ตามติดกระแสฮิต หน้าเรียวเล็ก...ไร้ริ้วรอยด้วย BOTOX
นี่หล่อน...หน้าชั้นเริ่มบานแล้ว ทำไงดีอะ ไม่มั่นใจเลย?
โบท็อกซ์ซิเธอ เร็ว ง่าย สวยเรียวเลยหล่ะ อยากเล็กแค่ไหน สั่งได้...ใครๆ เค้าก็ทำกัน...
สาวๆ คะ เทคโนโลยีเพื่อความสวยความงามทุกวันนี้ผุดอย่างกับดอกเห็ด ตามกันไม่ทันเลยทีเดียว ยิ่งกระแสการปรับรูปหน้าให้หน้าเรียวเล็ก
เหมือนดาราหรือสาวเกาหลีนี่เค้ามาแรงจริงๆ แฟชั่นการทำสวยด้วยโบท็อกซ์เลยฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง จะหน้าบาน แก้มเยอะ เนื้อบริเวณ
กรามเยอะแค่ไหน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไปแล้ว เพราะหลายคนเชื่อว่าโบท็อกซ์เอาอยู่ เลยนิยมเลือกใช้วิธีนี้จัดการกับปัญหาหน้าบานกันมา
นักต่อนัก
ก่อนจะไปฉีด โบท็อกซ์ เรารู้จักโบท็อกซ์ดีแค่ไหน แล้วโบท็อกซ์ คืออะไร หลักการของ "โบท็อกซ์" ทำอย่างไร
วันนี้เรามาเจาะลึกกันดีกว่าค่ะ
คำว่า โบท็อกซ์ (Botox) ที่เราพูดๆ กัน ก็มาจากคำว่า โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด A (Botulinum toxin-A) หรือ BTA เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum) ที่ออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง คลายความตึงตัว ในวงการความสวยความงามมักใช้ฉีดเพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและลำคอ โดยเฉพาะริ้วรอยลึกๆ ที่เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อและการแสดงสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นรอยตีนกา ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วเส้นบนหน้าผาก รอยย่นรอบปากและส่วนใหญ่ก็จะฉีดให้หน้าเรียว แล้วก็ลดภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และรักแร้
การรักษาด้วย โบท็อกซ์ แพทย์จะใช้ปริมาณยาที่น้อยโดยใช้เวลาฉีดเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กที่สุด เราก็หมดกังวลเรื่องแผล
เป็นและอาการติดเชื้อได้เลย หลังฉีดก็สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติ ไม่ต้องพักฟื้น รอยนูนจากการฉีดจะหายไปใน 2-3 ชม.และจะเห็น
ผลได้ในเวลาประมาณ 30-60 วัน ส่วนผลข้างเคียงที่พบมากก็คือ ฉีดแล้วหนังตาตก หางคิ้วชี้ขึ้น ระดับคิ้วไม่เท่ากัน แล้วก็มุมปากเบี้ยว ในระยะยาว
จากข้อมูลพบว่าผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์มักมีปัญหาเคี้ยวยาก
การฉีด โบท็อกซ์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่ต้องการปรับรูปหน้าและแก้ไขริ้วรอยย้ำลึก แต่สำหรับคนที่มีขากรรไกรกว้าง หรือมีรูปหน้า
บานกว้าง ที่เกิดจากการสะสมของไขมันหรือมีเนื้อเยอะ การฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานี้นะคะ เพราะโบท็อกซ์จะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อ
เท่านั้น ฤทธิ์ของโบท็อกซ์จะอยู่ได้ราวๆ 6-8 เดือน ก็จะสลายตัวไปเอง พอหมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อที่เคยหยุดใช้งานก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
รูปหน้าก็จะกลับมาบานเหมือนเดิม จึงฉีดซ้ำอยู่เรื่อยๆ คราวนี้มาถึงการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์
- ต้องหยุดขัดหน้า 1-2 วัน
- หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Brulin, Naproxen,Motrin, วิตามินอี, น้ำมันปลา)
เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- งดแอลกอฮอล์ 24 ชม.
- ถ้ามีประวัติโรคเริมที่ปาก ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบและหลังทำโบท็อกซ์ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
- อย่านวด กด บริเวณที่รักษา
- ห้ามนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชม.
- งดซาวน่า สตรีม หรือทำอาหารหน้าเตาร้อนเป็นเวลา 4 ชม.
- งดออกกำลังกายอย่างหนัก หรือเล่นโยคะ เป็นเวลา 4 ชม.
- งดทายาหรือใช้เครื่องสำอางที่จะทำให้ระคายเคือง (กรดวิตามินเอ, เอเอชเอ, วิตามินซี) เป็นเวลา 24 ชม. หลังรักษา
- ต้องพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากที่สุด
- สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังรักษาด้วยความนุ่มนวล
สามารถติดตามข่าวศัลยกรรมดีๆ แบบนี้ได้ที่ Ma-Shows มาโชว์ดอทคอม