“การไม่มีหนี้  เป็นลาภอันประเสริฐ” หลายคนที่เคยได้ยินคำพูดนี้ คงจะเห็นด้วยเป็นแน่แท้  โดยเฉพาะผู้ที่เคยเป็นหนี้หรือกำลังเป็นหนี้อยู่ยิ่งรู้ซึ้งเป็นอย่างดี ว่าการไม่มีหนี้นั้น เป็นลาภอันแสนประเสริฐจริงๆ

หนี้สิน คือ เงินที่เราไปขอยืมหรือกู้คนอื่นมา ไม่ว่าจะเป็นการกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อน ญาติ  พี่น้อง โดยสัญญาว่าจะคืนเงินให้ในอนาคต ซึ่งหนี้สินนี้ แบ่งออกเป็น

1. หนี้ระยะสั้น คือ หนี้ที่ต้องจ่ายคืนในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้ค่าเช่าพื้นที่ขายของ ค่าไฟฟ้าที่ยังไม่ได้จ่าย หรือค่าโทรศัพท์ที่ต้องผ่านชำระด้วยการผ่อนจ่าย เป็นต้น
2. หนี้ระยะยาว คือ หนี้ที่มีระยะเวลาผ่อนชำระนานกว่า 1 ปี เช่น หนี้จากการกู้ยืมเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้จากการซื้อบ้าน เป็นต้น

บางคนมีหนี้สินมากมาย คิดหาทางออกสู่การเป็นอิสระจากการเป็นหนี้ไม่เจอ ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหนก็เห็นแต่หน้าเจ้าหนี้ทั้งยามหลับและยามตื่น แต่ทุกๆปัญหาที่ท่านพบเจอ ล้วนมีทางออกเสมอ บางคนสามารถปลดหนี้ที่มีอยู่หลายแสนบาทจากบัตรเครดิตของตนได้  เขาทำได้อย่างไร ใจสู้แค่ไหน บางครั้งอาศัยเพียงการได้กลับมาทบทวนลักษณะนิสัยการใช้เงิน การออมเงิน และการมีวินัยของตัวเอง อาจเป็นทางออกที่นำท่านไปสู่การมีอิสระจากการเป็นหนี้ก็ได้

เริ่มต้นออมเงิน เพื่อใช้หนี้ให้ได้(หมด)

เริ่มต้นเก็บเงินได้ ก็เตรียมตัวรวยได้ มีคนเคยกล่าวไว้อย่างนั้น และดิฉันคิดว่า ถ้าเราเริ่มต้นเก็บออมเงินได้ เราก็จะสามารถปลดนี้ได้เช่นกัน หลายท่านนึกเถียงอยู่ในใจ เงินเก็บก็ไม่มี มีแต่หนี้เก็บ จะเอาเงินส่วนไหนมาออม เรามาดูกันค่ะ วิธีออมเงิน เพื่อใช้หนี้ให้ได้(หมด)

1. เก็บออมจากอาชีพเสริม เพิ่มรายได้  คือ เราต้องสร้างรายได้หลายๆทาง เพื่อให้มีรายได้ที่มากกว่ารายได้ที่ได้อยู่ประจำทุกเดือน โดยการหาอาชีพเสริม เช่น การรับของมาขายตามตลาดนัด ทำอาหารขาย ขายของออนไลน์ เมื่อเรามีรายได้เพิ่มขึ้นก็จะช่วยทำให้เราเก็บเงินได้มากขึ้น
2. เก็บออมแบบบวกเพิ่ม อาจใช้ในกรณีที่ว่า ท่านไม่สามารถที่จะเก็บเงินออมก่อน 10 % แล้วค่อยใช้ส่วนที่เหลือ หลักการเก็บออมแบบบวกเพิ่มคือ ออมทุก 10 % ของรายจ่ายที่เราได้จ่ายไป โดยต้องมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าว่า ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินไป จะต้องเก็บเงินไว้ 10% ของรายจ่ายนั้น  ตัวอย่างเช่น วันนี้ได้ซื้อกระเป๋าและเสื้อผ้ารวมแล้วเป็นเงิน 1,000 บาท เมื่อกลับถึงบ้านต้องรีบเก็บเงิน 100 บาท ใส่บัญชีเงินฝากทันที ให้ทำอย่างนี้ทุกครั้งที่มีการใช้จ่าย
3. เก็บออมจากการเพิ่มบัญชีเงินออม โดยเปิดบัญชีแบบฝากประจำ ซึ่งจะช่วยให้เรามีวินัยในการเก็บเงินได้มากยิ่งขึ้นเพราะเมื่อมีรายได้เข้ามาสิ่งแรกที่จะทำให้เรานึกถึงการเก็บเงิน คือบัญชีที่ต้องฝากประจำ โดยให้แบ่งเป็น 1) บัญชีฝากประจำ 3 เดือน 2) บัญชีฝากประจำ 6 เดือน 3)บัญชีฝากประจำ 12 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนดให้ถอนเงินแต่ละบัญชี มาหมุนเวียนใช้หนี้ และถ้าเหลือ ก็ยังสามารถนำมาใช้สำหรับการลงทุนได้ วิธีการฝากเงินแบบนี้ช่วงแรกๆ อาจทำได้ยากอยู่สักหน่อย แต่เมื่อได้เริ่มแล้ว สักพักก็จะเริ่มชินเอง ไม่ว่าจะออมด้วยเงินฝากน้อย หรือมาก ก็ควรที่จะเริ่มออมได้แล้ว

วิธีการปลดหนี้ ด้วยเงินออม

เมื่อเริ่มมีเงินออมสำหรับใช้หนี้ได้บ้างแล้ว เราก็จะมาดูวิธีการปลดหนี้กันบ้าง ซึ่งมีอยู่ 2 วิธีง่ายๆ คือ 1. ปลดหนี้เดิม และ 2. ไม่เพิ่มหนี้ใหม่ ทำได้โดย

1. ทำตารางการใช้หนี้ ตัวอย่างเช่น

การทำตารางการใช้หนี้ ให้เรียงลำดับจากเจ้าหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยมากสุด ลงมาเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าควรจะจ่ายเพื่อปิดบัญชีหนี้ใดก่อนและหลัง

2. ให้ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อที่จะดูว่าเรามีรายรับเข้ามาเท่าไร ใช้จ่ายอะไรไปบ้าง สิ่งใดจำเป็น สิ่งใดเร่งด่วน เราอาจจะพบว่าการใช้จ่ายในบางเรื่องยังเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยอยู่ ควรจะต้องประหยัดสิ่งใดอีกบ้าง แยกประเภทรายจ่ายแต่ละอย่างไว้ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า แล้วหาวิธีลดค่าใช้จ่ายในแต่ละประเภทนั้น
3. มีเงินเมื่อไร รีบชำระหนี้เลย โดยอาจไม่ต้องรอให้ครบกำหนดวันชำระ เมื่อเงินที่ได้มาจากการเก็บออมจากรายได้พิเศษ หรือจากการทำอาชีพเสริม ทันทีได้เงินมา ควรนำไปชำระหนี้ก่อน เพื่อไม่ให้เงินจำนวนที่เราต้องการนำไปใช้หนี้นั้น หายไปกับสิ่งล่อตาล่อใจที่ทำให้เราอยากจับจ่ายใช้สอย

วิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ขอให้ท่านที่กำลังเป็นหนี้ หรือตัดสินใจที่จะเป็นหนี้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวท่านนะคะ

ข้อคิดเพิ่มเติม

การอดออม ไม่ใช่ต้องอดอยาก ควรจะวางแผนการออมเงินใช้หนี้ให้เหมาะสมกับตัวเราเอง ซึ่งก็ไม่ควรที่จะเบียดเบียนตัวเราเองมากจนเกินไปนัก

การเป็นหนี้ บางทีอาจไม่ใช่เรื่องที่ต้องทุกข์นัก ถ้าเรามีสติ รู้เหตุผลของการเป็นหนี้(เหตุผลที่ไม่เข้าข้างความอยากของตัวเอง) การเป็นหนี้อาจทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ทำให้เราได้วางแผนชีวิตได้รอบคอบขึ้น มีวินัยต่อตนเองมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ เมื่อถึงวันที่คุณสามารถปลดหนี้ได้หมด คุณอาจนำประสบการณ์และวิธีการต่างๆเหล่านี้ มาปรับใช้ให้คุณร่ำรวยขึ้นมาก็ได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมนะคะว่า “ การไม่มีหนี้นั้น เป็นลาภอันประเสริฐ”