(ปลา)หมึกกับการลดความอ้วน
นี้เป็นกระทู้ที่ คัดลอกมา
ไม่ได้แต่งเองนะคะ
ข่าวดีสำหรับผู้ที่ชอบกินปลาหมึก
พวกชอบกินปลาหมึกก็กินได้อย่างสบายใจแล้วคะแต่ก็คงไม่ต้องกินทุกวันหรอกนะ อะไรที่เว่อไปก็ไม่ดีอยู่แล้วคนญี่ปุ่นนิยมกินปลาหมึกกันมาก
ตรงกันข้ามกับคนไทยที่ชอบกินแต่ก็ไม่กล้ากิน กลัวคลอเลสเตอรอลที่มีอยู่ในปลาหมึกถ้าจะกินบ้างก็กินแบบกลัว ๆ คนไทยกลัวจะเป็นโรคความดัน
โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจ สั่งมากินแล้วทั้ง ๆ ที่ อยากจะกินก็กินไม่ลง เจ้าคลอเรสเตอรอลนี้แหละ มันช่างเป็นมารคอหอยเสียนี่กระไร ครั้งนีผมจะบอกข่าวดีสำหรับคนที่ชอบกินปลาหมึกแล้วไม่แพ้ปลาหมึกดร.สุพิศ ทองรอด นักวิชาการด้านอาหารของกรมประมง ได้ชี้แจงให้คณะกรรมมาธการรัฐสภา ทราบว่า ในปลาหมึกมีกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 มีอยู่จำนวนมาก
ซึ่งจะช่วยในการลดปริมาณคลอเลสเตอรอลได้ดี ถึงแม้ว่าปลาหมึกจะมีโคเลสเตอรอล อยู่ด้วย แต่โดยทั่วไป เมื่อเจอกับโอเมก้า 3ซึ่งจะถูกสังเคราะห์ได้ดีกว่าและเป็นตัวต่อต้านคลอเลสเตอรอล ไม่ให้สูงหรือไม่ให้เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นจะเห็นได้ว่าคนญี่ปุ่นจะกินอาหารทะเลทุกชนิด รวมทั้งปลาหมึกและไม่พบว่าเกิดโรคหัวใจเมื่อเทียบกับคนในประเทศทางด้านยุโรป
ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณโอเมก้า 3 นั่นเอง และคนญี่ปุ่นยังมีสุภาษิตที่ว่า“Eat Squid Stay Young” โอเมก้า 3 จะยังลดคลอเลสเตอรอล
ไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นและปริมาณโคเลสเตอรอล ที่ได้รับจากปลาหมึกจะบำรุงผิวหนัง ทำให้ใบหน้าเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น
ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบปลาหมึกกับเนื้อหมู จะตรงกันข้าม เพราะหมูไม่มีโอเมก้า 3 เห็นไหมครับ ฟังดร. สุพิศ ทองรอด
แล้วรู้สึกปลาหมึกจะน่ารับประทานขึ้นอีกมากเรามากินปลาหมึกกันเถอะ ใครที่รู้สึกว่าที่ตึงเฉพาะหู ก็มากินปลาหมึก
จะได้มีใบหน้าเต่งตึงได้ และมาเคี้ยวปลาหมึกล้างความแค้นเก่า ๆ ที่อุตส่าห์อดมานาน แต่จะอย่างไรก็ตาม อย่ากินอะไรให้มันมากเกินไป
แม้แต่ข้าว หากกินมากไปก็เป็นโทษ จะทำอะไรก็บันยะ บันยังไว้บ้าง ให้พอดี พอดี โดยยึดหลักทางสายกลาง
ัสักไม้ ไม่คะ อิอิ