5 พฤติกรรมในชีวิตที่พรากความสุขไปจากคุณโดยไม่รู้ตัว
1. สนใจแต่เรื่องคนอื่นไปหมด
จริงอยู่ว่าการเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่หลายๆ ครั้งคนเราอยู่ในโหมดจดจ้องและเอาแต่มองคนอื่นไปเสียหมด ทั้งนี้บางส่วนก็เกิดขึ้นจากความอิจฉาประเภทอยากให้เขาพลาดพลั้ง บ้างก็เป็นการถวิลหาชนิดตามติดอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมด และหลายๆ ครั้งพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เราไม่ได้สนใจตัวเราเองเลย เราเอาใจของเราไปอยู่กับคนอื่นเสียหมด คิดถึงคนอื่นเสียหมด ซึ่งก็จะมีอีกลักษณะหนึ่งคือการพยายามเอาใจทุกคนไปเสียหมดประเภทอยากเป็นที่รัก อยากเป็นที่ชื่นชอบ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ยิ่งทำให้คุณห่างเหินกับตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ความสุขต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นจากตัวคุณเองได้ทั้งนั้น ไม่ต้องไปหวังพึ่งคนอื่น หรือเอาแต่คิดว่าคนอื่นเป็นอย่างไรเลยแม้แต่น้อย คุณควรจะเริ่มให้ความสนใจกับชีวิตของคุณและทุ่มเทให้กับมันเป็นหลัก ก่อนที่จะไปมองอย่างอื่น
2. รอโอกาสไปเรื่อย
คนจำนวนมากมักคิดว่าความสำเร็จจะนำมาซึ่งความสุขโดยพวกเขาต้องรอโอกาสที่จะมาถึงในวันหนึ่ง แต่การรอคอยโอกาสใช่ว่าจะมาถึงกันง่ายๆ หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้เจอสิ่งที่เรียกว่าโอกาสเลยด้วยซ้ำ ฉะนั้นแล้วคุณไม่จำเป็นต้องไปรออะไรเลยแม้แต่น้อย สร้างโอกาสของคุณเอง หรือบางทีถ้าโอกาสบางอันเข้ามา อาจจะไม่ใช่โอกาสที่ใหญ่มากนัก แต่คุณก็ควรต้องกล้าลองให้ตัวเองมีโอกาสทำอะไรบางอย่างบ้าง ถ้าคุณมองว่าเป้าหมายของคุณในอนาคตคือสิ่งที่คุณปรารถนาและจะนำความสุขมาให้คุณแต่คุณกลับไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อถึงฝัน แล้วเมื่อไรเล่าที่คุณจะได้ความสุขกับเขา
3. ทำงานหวังเพื่อแลกกับเงินเพียงอย่างเดียว
หลายๆ คนมักบอกผมว่าทำงานให้ได้เงินเยอะๆ จะได้เอาไปซื้อของต่างๆ ได้ไปเที่ยว ได้ไปทำโน่นทำนี่ เสมือนใช้งานเป็นใบเบิกทางให้ได้เงินไปซื้อความสุขกัน แต่ที่น่าตลก (หรือเปล่า?) คือพวกเขากลับไม่ได้มีความสุขกับงานไปเสีย มันยิ่งทำให้งานกับชีวิตเหมือนจะแยกขาดออกจากกัน งานกลายเป็นสิ่งที่บั่นทอนความสุขและให้พวกเขารอเอาเงินไปเติมความสุขหลังเลิกงานไป แถมมันเป็นวงจรที่เกิดขึ้นเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ คำถามคือทำไมเราถึงพลักเกือบครึ่งของชีวิตเราไปอยู่ในโหมดนั้นกันเล่า? เราต่างรู้ดีว่าเงินไม่ใช่คำตอบของความสุขแต่เรากลับทำให้ครึ่งชีวิตของเราในแต่ละวันไปอยู่กับสิ่งเหล่านั้นไปทั้งที่เราควรจะมีความสุขได้ในทุกๆ ชั่วโมงของทุกๆ วันไม่ใช่หรือ? หาความสุขจากงานที่คุณทำ (ถ้าสุดท้ายไม่ใช่ คุณก็ต้องถามตัวเองให้ได้แล้วว่ามันมีงานอื่นที่คุณจะมีความสุขกับมันได้ไหม) มันเป็นเรื่องที่ดีมากกับการที่คุณสามารถสนุกไปงานได้เรื่อยๆ หรือมีคนมาบอกคุณว่า “ดูคุณมีความสุขกับงานจังเลยนะ”
4. เอาแต่เกลียด กลัว กังวล
ภาวะ 3 ก – เกลียด กลัว กังวล เป็นความรู้สึกด้านลบที่สามารถฉุดให้คุณดิ่งลงเหวได้อย่างรวดเร็วแถมยากที่จะกลับขึ้นมา หลายคนๆ ถูกดึงความรู้สึกให้จมไปชนิดกู่ไม่กลับกันง่ายๆ ทั้งที่สามอย่างนี้เป็นความรู้สึก ทัศนคติ และความคิดที่เราเป็นคนสร้างเองทั้งนั้น (เอาจริงๆ คือไม่มีอะไรทำอะไรคุณ มีแต่คุณไปรู้สึกกับมันเองทั้งนั้น) ฉะนั้นเลี่ยงได้ก็รีบเลี่ยง หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรู้สึก (คนเรามันก็ใช่พระอิฐพระปูนน่ะนะ) ก็อย่าเอาตัวเราไปจมกับมัน รู้สึกได้แต่ต้องรีบลุกขึ้นมาให้เร็ว
5. ยอมหรือเคยชินมันไปเสียทุกเรื่อง
หลายๆ เรื่องนั้นเรารู้ดีว่าอะไรควรจะเป็นอะไร บางอย่างเรารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม แต่คนจำนวนมากมักไม่อยากไปขัด ไม่อยากไปขวาง เพราะรู้สึกว่าจะทำให้ชีวิตลำบากกว่าเดิม สู้ “ทนๆ ไปดีกว่า” หรือบางคนก็จะบอกว่าถ้าไปยุ่งก็มีแต่จะเครียดกว่าเดิม อยู่เฉยๆ หรือเคยชินมันไปดีกว่า การคิดแบบนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวอยู่พอสมควรเพราะมันทำให้เหมือนคุณยอมจำนนกับหลายๆ ส่วนของชีวิตโดยไม่ให้โอกาสคุณได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณควรจะกล้าที่อยากทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตดีกว่าเดิม แก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองต้อง ทน ทน ทน ไปเรื่อย และมันก็บั่นทอนความสุขคุณไปทุกวันๆ
5 ข้อนี้เป็นพฤติกรรมเบื้องต้นที่ผมพอจะนึกออกว่าทำลายความสุขของเราไปโดยไม่รู้ตัว เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็คอนเมนต์มาบอกกันด้วยนะครับ ^^
โพสท์โดย: I sea u