หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

การสูญพันธ์ของไดโนเสาร์

โพสท์โดย mata

 

เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนบน ภาพของโลกใบนี้ที่เราได้เห็นจากสารคดีวิทยาศาสตร์ เป็นภาพที่เราก็เพียงแค่จินตนาการขึ้นทั้งสิ้น เพียงแต่อยู่บนพื้นฐานของหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างฟอสซิลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หรือจากการทับถมกันของดินหรือหินที่บันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางกายภาพของโลกลงบนแต่ละชั้นของหินเหล่านั้น  เราทราบกันดีว่าในอดีตเกือบ 230 ล้านปี มีสัตว์ใหญ่ที่เราเรียกต่อมาว่าไดโนเสาร์ครอบครองระบบนิเวศน์บนโลกใบนี้อยู่นานถึง 165 ล้านปี  อะไรกันแน่ที่ทำให้มันสูญพันธุ์ มีหลายทฤษฎี แต่ที่น่าเชื่อถึงความเป็นไปได้ตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มากที่สุดคือ โลกถูกอุกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชน

เมื่อ 225 ล้านปีก่อน ดินแดนที่ไร้ผู้คน ท่ามกลางความลี้ลับ ทุกทวีปติดกัน รวมเป็นทวีปยักษ์ เรียกว่า แพนเจีย ตอนนั้น ยามเย็นบนพื้นโลก มองดูเหมือนฉากในนิยายวิทยาศาสตร์ บนพื้นดิน ความมืดครึ้มน่าขนลุกครอบคลุมไปทั่วบรรยากาศ ประมาณ 20 ล้านปี ก่อนมีหลักฐานว่าอุกาบาตลูกหนึ่งปะทะกับโลก ก่อให้เกิดการสูญพันธ์ ซึ่งกวาดล้างสิ่งมีชีวิตไปกว่า 90% หลังจากมหัตภัย โลกใหม่ก็เกิดขึ้น (อ่านทำความเข้าใจกับแพนเจียได้จากเรื่อง การเลื่อนไหลของทวีปจากอดีตสู่ปัจจุบัน https://board.postjung.com/648181.html)

แพนเจีย (Pangea)

มันเป็นยุคไทรแอสสิก ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของสัตว์เลื้อยคลาน การใช้ประโยชน์ของความว่างเปล่าที่หลงเหลือจากการสูญพันธุ์ สัตว์เลื้อยคลานวิวัฒนาการหลากหลายสายพันธุ์ ตอนนี้พวกมันมีทุกรูปร่างและทุกขนาด บางชนิดเป็นพวกกินพืชเชื่อง ๆ บางชนิดเป็นนักล่า พวกแมลงมีอยู่ทั่วไป มากว่า 100 ล้านปี และบางชนิดตัวใหญ่ ในไม่ช้ารูปแบบเดิมจะหมดไป และไดโนเสาร์จะครองโลก 45 ล้านปีหลังจากการสูญพันธุ์ โลกก็ถูกยึดครองโดยไดโนเสาร์อีกครั้ง หลักฐานบ่งบอกว่าดาวหางเข้ามาในอิทธิพลแรงดึงดูดของโลก และสลายตัวเหวี่ยงเศษส่วนที่แตกออกมาลงสู่พื้นดิน 2 ชิ้น ชึ้นแรกตกลงในแคนนาดา อีกชิ้นนึงลงฝรั่งเศส และก่อตัวป็นแนวยาว 5,000 กิโลเมตร อีก 2 ชิ้นไปตกในมิเนโซต้าและยูเครน แต่ละแห่งหมอกควันของหินกลายเป็นไอกระจายอยู่ในบรรยากาศบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ ยุคไทรแอสสิกสิ้นสุดลง และยุคจูราสิกก็เริ่มขึ้น ตอนนี้ดินแดนเป็นของยุคไดโนเสาร์ และในตอนนั้นพวกมันตัวใหญ่ขึ้นและเก่งขึ้น นี่คือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งที่สุด ที่เราได้เห็นในประวัติศาสตร์ของโลก

ภาพสลักหินหน้าประธานาธิบดีบนภูเขา รัชมอร์ ในเซาท์ ดาโกต้า เป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญ เมื่อ 65 ล้านปีก่อน มันเป็นผืนดินสุดท้ายที่ไดโนเสาร์เคยเดิน เมื่ออุกาบาตขนาดใหญ่กว่าภูเขาเอเวอร์เรสต์ พุ่งลงมากระทบกับแหลม ยูคาตานของเม็กซีโกผลกระทบคือกลายเป็นแอ่งกว้างกว่า 300 กิโลเมตร และส่งหินที่กลายเป็นไอลุกโชติช่วงไปทางตะวัตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วเกือบ 16 กิโลเมตรต่อวินาที ชั่วพริบตา ทุกอย่างในรัศมีหลายร้อยกิโลเมตรก็กลายเป็นเถ้าถ่าน พืชและสัตว์เผชิญชะตากรรมแตกต่างกัน บ้างก็ถูกความร้อนเผาไหม้ บ้างก็ตายจากแรงปะทะ 1 ชั่วโมงหลังจากการปะทะ เมฆหมอกของฝุ่นและซากปรักหักพัง กระจายทั่วอเมริกาเหนือ อุณหภูมิลดลง และฝนกรดเริ่มตกลงมา ขณะที่ไนโตรเจนถูกความร้อนเผาไหม้หมดไปจากบรรยากาศ ดวงอาทิตย์ไม่สาดแสงอีกหลายเดือน

เมื่อส่องมาก็เผยให้เห็นถึงการทำลายล้าง 90% ของต้นไม้มีใบทั้งหมด และ 70% ของสัตว์สูญหายไป ไดโนเสาร์ส่วนใหญ่สูญพันธุ์แล้วในตอนนี้ มีหลายทฤษฏีอธิบายว่า เหตุใดไดโนเสาร์จึงสูญพันธุ์ครั้งใหญ่เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ร่องรอยในหินบ่งบอกถึงเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น เราพบอีริเดียม หินเขี้ยวหนุมาน เพชรขนาดจิ๋ว ตามชายฝั่งแม่น้ำ เรามีหลักฐานที่ดีที่สุดบางอย่างแสดงว่า เกิดอะไรขึ้นในระยะ 2-3 ปี สุดท้ายที่ไดโนเสาร์ครองโลก ตัวอย่างเช่นเมื่อเราขึ้นไปตามแม่น้ำ เรดเดียร์ เราเหมือนกลับย้อนไปยุค 10 ล้านปีก่อนที่ไดโนเสาร์จะสาบสูญ ซึ่งมีไดโนเสาร์ 35 สายพันธุ์อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ 5 ล้านปีก่อนจบสิ้น เหลืออยู่เพียง 25 หรือ 20 สายพันธุ์ และก่อนการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่มีเหลืออยู่เพียง 6 สายพันธุ์เท่านั้นในบริเวณนี้

นับจากการสูญพันธุ์เพอร์เมียนที่ทำให้ไดโนเสาร์เจริญเติบโต ไม่มีเหตุการณ์ใดเป้นภัยพิบัติและจบสิ้นเช่นนี้ แต่ชีวิตก็คืนสู่สภาพเดิม ในเซาท์ ดาโกต้า เต่าตัวหนึ่งมุ่งไปหาแสงแดด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เริ่มออกจากที่ซ่อนไดโนเสาร์ชนิดเดียวที่เรามองเห็น คือนกที่บินร่อนเหนือหัวเรา เพื่อเตือนใจเราถึงยักษ์ใหญ่ที่สาบสูญไป ไดโนเสาร์เป็นหนึ่งในเรื่องราวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชีวิต จากอลาสก้าถึงเม็กซีโก พวกมันท่องอเมริกาเหนือเป็นจำนวนมหาศาล ตลอดเวลา 160 ล้านปั ที่ไม่ราบรื่น ในยุคของมัน มันใหญ่ที่สุด ฉลาดที่สุด และเป็นสัตว์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกคงเป็นไปไม่ได้ที่สัตว์ขนาดใหญ่นั้น หรือน่าประทับใจเช่นนั้นจะผ่านมาทางนั้นอีก แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดจิ๋ว ทีเรียกว่า เพอกาโตเรียส อนาคตเป็นของพวกมัน วันหนึ่งลูก ๆ ของมันจะเดินอยู่บนดวงจันทร์และนึกย้อนกลับไปถึงความน่าสะพรึงกลัวในยุคที่ไดโนเสาร์ท่องอเมริกา

พอกาโตเรียส (Purgatorius)

คลิปประกอบความเข้าใจ หากโลกโดนดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน สภาพของโลกจะเป็นอย่างไร

เรียบเรียงเพิ่มเติมโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)

ขอบคุณภาพจาก

ขอบคุณคลิปจาก

ขอบคุณข้อมูลบทความจาก
http://www.nextsteptv.com/?p=689
http://board.postjung.com/648181.html
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mata's profile


โพสท์โดย: mata
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
78 VOTES (4.1/5 จาก 19 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
มงต้องลง! "แจ็ค ไททัส" โบกมือลงอเมริกา หวังคว้ามงเวทีโลก!"รู้ไหมทำไมยุงกัดแค่บางคน สงสัยมานาน วันนี้หาคำตอบได้แล้ว เลยอยากมาเล่า'ฮุน เซน' วอนประชาชนกัมพูชา อย่าก่อเหตุรุนแรงต่อสถานทูตไทย บริษัทไทย หรือพลเมืองไทยในกัมพูชา ชี้คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนดีชีวิตพลิก! แม่สิตางศ์ร่ำไห้ กลายเป็นคนไร้บ้าน ต้องพึ่งข้าววัดประทังชีวิต
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
'ฮุน เซน' วอนประชาชนกัมพูชา อย่าก่อเหตุรุนแรงต่อสถานทูตไทย บริษัทไทย หรือพลเมืองไทยในกัมพูชา ชี้คนไทยส่วนใหญ่เป็นคนดีเขมรโต้กลับ 6 มาตรการ หากไทยไม่ยอมเปิดด่าน
ตั้งกระทู้ใหม่