หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กะเทยไทยแบกเป้ไปหลังคาโลกคนเดียวงบไม่เกิน 2 หมื่น ตอน3

เนื้อหาโดย coconutza

กระเทยไทยหัวใจแบ๊ว เดินทางไกลด้วยรถจากหมอชิตไปถึงแดนหลังคาโลก

ทั้งชีวิตเคยเห็นหิมะแค่ในดรีมเวิลด์ จะไปญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาวค่าเครื่องก็แพง

เกาหลีก็ไม่ชอบ เนปาลก็ดูจะโหดไป ยุโรปยิ่งไม่มีปัญญา ตัดสินในนั่งรถไปแชงกรีล่า

ด้วยงบ 18,000 นิดๆกับระยะเวลา 2 สัปดาห์ 4 เมืองแห่งยูนนาน

ตอนแรก จิ้มๆ https://board.postjung.com/796618.html

ตอน 2    จิ้มๆ https://board.postjung.com/796922.html

ชอบงานเขียน "Sืhare"หรือ"Like" ให้กำลังใจได้นะคะ




แชงกรีล่าแค่เอื้อมมือถึง
20/04/14
ท้าวความกลับไปก่อนที่ฉันจะมาเท้งเต้งอยู่ที่ลี่เจียง
เคยวางแพลนไว้ว่าจะมาเที่ยวแชงกรีล่าตั้งแต่ปี 2003 แต่ด้วยความที่เงินไม่พร้อม
เวลาไม่อำนวยเลยได้แต่รอและรอ ฝันแล้วฝันอีก(ฝันจริงๆนะบางวันนี่อ่านรีวิวจนเก็บไปฝันเลย)
วันนี้ฉันอยู่ที่ลี่เจียงและกำลังจะไปแชงกรีล่าทุกอย่างเป็นจริงฉันทำตามฝันได้สำเร็จ ออกจากฝัน
มาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ทั้งการเดินทาง ทั้งอาหาร ผู้คน สถานที่ มันไม่มีอะไรเหมือนรีวิวที่ฉันนั่งอ่านสักอย่าง
ที่มันไม่เหมือนคงเพราะได้มาสัมผัสเองได้จับต้อง ได้กลิ่น ได้มองทุกอย่างแบบ360 องศาเกินขอบเขตภาพ 4x6
การเดินทางผ่านมาได้เกือบครึ่งทางฉันได้พบเจอเพื่อนร่วมทางหลายคน ได้เจอความช่วยเหลือหลายรูปแบบ
ได้เจออาหารแปลกๆที่ถูกปากบ้างไม่ถูกปากบ้าง เหนื่อยจนอยากจะถอดใจกลับบ้านบ้าง แถมร้ายที่สุดคือเมื่อวาน
ร้องให้จนตาบวมเต่งเพราะเหงาที่เพื่อนๆหายไปหมด อารมณ์หลายรูปแบบเข้ามาและจากไปหลายอย่างทำให้ฉัน
เข้าใจและปรับตัวเพื่อให้คุ้นชินกับการเดินทาง 

แชงกรีล่าที่เคยอยู่ในฝันไกลแสนไกล มือของฉันกำลังจะเอื้อมไปถึงในไม่ช้า.....

วันนี้ตื่นตอน 6.30 น. เดินลงมาเช็คเอาท์สังเกตุเห็นอย่างนึงว่า
แบ๊คแพ๊คหลายๆคนจะเริ่มตื่นกันเวลานี้ มานั่งคิดๆดูว่าวันนึงเราทำอะไรบ้าง
ทำไมมันดูนานจังถึงกับร้อง อ๋อ!!! ก็ตื่นเช้าขนาดนี้แถมนอนดึกและที่นี่มืดช้า
นั่นเป็นเหตุผลที่วันๆนึงมีเวลาเที่ยวเยอะกว่าปกติ


เมื่อคืนที่นี่ยังคราคร่ำไปด้วยผู้คนและผับบาร์


จริงๆฉันชอบคนเงียบๆมากกว่าคนที่เสียงดัง เพราะงั้นจึงชอบเมืองช่วงเช้าๆคนน้อยๆมากกว่า


ถึงจีนจะเป็นประเทศที่ไม่ค่อยสะอาดในบางเรื่อง แต่เมืองท่องเที่ยวเค้าดูแลกันดีมากเลยนะ

และแล้วเช้านี้ฉันก็พบปัญหาใหม่ๆสดๆร้อนๆคือหาทางออกจากเมืองเก่าไม่เจอ ด้วยความที่
พยายามจะเดินกลับไปสถานีขนส่งที่มาตอนแรกเพราะไม่รู้ว่าที่นี่มีสถานีขนส่งกี่สถานี
เอาง่ายๆคือเที่ยวแบบไม่รู้อะไรเลยนั่นเอง ได้ยินเพื่อนคนจีนบอกว่าจะมีรถทุกครึ่งชั่วโมง
เลยหายห่วงเรื่องรถไปแชงกรีล่า ตอนนี้แค่ต้องเดินออกจากเมืองเก่าด้วยทางที่เข้ามาตอนแรก
ฉันเดินวนไปวนมาราวกับหนูตัวน้อยในเขาวงกตหวังจะพึ่งพาพี่กูเกิ้ลแมพซึ่งมันช่วยอะไรไม่ได้เลย
สุดท้ายฉันก็ดูพิกัดในกูเกิ้ลแมพดูชื่อถนนแล้วไปถามคนแถวนั้น โดยการเอาชื่อถนนให้ดู
เค้าก็จะชี้ๆซ้ายขวาให้ นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก คนจีนหลายคนที่ถามทางพูดอังกฤษไม่ได้
แต่ทุกคนช่วยเต็มที่ไม่มีใครปฏิเสธเลยสักคนน้ำใจมีอยู่ทุกที่จริงๆ

จนแล้วจนรอดฉันก็เดินออกมาได้โดยเสียเวลาเดินวนไปวนมาเกือบครึ่งชั่วโมงแหนะ

แอบปลอบใจตัวเองว่า"ไม่เป็นไรหรอกหลงทางเป็นเรื่องธรรมดาของแบ๊คแพ๊ค"
ซึ่งฉันเป็นคนโก๊ะๆใจลอยๆเวลาไปเที่ยวคนเดียวหลงทางประจำ ถ้าหลงทางแล้วได้เงิน
ป่านฉะนี้ฉันคงกลายเป็นบิลเกตไปแล้วมั้งเนี่ย


เจอแก๊งน้องหมาไชนิส


ออกมาเขตเมืองใหม่


ตลาดสดตอนเช้าแถวๆสี่แยกเลย


คุณยายจ่ายตลาด


ร้านเบเกอรี่ใกล้สถานีขนส่ง

เนื่องจากฉันเริ่มเจนจัดประสบการณ์ทางด้านการนั่งรถจีนมากเลย เพราะแต่ละสถานที่
อยู่ไกลกันมากๆร้านอาหารที่รถแวะให้กินระหว่างทางก็ดูจะฝากท้องไม่ไหว เลยมองหา
สิ่งที่คุ้นเคยตุนติดไว้กินระหว่างนั่งรถ ระหว่างกำลังสอดส่องอยู่นั้นเจอร้านเบเกอรี่หน้าร้านสวย
ซึ่งเป็นส่วนช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นที่จะซื้อสินค้า เลยจัดแซนด์วิสมาสองอันแล้วรีบบึ่งไปซื้อตั๋วรถ

มีเหตุการณ์น่ารักๆเกิดขึ้นที่สถานีขนส่งตอนนั้นฉันกำลังจะเข้าห้องน้ำ ได้เดินสวนกับเด็กผู้หญิงคนนึง
เธอจ้องหน้าฉันแปลกๆแล้วก็เดินผ่านเลยไป จนได้เวลาขึ้นรถระหว่างที่กำลังจะหาที่นั่งในรถมีเสียงเอ่ยทัก
"คนไทยรึเปล่าวคะ!!" มองหาต้นเสียงเป็นน้องผู้หญิงที่เดินสวนกันหน้าห้องน้ำ เราแนะนำตัวทำความรู้จักกัน
น้องเก่งมากพาคุณแม่มาแบ๊คแพ๊คกันแค่สองคนเอง เราเลยคุยกันถึงแพลนในแชงกรีล่าและร่วมเดินทางด้วยกัน


ด้านในอาคารผู้โดยสาร


หน้าตารถที่จากลี่เจียง-แชงกรีล่า

ราคาค่าตั๋วรถอยู่ที่ 67 หยวน ระยะเวลาในการเดินทางประมาณหกชั่วโมง
ซึ่งเวลาขนาดนี้ถือว่านานทีเดียวน่าจะพอนอนงีบได้ซักพัก แต่เปล่าเลย
ดันได้ตั๋วที่นั่งหลังสุดลักษณะเป็นเบาะยาวๆเหมือนท้ายรถตู้ นอนหลับไม่ได้
แถมถ่ายรูปไม่ได้อีกเพราะไม่ได้นั่งติดกระจก ถือว่าเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ของนักเดินทางที่ต้องวัดดวงว่าจะได้ที่นั่งติดหรือไม่ติดกระจก เพราะนั่นหมายถึง
เราอาจจะไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเลยตลอดทาง ฮือๆ T_T 

 


แชงกรีล่า First time 


เมือง ภูเขา หิมะ และฝุ่น

นั่งรถมาหกชั่วโมงเรียกได้ว่าไม่ทรมารก้นจนเกินไปนัก ก็มาถึงสถานีขนส่งแชงกรีล่า
เคยเป็นมั้ย?เวลารถมาถึงในสถานที่ที่เราไม่รู้จักมันจะงงๆเปิ่นๆ ควรจะเดินไปทางไหน
ไปยังไงต่อ ดีที่มีคนคอยปรึกษานั่นคือน้องผู้หญิงกับคุณแม่ พวกเราเดินออกมาด้วยกัน
ต่างคนต่างงง ว่าจะไปขึ้นรถเมลล์ตรงไหนเดินมั่วๆจนมาถึงป้ายรถเมลล์ พิกัดจะอยู่ในรูปแรกค่ะ
เราจะเห็นสถานีขนส่งจากมุมในรูปแปลว่ามาถูกทางแล้ว จำไม่ได้จริงๆว่านั่งรถเมลล์สายไหน
ตอนขึ้นก็ขึ้นกันมั่วๆโดยการเดินขึ้นไปถามคนขับว่า"กู่เฉิง" ถ้าคนขับพยักหน้าหงึกๆก็รีบกระโจนขึ้นไป
ค่ารถเมลล์ 2 หยวนหยอดแบงค์ลงไปที่ตู้ด้านข้างคนขับรถ ถ้าจำไม่ผิดรถพาเรามาจอดที่ลานจอดรถ
ในแชงกรีล่าเมืองเก่า


Shangri-la Old town


สถาปัตยกรรมแปลกตาสไตร์ทิเบต

เมืองหรือคนมีความคล้ายตรงกันหลายจุดสำหรับนักเดินทางอย่างฉัน สงสัยใช่มั้ย?คล้ายกันยังไง
คล้ายกันตรงที่เราไม่เคยรู้จักกัน พอเริ่มทำความรู้จักจนสนิทสนม เริ่มหลงชอบพอหลงรักอยากอยู่ด้วยนานๆ
แต่เราก็ต้องจากกันเพื่อเดินทางไปที่ใหม่ๆ ตอนนี้ฉันเพิ่งจะทำความรู้จักแชงกรีล่าและคาดว่าฉันจะหลงรักที่นี่ในไม่ช้า

เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเราสามคมมาถึงแชงกรีล่า ทุกคนกะวอร์คอินเข้าที่พัก
น้องผู้หญิงอีกคนไม่มีรายชื่อที่พักที่จะเข้าพักด้วยซ้ำ น้องบอกว่าพี่ไปพักไหนน้องไปด้วย
เอาหละสิคะ ฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าเกสเฮ้าส์ที่ดูมามันอยู่ส่อนไหนของเมืองเก่า แน่นอนที่พักยอดฮิต
ของชาวห้องบลูในแชงกรีล่าคงไม่พ้น Tavern47 แต่ว่ามันอยู่ตรงไหนกันหละ??? 

แชงกรีล่าเมืองเก่าเล็กมาก เล็กกว่าลี่เจียงหลายเท่าแต่ถึงกระนั้นมันก็ยากอยู่ดีที่จะตามหา
ที่พักในเมืองๆหนึ่งที่เราไม่รู้จัก เป็นอีกครั้งที่กูเกิ้ลทำงานหนักเปิดทั้งแมพเปิดทั้งเปิดรูปถามทาง
ผ่านเกือบชั่วโมงเดินหากันจนจะถอดใจ เราตัดสินใจแยกกันเดินหา น้องผู้หญิงเจอกับคู่รักชาวอิสราเอล
ที่หาที่พักเดียวกับพวกเรา ผนวกกับเจอกรุ๊ปคนไทยกรุ๊ปใหญ่ใจดีพูดจีนได้เค้าเลยช่วยถามทางให้
สรุปตอนนั้นคนราวๆ 10 คนเดินหาโรงแรมด้วยกัน ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ซาบซึ้งสุดๆ

สุดท้ายเราเจอ Tavern47 จนได้ใช้เวลาเบ็ดเสร็จชั่วโมงกว่าๆ(แอบตลกกับสภาพตัวเอง)
อากาศตอนนั้นก็เย็นๆแต่อากาศที่นี่เบาบางเดินนิดเดินหน่อยหอบเสียงดังมาก
ราคาห้อง Dorm ที่นี่คืนละ 45 หยวน จะว่าแพงก็แพงนะแต่หลายคนก็เรคคอมเมนด์เหลือเกิน
น้องผู้หญิงกับคู่รักชาวอิสราเอลบอกว่าอยากดูที่อื่นอีกเพราะราคาแพงเกิน เราเดินออกมา
เพื่อลองดูที่อื่นเผื่อไว้เจออีกที่ 30 หยวน 

คู่รักชาวอิสราเอลเกิดฮี้ยนขึ้นมาจะชวนเราพักห้องเดียวกัน โดยนอนห้องพักปกติ
แต่นอนกัน 5 คน เค้าเสนอว่าให้เราที่เป็นผู้ชายนอนเตียงเดียวกับแฟนเค้า
แล้วให้น้องผู้หญิงนอนกับแม่ แล้วเค้าจะนอนพื้น เพื่อที่จะได้ราคาหารห้าคน
โอ้โห!!! นับถือในความประหยัดจริงๆค่ะ แต่ดิชั้นว่ามันจะลำบากไปนะเลยขอถอนตัว
กลับไปนอนคนเดียวที่ Tavern47 แล้วนัดน้องผู้หญิงกับคุณแม่ว่าขอเอากระเป๋าไปเก็บ
เดี๋ยวเราจะไปเที่ยววัดซงจ้านหลินหรือโปตาลาน้อยด้วยกัน

 


เดินออกมาตรงลานจอดรถเมืองเก่า โบกรถเมล์สาย3 ราคาประหยัด


เจอแล้วๆ

รถวิ่งมาจนสุดสายจอดที่ ticket office ของวัด เดินเตาะแตะลงมาเพื่อซื้อตั๋วเข้าวัด
ราคา 115 หยวน บัตร ISIC ลดได้แต่อายุห้ามเกินกำหนด ซึ่งฉันยังไม่เกินยิ้มหน้าบาน
ในความเป็นเด็กของตัวเอง ปรากฏว่า!!!!ลืมเอาบัตรมาดันเก็บไว้ในล๊อคเกอร์ที่พัก
กรี้ด!!กระเป๋าฉีกจ่ายราคาเต็มทั้งน้ำตา เมื่อได้บัตรมาต้องขึ้นรถชัตเตอร์บัสอีกต่อนึง


จิตกรรมฝาผนังตรงทางเข้างดงาม


สัญลักษณ์ของชาวพุทธ


ประตูทางเข้า


แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เดินขึ้นจนเหนื่อย

 


แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก หอบหนักมากเมื่อขึ้นมาถึงด้านบน


มองไกลๆดูใหญ่ พอเข้ามาใกล้ๆไม่ได้เหมือนที่คิด


หน้าเหมือน.....หน้าต่าง


ลมแรงถึงขั้นแรงมากราวกับพัดลมฮาตารูเบอร์ 10 จำเป็นต้องเอาหินมาวางไว้บนหลังคา


อาคารที่ลามะใช้ทำพิธีเข้าได้แต่ห้ามถ่ายรูป


หน้าเซื่องซึมมาก หนาวหรอคะลูกขา? (ต้องเข้าใจเป็นคนรักสัตว์ฟรุ้งฟริ้ง เจอหมาเจอแมวทีระทวยที)


แล้วลูกชายก็วิ่งไปหาลามะน้อย

ขอยอมรับแบบตรงไปตรงมาอะไรดีบุ๋มก็บอกว่าดี ม่ายช่าย!!!!!
เล่นมุขเองตบมุขเองก็เป็น คงเพราะว่ามันเป็นการเที่ยวคนเดียวใช่มั้ย?
แน่นอนว่าคนที่เรามีโอกาสคุยด้วยบ่อยที่สุดคือตัวเอง บางทีฉันรู้สึกเบื่อๆเหงาๆ
ก็จะพยายามคิดถึงมุขตลกต่างๆซึ่งบางทีมันขำมาก ขำจนอยากจะเล่นกับใครซักคน
แต่ก็ต้องเก็บไว้ขำกับตัวเอง หัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้าเลย

ความคิดต่างๆที่หมุนเวียนวนอยู่ในหัวส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการวางแผนมากกว่า
ว่าจะไปที่ไหนต่อ จะยังไงต่อดีในวันต่อไป ยิ่งถ้าวันไหนเที่ยวเองคนเดียวทั้งวันไม่ได้คุยกับใคร
ได้นั่งทบทวนทุกสิ่งอย่างเลยว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ เราได้อะไรจากการเดินทางบ้าง เรื่องดีเรื่องไม่ดี
เรื่องไหนบ้างที่เราจดจำได้และท้ายที่สุดสมองก็ไม่สามารถที่จะควบคุมให้คิดถึงใครคนนึงที่ฉันจากมา
อเล็กซ์ ชื่อนี้ยังคงอยู่ในความคิดของฉันตลอดระหว่างที่เดินเที่ยว

กลับเข้าเรื่องต่อหลังจากที่เพ้อถึงผู้ชายคนนั้น ฉันเดินเที่ยวจนทั่วทุกซอกทุกมุมของวัด
ได้เห็นภาพลามะสมัยใหม่เก๋ไก๋ปลายสัปดาห์มากส่วนใหญ่ท่านจะใส่รองเท้าผ้าใบแบรนด์เนม
จนสุดตากับท่านนึงใส่ Nike สีแดง ขุ่นพระ!! สีมันทิ่มตามากอ่ะ จากที่ดูรูปการต่างๆฉันว่าที่นี่
ก็คงเป็นเหมือนวัดดังๆในประเทศไทยที่ถูกผลประโยชน์ทางธุรกิจกลืนกินความเป็นพุทธ 
อาจจะไม่ทั้งหมด ถึงกระนั้นฉันว่าที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่มีมนต์ขลัง มีกลิ่นอายพุทธศาสนา
อยู่ทุกซอกมุมของตัววัด

เราสามคนลงมาที่ด้านล่างมีเส้นทางเดินเลียบทะเลสาบ พวกเรามีเวลาคุยกันมากขึ้น
น้องผู้หญิงอายุแค่ 18 เพิ่งจบม.หกก็เป็นแบ๊คแพ๊คเกอร์แล้วน่าชื่นชมมาก แถมคุณแม่ขาลุย
ที่ไปเที่ยวมาหลายประเทศ ทั้งคู่ดูน่ารักน่าชื่นชมมาก น้องผู้หญิงมีปัญหาอย่างนึงที่ติดอยู่ในใจ
น้องบอกว่าเพิ่งเรียนจบยังเครียดๆไม่รู้จะเรียนอะไร อืม......มองน้องแล้วคิดถึงตัวเองตอนจบม.ปลาย
ฉันเลือกสอบตรงคณะดุริยางคศาสตร์สากลแล้วดันติด(อันที่จริงกะสอบเล่นๆ) พอบอกพ่อแม่ปุ๊บ
เรื่องราวที่ตามมาคือที่บ้านไม่ค่อยพอใจ แถมเพื่อนๆหลายคนไม่เห็นด้วย มีคำถามหลายคำถามว่าจะทำงานอะไร
นั่นสิ? ตอนนั้นฉันยังคงไม่รู้ รู้อยู่อย่างเดียวว่าอยากทำสิ่งที่ตัวเองมีความสุขที่สุดและอยู่ด้วยได้ตลอดชีวิต
วันนี้ฉันเรียนจบเป็นครูสอนดนตรี สอนเปียโน สอนร้องเพลง มีนักเรียนมากมาย การตัดสินใจค้นหาตัวเอง
นั้นค่อนข้างยากแต่ฉันเชื่อเหลือเกินว่าจบจากการเดินทางครั้งนี้น้องจะตัดสินใจได้แน่นอน
ขอให้น้องพบสิ่งที่น้องรักและเชื่อมั่นในตัวเองเยอะนะคะ ดีใจที่ได้รู้จักน้องกับคุณแม่
ถ้าผ่านมาเห็นกระทู้นี้ทักกันได้

เราแยกกับน้องผู้หญิงและคุณแม่ที่ทะเลสาบเพราะทั้งสองคนอยากรีบกลับก่อนรถเมล์จะหมด
ฉันเลือกที่จะอยู่เดินให้ทั่วก่อนเพราะเสียดาย ไหนๆก็มาจนถึงขนาดนี้แล้ว







เดินคนเดียวเริ่มถ่ายภาพเรื่อยเปื่อย


มีศาลาให้นั่งพัก





ตอนที่นั่งเขียนอยู่นี้ กำลังคิดว่าครั้งหน้าถ้าออกเดินทางอีกจะซื้อสมุดอีกซักเล่มนึง
เอาไว้จดความคิดตัวเองอยากรู้ว่าระหว่างที่เดินคนเดียวคิดอะไรบ้าง เลอะเทอะแค่ไหน
จดๆมันไว้แล้วค่อยเอามาอ่านอีกที น่าสนุกดีไม่น้อย


อิจฉาจนมือสั่น ฮึ่ม...คนโสดเดินอยู่ข้างหลังนะคะ อะไรจะหวานปานนั้น

เรื่องบังเอิญน่ารักเกิดขึ้นอีกแล้ว ตอนที่ฉันยกกล้องขึ้นมาถ่ายคู่รักคู่นี้เพราะว่าชะนีน้อยนางนั้น
นางกอดห้อยโหนแฟนนางแทบจะเข้าไปฟิวชั่น ซึ่งเป็นภาพที่ดูน่ารักมากค่ะชอบที่เห็นคนมีความรัก(กัดฟัน)
พอมองแล้วก็มีความสุขเผลอยิ้มตามไปด้วย ซึ่งฉันไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้ฉันจะได้รู้จักกับคู่รักที่อยู่ในภาพ
เราจะได้เดินทางด้วยกันได้พูดคุยกันอีกหลายเรื่อง แต่ในภาพนี้เรายังไม่รู้จักกัน พอฉันย้อนกลับมาเปิดไฟล์ภาพ
เห็นภาพนี้แล้วก็ตลกดีที่มันบังเอิญฉันถ่ายภาพนี้ บังเอิญที่พรุ่งนี้เรานั่งรถคันเดียวกัน บังเอิญที่ฉันเดินหาโรงแรม
ที่เต๋อชิงนานมากจนตัดสินใจมาพักโรงแรมนึงแล้วเจอกับคู่นี้ บางทีทั้งหมดอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ.....







แนะนำจริงๆค่ะว่าควรจะเดินวนรอบทะเลสาบหนึ่งรอบ เพราะจะได้ภาพสวยๆหลากหลายมุมมอง
แถมถ้ามาที่นี่ในช่วงฤดูหนาวหละก็ ทะเลสาบทั้งหมดจะกลายเป็นน้ำแข็งจนลงไปเดินได้เลยหละ

 


เดินโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องรถกลับเลยซักนิด


ยามเย็นทำให้คนโรแมนติคจริงมั้ย?


พื้นที่ตรงกลาง

ฉันเห็นช่องว่างเล็กๆตรงนั้น
ฉันไม่รู้ว่าเค้าสองคนรู้จักกันไหม

ในกรณีที่เค้ารู้จักกัน 
พื้นที่ตรงกลางคืออะไร คือเขตแดนความเป็นส่วนตัว
หรือระยะห่างของความสัมพันธ์

ในกรณีที่เค้าไม่รู้จักกัน
พรหมลิขิตอาจจะกำลังพยายามทำงาน
"สวัสดี" ถ้ามันล่องลอยออกจากปากเขาหรือเธอ
ในอนาคตพื้นที่ตรงกลางคงหายไป.....


อนุสาวรีย์เจงกิสข่าน(ใช่รึเปล่า?)กับอักษรทิเบต

ปัญหาคือขากลับ
เจอพี่คนไทยสองคนตอนขากลับ เลยกลับด้วยกัน
รอรถเมล์อยู่พักใหญ่ยอมหันมาใช้บริการแท็กซี่(ต่อราคาสะบั้นหั่นแหลก)
ขอบคุณพี่ๆที่ให้ติดรถฟรีๆค่ะ แต่ปัญหาคือฉันจำทางกลับเมืองเก่าไม่ได้
ขอพี่ๆลงตรงสี่แยกสถานีขนส่งเมื่อตอนแรก ยืนรอรถเมล์ซักพักเดาได้ว่า
รถหมดชัวร์ เห็นสองสาวชาวจีนลุคดูเป็นนักเที่ยวเที่ยวเลยเข้าไปทัก
โป๊ะเชะ!! สองสาวน้อยกลับเมืองเก่าเหมือนกัน ขั้นตอนเจรจาชวนหารแท็กซี่
ได้เริ่มขึ้น เคราะห์ซ้ำสองสาวพูดอังกฤษแทบไม่ได้เลย อากู๋กูเกิ้ลจึงมาเป็น
ตัวกลางในการสื่อสารอีกครั้ง สรุปตกลงได้ด้วยดีรถมาส่งที่หน้าเมืองเก่า
จ่ายไป 3 หยวน สบายกระเป๋าสุดๆ

*หมายเหตุตอนที่เขียนเรื่องนี้เขียนไว้ยาวกว่านี้มากค่ะ ปรากฏว่าตอนกดปุ่มส่งข้อความ
พันทิพย์เป็นอะไรไม่รู้ส่งข้อความไม่ได้ เนื้อเรื่องหายไป เราก็ขี้เกียจเขียนใหม่เลยรีบสรุป
ได้ใจความประมาณนี้แหละค่า >__<

 


มีแบรนด์เนมหลายร้าน


ทางเข้าเป็นลานจอดรถเดินตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวขวา


ตอนที่เมืองเก่ายังไม่โดนไฟใหม่ ตรงนี้คงสวยน่าดู

 


Tavern 47 เกสเฮาส์คะแนนสูงลิ่วในเว็บ TripAdvisor


เข้ามาด้านในจะเป็นเหมือนห้องรับแขก ใช้นั่งคุยนั่งทานข้าว


หน้าห้องพักโคตรน่ากลัวเลยค่ะ ตอนกลางคืนป๊อดไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียว


เตียงนอนของฉัน


วันนั้นจะว่าดีก็ดีหลอนก็หลอนนะ เพราะว่าไม่มีคนอื่นพักเลยมีแค่ฉันคนเดียว

สำหรับ Tavern47 ฉันว่าราคาที่นี่เมื่อเทียบกับเกสเฮ้าส์ที่อื่นในเมืองเก่าราคา 45 หยวน
อาจจะแพง เพราะว่ามีหลายที่ราคา 30,25 หยวน แต่ที่นี่ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว
คงเพราะเจ้าของเกสเฮ้าส์อัธยาศัยดีที่พูดคุยกับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง แนะนำข้อมูล
ต่างๆเชิงลึกได้ดี มีตารางรถบอกชัดเจนว่าจะมีรถจากแชงไปไหนเวลาเท่าไรบ้าง มีข้อมูล
สถานที่ท่องเที่ยวชัดเจนว่าสามารถนั่งรถอะไรไปได้บ้าง ค่าเข้าราคาเท่าไร โดยรวมฉัน
ถือว่าที่นี่ก็ดีในระดับหนึ่งเลยหละ แถมใครอยากจะลองความแปลกใหม่ก็มีอาหารนาซี
บริการ ถ้าไม่ชอบก็มีอาหารสไตร์ฝรั่ง เกาหลี หลายสัญชาติจริงๆ ส่วนอาหารแนะนำ
ที่หลายคนบอกว่าต้องโดนคือ เบอเกอร์เนื้อยัคหรือจามรี ฉันลองแล้วและค้นพบว่า
......ขออุบไว้ดีกว่าอยากให้ลองเอง

 

แม้ตอนนี้จะเกือบสองทุ่มแล้วยังค่ะเรายังไม่สามารถนอนตายตาหลับได้
ฉันยังมีภารกิจชีวิตอีกอย่างที่ต้องทำในค่ำคืนนี้ คือการไปชมวัดกงล้อช่วงกลางคืน
ในยามที่แสงอาทิตย์โบกมือลาขอบฟ้า วัดนี้จะเปิดไฟสวยงามทั่วทั้งวัดมีมุมสวยๆ
มากมายให้ได้ถ่ายภาพ วัดอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไรแต่จำเป็นต้องเดินตัดผ่าน
พื้นที่ไฟใหม้ จะว่าอันตรายกลัวคนก็กลัวกลัวผีก็กลัวช่วงที่ไฟใหม้จะมืดมาก
มองแทบไม่เห็นอะไรเลย มีแค่แสงโทรศัพท์อ่อนๆเท่านั้นเดินไปก็ลุ้นไป


และที่นี่ก็มีลานเต้นอีกแล้ว เต้นแก้หนาวไปกับดนตรีมันส์ๆ


เป็นภาพที่น่ารักดีนะ

นี่ขนาดเป็นช่วงเกือบจะเข้าฤดูร้อนอากาศคืนนี้ยังเป็นเลขตัวเดียวอยู่เลย
เดินไปสั่นไป อยากให้มีใครเดินข้างๆเกาะแขนไปด้วยจัง T^T




วัดอยู่ด้านบนต้องเดินขึ้น(อีกแล้วหรอT_T)





รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ไม่รู้ประวัติสถานที่อะไรซักอย่าง
จริงๆน่าจะอ่านมาบ้างเนอะว่าวัดสร้างขึ้นมายังไง ปีไหน สำคัญยังไง เสียดายตรงจุดนี้


ที่มาของคำว่าวัดกงล้อใหญ่ (แล้วจริงๆชื่ออะไรนั้นยังไม่รู้เหมือนกัน)


ดึกๆยังมีนักท่องเที่ยวเยอะอยู่

เดินอยู่สักพักเสียงเพลงที่ลานกว้างก็เงียบลง ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันกลับ
ฉันเองก็รีบเดินกลับทางเดิมโดยผ่านย่านไฟใหม้เหมือนเดิม จริงๆคิดว่ามีทางอื่น
แต่กลัวหลงทิศ ถึงเมืองจะไม่ได้ใหญ่มากแต่ถ้าหลงทางคงลำบากไม่น้อย
ตอนเดินกลับรีบสาวท้าวจ้ำอ้าวให้ผ่านความมืดไวที่สุด ใจเต้นตึกๆไม่เป็นจังหวะ
คิดไปต่างๆนาๆ แต่สุดท้ายก็พาตัวเองมาถึงที่พักจนได้

 


เคาท์เตอร์ของเกสเฮ้าส์ ที่นี่มีอ๊อกซิเจนกระป๋องขวดใหญ่กว่าที่ลี่เจียงขายแค่ 20 หยวนเอง


วิญญาณพนักงานบัญชีเข้าสิง ต้องคิดเลขก่อนนอนทุกคืน


ตบท้ายคืนอันเหน็บหนาวของสาวน้อย ด้วย Menu Set Burger Yak + Cola เพิ่งชีส ราคา 50 หยวนแหนะ
(ราคาแพงกว่าค่าที่พักคืนนึงอีก แต่อย่างว่าแหละถ้าไม่กินเนื้อยัคก็เหมือนมาไม่ถึงแชงกรีล่า)

คืนนี้ได้ข้อคิดว่าตัวเองไม่เหมาะนอนห้องเดี่ยวเลย ทั้งๆที่ถ้านอนห้องรวมบางคนอาจจะกลัวโดนขโมยนู่นนี่
แต่ฉันว่าห้องรวมมันอุ่นใจกว่าเป็นไหนๆ คืนนี้ยิ่งแล้วใหญ่นอนคนเดียวในห้องรวม ห้องกว้าง เตียงเยอะ
วังเวงมากบอกตรงๆ แต่สุดท้ายก็พอหัวถึงหมอนเปิดฮีตเตอร์ชัตดาวน์ในเวลาไม่ถึง 10 นาที ฮ่าๆ

พบกันตอนหน้าค่ะ

 

ชอบงานเขียน "Sืhare"หรือ"Like" ให้กำลังใจได้นะคะ

การเดินทางอื่นๆอีกมากมายที่ : http://meledy.bloggang.com

Follow,ฟังเราบ่น,ถามข้อมูล,เป็นเพื่อนกัน จิปาถะ

ด้ที่ : https://www.facebook.com/natcha.roungsuti

 

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ชอบการเดินทางของเราไลค์และแชร์

เป็นจำนวนมากจนเราไม่คาดคิดเลยค่ะ เพื่อเป็นการขอบคุณทุกคน

จขกท.จะไม่หยุดเสาร์-อาทิตย์ ตอนใหม่จะอัพวันต่อวันจนกว่าจะจบ

เนื้อหาโดย: coconutza
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
coconutza's profile


โพสท์โดย: coconutza
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
116 VOTES (4/5 จาก 29 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ซึ้งใจ!! เจ้าของร้านอาหาร "คลังนาปลาข้าว" ประกาศตามหาหนุ่มไข่ดาว 70 บาท ให้มาทำงานที่ร้านได้ ☺เผยเทคนิคปิดฝาหม้อให้สนิท..ทำแบบนี้อาหารไม่มีหกแน่นอนไฮเวย์ทรุดตัวในจีน ทำให้ตายอย่างน้อย 29 รายฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์สิ่งที่คนจีนได้เรียนรู้เกี่ยวกับนิสัยของคนไทยเมื่อมาเที่ยวที่ไทย!ญี่ปุ่นเริ่มติดตั้งฉากกั้นวิวภูเขาไฟฟูจิเเล้วคลิปฝนตกหนัก กลายเป็นไวรัลในจีนการทำสวนตาลของเมืองไทย อีกอาชีพเกษตรหนึ่งของคนไทย ที่ทำได้ลำบาก แต่ตลาดต้องการผลผลิตเสมอโลกจะหายไปภายใน 72 นาที หลังเกาหลีเหนือยิงนิวเคลียร์
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ด่วน : เจรจาไม่เป็นผล เหตุปิดล้อม ปะทะ โจรใต้ ถูกวิสามัญกัมมันตรังสี อันตรายแค่ไหนเมื่อกระจายตัวในอากาศไฮเวย์ทรุดตัวในจีน ทำให้ตายอย่างน้อย 29 ราย😀 เข้ามาดูการค้นพบอย่างกะทันหันที่ทำให้รู้สึกต้องร้อง “ว้าว!” 😉
ตั้งกระทู้ใหม่