Shirakawago เสน่ห์หมู่บ้านมรดกโลก ประเทศญี่ปุ่น
ก่อนที่หมู่บ้าน Shirakawago นี้จะขึ้นเป็นมรดกโลก ความเป็นอยู่และระบบการจัดการที่ดีมาก เรายกสถานที่นี้ให้เป็นสุดยอด เรื่องการรักษาทั้ง ประเพณี วัฒนธรรม และธรรมชาติ ได้อย่างลงตัว จนได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลก ในปี 1995 โดยหมู่บ้านตั้งอยู่ในเขตเมืองทาคายาม่า (Takayama) จังหวัดกิฟุ (Gifu) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในบริเวณภูมิภาคจูบุบนเกาะฮอนชู (Honshu) ของประเทศญี่ปุ่น (japan)
เราอยากไปเที่ยวที่นี่เร็วๆ เพราะกลัวว่า หากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแล้ว ความดั้งเดิมจะเปลี่ยนไป
เราเอาภาพในมุมต่างๆของหมู่บ้านมาให้ดูกัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเรื่อง ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม
หมู่บ้านชิราคาวาโกะตั้งอยู่บนภูเขาในเขตจังหวัดกิฟูและโทยามา (Gifu and Toyama Prefectures) ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู
ประกอบไปด้วยบ้านเรือนรูปร่างแปลกตาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี กระจายไปในแนวเหนือ-ใต้ ตามที่ราบแคบ ๆ
ที่ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ (Shokawa River)
อาคารบ้านเรือนบ้านแบบโบราณอยู่อยู่ราว 150 หลังคาเรือน โดยสิ่งที่แปลกตาคือหลังคาทรงสูงที่มีความชันมากถึง 60 องศากับพื้นดิน
จนดูเหมือนคนพนมมือภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกสถาปัตยกรรมแบบนี้ว่าเป็นรูปแบบกัสโช (Gassho-zukuri) ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ
โดยโครงสร้างของบ้านสามารถรองรับหิมะที่ตกหนักในช่วงฤดูหนาวได้ดี ปัจจุบันหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยให้หลั่งไหลมาเที่ยวชมความงดงามของหมู่บ้านในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 680,000 คนเลยทีเดียว
ในหน้าร้อนช่วงเช้า ต้องมีการฉีดน้ำขึ้นไปบนหลังคาเพื่อป้องกันไฟไหม้
* สำหรับการเดินทางไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ จากสถานี Takayama Bus Center ด้านหน้าสถานี JR Takayama
นั่งรถบัสโดยสารประจำทาง Nohi ถึง Shirakawako ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 50 นาที
เนื่องจากหลังคาพวกนี้ทำจากวัสดุธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่อยู่บ่อย ๆ การมุงหลังคาใหม่จะทำในช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังจากหิมะละลายหมดแล้ว ในปัจจุบันบ้านแต่ละหลังต้องมุงหลังคาใหม่ทุก 25-35 ปี การมุงหลังคาต้องอาศัยแรงชาวบ้านประมาณ 100-200 คน เหมือนการลงแขกเกี่ยวข้าวของไทย และใช้เวลาเพียงวันเดียวสำหรับบ้าน 1 หลัง ทุกปีจะมีบ้าน 2-3 หลังที่ต้องมุงหลังคาใหม่ เป็นการถ่ายทอดวิธีมุงหลังคาจากรุ่นสู่รุ่นสืบทอดกันมาเป็นประจำทุกปี
ในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะมีการเปิดไฟตอนเย็นช่วงสุดสัปดาห์ ๆ ละ 1 วัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนจะเปิดวันไหนบ้างต้องติดตามจากเว็ปไซต์
ก่อนหน้านี้หมู่บ้านชิราคาวาโกะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของโลกภายนอกแม้แต่คนญี่ปุ่นเอง ชาวบ้านอยู่กันอย่างสงบ ในปี พ.ศ. 2467 มีบ้านเรือนแบบกัสโชนี้ถึง 300 หลังคาเรือน ต่อมามีการสร้างเขื่อนและตามมาด้วยผลจากสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ในปี พ.ศ. 2504 บ้านเรือนทรงดังกล่าวลดเหลือ 191 หลัง และปัจจุบันเหลือเพียง 114 หลังเท่านั้น แต่ก็มีความพยายามในการอนุรักษ์จากคนรุ่นใหม่ โดยมีคำขวัญว่า “ไม่รื้อ ไม่ขาย ไม่เช่า” และชี้ให้เห็นความสำคัญถึงการอนุรักษ์บ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์แบบนี้
และตอนนี้ กระแสการท่องเที่ยว หมู่บ้านชิรากาวาโกะ เป็นจำนวนมาก ท่องเที่ยว ต่างไปชื่นชมสถานที่แห่งนี้ กันอย่างมากมาย
และได้ข่าวมาว่า หากจะไปเที่ยวที่นี่ และพักในสถานที่ใกล้เคียง จะต้องมีการจองล่วงหน้า ถึง 1 ปีด้วยกัน ^^
* สถานที่แห่งนี้ มีเสน่ห์จับใจนักท่องเที่ยวจน อยากกลับไปเที่ยวอีกครั้ง
เริ่มต้นวางแผนท่องเที่ยวได้เลยค่ะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเราไปท่องเที่ยวก็ต้องอนุรักษ์สถานที่ของเขาด้วย
เพื่อเป็นหน้าตาให้กับประเทศ ในฐานะผู้มาเยือนผู้ทรงคุณค่าสำหรับการท่องเที่ยวคะ