช้างเผือกของพม่า เช่น สีตาเป็นสีไข่มุก ขนตาขาว หนังตาเป็นสีชมพู กลีบนิ้วเป็นสีชมพูเล็บเท้าข้างละ 4 เล็บ หลังเหมือนใบกล้วยคว่ำ ขนตัวและปลายหางขาวหางทอดตรง ใบหูใหญ่ งวงยาวจรดพื้น อวัยวะเพศขาว เป็นต้น

26

หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางกันต่อที่ วัดพระหินอ่อน หรือ วัดเจ้าดอจี ประดิษฐาน “พระหินอ่อน“ ใหญ่สุดในพม่า ที่ชาวพม่าเรียก “หยก” เป็นพระที่สลักด้วยหินอ่อนก้อนเดียวทั้งองค์และมีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า มีหนัก60ตัน สูง37ฟุต สร้างและแกะสลักโดยช่างที่ดีสุดในมัณฑะเลย์ อยู่ในห้องกระจกแก้วเพื่อเป็นการควบคุมอุณหภูมิ ไว้เพื่อป้องกันการเสียหายของหินอ่อนจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ

27

หลังจากนี้เราก็นำทุกท่านเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพ สำหรับที่ตัวผู้เขียนได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วว่าทริปนี้เป็นทริปพิเศษ ความพิเศษของทริปนี้ ไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้เขียนเองหรอกค่ะ แต่ความพิเศษทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของลูกทัวร์ที่เดินทางมาเที่ยวไม่ว่าจะมาโดยสาเหตุใดก็ตาม แต่ แรงศรัทราของลูกทัวทุกท่าน ทำให้ทริปนี้เป็นทริปพิเศษ และมีคุณค่าของความทรงจำดีๆ สุดท้ายนี้ตัวผู้เขียนเองต้องขอขอบคุณลูกทัวร์ทุกท่านที่ได้ให้โอกาสได้ไปบริการในทริปครั้งนี้ และทำให้ตัวผู้เขียนเองได้บุญอีกด้วยจากการได้ไปไหว้พระ และขอพร ในครั้งนี้

ขอขอบคุณทุกท่านทริปหน้าเจอกันใหม่ค่ะ

^^ น้องวิ ^^

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
setsuna's profile


โพสท์โดย: setsuna
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ginger bread, khunwat, frankenstein
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : สื่อและคนเขมรดราม่ากันเอง อยากให้มีการจัดสงกรานต์ แต่อยากจะแบนไม่ให้มีการเล่นปืนฉีดน้ำกัน เนื่องจากปืนฉีดน้ำ เป็นการแสดงวัฒนธรรมไทย (What?)เปิดบ้านซุปตาร์ "ลิซ่า BLACKPINK" ที่เกาหลีใต้ มูลค่ากว่า 200 ล้าน..ฉลองวันเกิดครบ 27 ปีดื่มเบียร์ทำให้อ้วน ความเชื่อหรือความจริง?รวบแล้ว 1 มือวางเพลิงป่วนใต้
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
9 โรงเรียนหญิงล้วนที่น่าสนใจในประเทศไทยCIB ร่วม อย. ทลายแก๊ง ขายอาหารเสริม อาหารหลอกรักษาโรคร้าย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทหลวงพี่เขมรแนะชาวเขมร ว่า..“ไทยเอาคำว่า‘สงกรานต์‘ไปแล้ว งั้นเขมรเราใช้คำว่า ’มหาอังกอร์สงกรานต์‘ ดีไหม? เพราะคำนี้มันใหญ่กว่าสงกรานต์ธรรมดา”ยิ้มอ่อนกับเขมรรายวัน : สื่อและคนเขมรดราม่ากันเอง อยากให้มีการจัดสงกรานต์ แต่อยากจะแบนไม่ให้มีการเล่นปืนฉีดน้ำกัน เนื่องจากปืนฉีดน้ำ เป็นการแสดงวัฒนธรรมไทย (What?)
ตั้งกระทู้ใหม่