แปลกดี..ถ่ายภาพบุคคลที่เสียชีวิตแล้วไว้เป็นที่ระลึก
จากกระทู้ก่อนหน้านี่.....https://board.postjung.com/795495.html
ในแมกซิโก มีร้านเจ้าสาวที่มีชื่อเสียงมากร้านหนึ่ง มันไม่ได้มีชื่อเสียงเพราะของชุด มันเป็นหุ่นที่ร้านที่สุดจะหลอนสำหรับคนผ่านไป ผ่านมา
นั่นเป็นเพราะที่ผ่านมา 75 ปี, นางแบบเหมือนจริงคนนี้ยืนอยู่ในหน้าต่างโชว์ ทุกวัน
นั่นอาจจะเป็นอีกรูปแบบของ Post-Mortem Photgraphy หรือเรียกกันว่า Memorial Portraiture
หรือ Memento Mori (ภาษาละติน) เป็นการถ่ายภาพบุคคลที่เสียชีวิตแล้วไว้เป็นที่ระลึก
กิจการถ่ายภาพนี้ได้รับความนิยมหลังจากมีการคิดค้นวิธีถ่ายภาพแบบ ดูแกรีโอไทพ์ (Daguerreotype) ในปี 1839 เนื่องจากบางคนไม่สามารถนั่งเป็นแบบในการเขียนภาพเหมือนบุคคลได้ (Painted Portrait) และการถ่ายภาพดังกล่าวยังมีราคาถูกว่าและรวดเร็วกว่า จึงเป็นที่นิยมสำหรับชนชั้นกลางที่ต้องการถ่ายภาพบุคคลอันเป็นที่รักที่เสียชีวิตไปแล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึก
กิจการการถ่ายภาพแบบนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ทางแถบทวีปยุโรป และค่อยๆ สูญหายไป (Die out) หลังจากมีการคิดค้นการถ่ายรูปแบบ Snapshot
ในช่วงยุควิกตอเรียน (Victorian Era) อัตราการตายของเด็กและทารกนั้นสูงมาก ภาพถ่ายส่วนใหญ่จึงเป็นภาพถ่ายของเด็กทารกหรือเด็กเล็กๆ และเมื่อมีการคิดค้นภาพแบบ Carte de Visite (ภาพเล็กๆ ที่อยู่บนการ์ด) ทำให้สามารถทำสำเนาภาพแจกจ่ายให้กับบรรดาญาติทั้งหลายได้อีกด้วย
การถ่ายภาพ Post-Mortem Photgraphy มีทั้งแบบที่ถ่ายใกล้ๆ (Close up) ใบหน้าและแบบถ่ายเต็มตัว ส่วนมากจะไม่นำเอาโลงศพเข้ามาประกอบ ศพที่นำมาถ่ายจะมีลักษณะเหมือนกำลังหลับลึกหรือมีการจัดท่าทางให้ดูเหมือนมีชีวิต ศพผู้ใหญ่จะถูกจัดท่าให้นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยใช้ไม้หรือวัสดุอื่นๆ มาช่วยค้ำ หรือไม่ก็ผูกติดกับวัสดุที่เอามาค้ำ บางครั้งก็ใช้วัสดุมาช่วยค้ำเปลือกตาเพื่อให้ดูเหมือนกำลังลืมตา หรืออาจจะใช้วิธีเขียนตาลงไปบนภาพเพื่อให้ดูมีชีวิตมากยิ่งขึ้น สำหรับภาพถ่ายช่วงแรกๆ (โดยเฉพาะแบบ แอมโบรไทพ์ (Ambrotypes) และแบบทินไทพ์ (Tintype) จะมีการนำเอาสีชมพูอ่อนๆ มาแต้มที่แก้มศพด้วย ในกรณีที่เป็นการถ่ายภาพเด็กมักจะจัดท่าให้เหมือนนอนอยู่บนที่นอน หรือถ่ายภาพคู่กับของเล่นชิ้นโปรด รวมทั้งมีการถ่ายคู่กับสมาชิกในครอบครัว (ส่วนใหญ่จะถ่ายคู่กับผู้เป็นมารดา) นอกจากนี้มักจะนำเอาดอกไม้มาประดับตกแต่งด้วย
Post- Mortem สองพี่น้องภาพนี้ขึ้นชื่อว่ามีการจัดฉากได้สวยงามสมบูรณ์แบบ ดูแล้วเป็นเทพนิยายเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีกลิ่นศพลอยคลุ้งออกมานัก ลองทายดูซิว่า คนไหนคือนางแบบ (ศพ) ตัวจริง ของภาพ?
ภาพเด็กผู้หญิงที่เสียชีวิตด้วยโรคร้ายถูกจัดให้นอนหลับ
พริ้มกอดตุ๊กตาเสมือนเด็กที่นอนหลับธรรมดา
ศพเด็กผู้หญิงถูกจับให้โพสต์ทำท่านั่งเล่นตุ๊กตา
หญิงสาวลูกคนมีตระกูลซึ่งตายแล้วแต่ถูกจับให้โพสต์ในท่ายืน
ลองสังเกตขายันเหล็กที่ล็อคตัวของเธอไว้ใต้ชุดกระโปรง
ให้ยืนได้แบบเดียวกับตุ๊กตา
ภาพศพเด็กผู้หญิงกอดแม่
น้องสาวกับศพพี่ชายที่ตายไปแล้ว
บ่อยครั้งถ้าศพเปิดตาไม่ได้และกลายสภาพความเสื่อมเร็ว เช่นในการตายของคนที่ป่วยเป็นโรค
ช่างภาพจะทำการแต่งฟีล์มวาดตาลงไปที่ฟีล์มด้วย ให้ตาเปิด
เด็กโดนจับโพสต์ท่านั่งแล้วเปิดตา ศพมักไม่มีแววความสดใสในดวงตาและรอยยิ้ม
เจ้าสาวผู้โชคร้ายก็ตายเช่นกัน เธอถูกจับให้โพสต์เหมือนคนยังมีชีวิต
อันนี้ก็มีฐานล็อคใต้ชุดให้ยืนได้
ทายดูซิว่าใครคือศพตัวจริง?
รูปนี้เห็นแล้วเศร้า ๆ ภาพ สาม พ่อ แม่ และลูกสาว สายตาเธอที่เปิดและไร้แววความมีชีวิตอันเนื่องมาจากป่วยตายนี้
ซึ้งถ้าหากเป็นญาติ หรือคนที่เรารักมากๆ ก็คงไม่มีความในเชิงเรื่องน่ากลัว หรือภาพหลอนจิตใจ อย่างในรูปแบบของการเก็บร่างหลวงปู่เกจิดังที่มรณภาพไปแล้ว ของไทยเราเอง