ประวัติศาสตร์การขึ้นครูของชาย-ชาย 18+
บทความนี้ว่าด้วยเพสวภาพของมนุษย์ ซึ่งเกี่ยวกับอวัยวะเพศ กิจกรรมทางเพศ รสนิยมทางเพศ ฯลฯ เพื่อจุดประสงค์เชิงสารานุกรม มิได้ยั่วยุส่งเสริมให้มีพฤติกรรมเลียนแบบครับ
การขึ้นครูนั้นมีความหมาย 2 อย่าง ซึ่งมีนัยแตกต่างกันสิ้นเชิง
1. ทําพิธีคํานับครูที่ประสาทวิชาให้เมื่อแรกเรียน ในพิธีกรรมทางศาสนา , ลัทธิความเชื่อ เพื่อแสดงความเคารพนับถือในผู้มีประสิทธิ์ประสาทวิชา มนตรา หรือความขลังให้ตนเอง
2. การที่ไปเที่ยวซ่องและทดลองมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในชีวิต อาจจะเลี้ยงใช้คำว่าพี่เลี้ยง คู่นอน หรืออะไรก็ตามแต่เด็กชายส่วนใหญ่จะได้รับการสอนถึงเรื่องนั้นๆ ความจริงสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเล่า แต่ที่เล่า ก็เพื่อให้บางคนซึ่งไม่มีครู / พี่เลี้ยงที่ดี และไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ได้ทราบเป็นพื้นฐาน แทนที่จะหลับตาเห็นเพียงความมืด การไปหาผู้หญิงราคาไม่ถูกเกินไปจะทำให้ปลอดภัยจากโรคภัยได้มาก ทำให้ไม่หมกมุ่นจนเกินไป เพราะเสียดายสตางค์ และทำให้พ้นเรื่องการทะเลาะกับคนเกะกะระราน ฯลฯ การเลือกคู่นอน ควรเลือกคนที่อัธยาศัยดี พูดจาเพราะ เอาอกเอาใจ ได้ครูหรือคู่นอนแล้ว ต้องถามเสมอว่า เธอเป็นโรคหรือเปล่า ? ฉีดยาครั้งสุดท้ายเมื่อไร ? ดังนี้เป็นต้น
แต่วันนี้จะพูดถึงการขึ้นครูแบบชาย-ชาย ครับ
ทำความเข้าใจก่อนครับว่า การที่ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชาย (Pederasty) มีความหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มกับเด็กหนุ่มนอกครอบครัว คำว่า pederasty มาจากภาษากรีก paiderastia ซึ่งแปลว่า "รักในเด็กผู้ชาย" เป็นคำประสมที่มาจาก παῖς (pais) แปลว่า เด็กผู้ชาย และ ἐραστής (erastēs) แปลว่า คนรัก ซึ่งปรากฎข้อมูลมากมายทั้งเอกสารโบราณและโบราณวัตถุ โดยเฉพาะในยุโรปเองนั้นถือเฟื่องฟู
ทัศนคตินิยม
ในยุคเอเธนส์ 600 ปีก่อนคริสตศักราช เขามีความเชื่อกันว่าผู้ที่ชายนั้นดูเท่ห์ และประหนึ่งเทพบุตร คือจะยกย่องเชิดชูผู้ชายนั่นเอง ทั้งนี้ ยังสามารถส่งสัญลักษณ์สู่เด็กชายผ่านมาทางอวัยวะเพศชาย และน้ำกามของผู้ใหญ่เพศชาย เป็นในลักษณะความสัมพันธ์แบบครูกับลูกศิษย์ โดยอาจะเป็นรูปแบบของ การเป็นคู่รัก , พระเจ้า หรือพี่เลี้ยงก็ได้
ลักษณะวิธี
จะส่งผ่านความเป็นชายเต็มตัวแก่ผู้ที่เคารพบูชา หรือนักเรียน ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก และเมื่อก้าวเด็กหนุ่มเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เขาจะเลิกบทบาทการเป็นฝ่ายรับ ไปแต่งงานมีลูกหลาน หรือมีคู่รักกับเด็กหนุ่มอื่นอีกได้
ในวัฒนธรรมอื่น
- เด็กชายชาวแซมเบียในช่วง 7-8 ปี จะถูกนำนำไปจากแม่ เพื่อขึ้นครู (Initiation) ชาวแซมเบียเชื่อว่าเด็กหนุ่มจะต้องบริโภคน้ำกาม โดยการมีออรัลเซ็กซ์กับเด็กชายที่โตกว่า ให้เกิดความแข็งแกร่งต่อเด็กชาย จนเมื่ออายุราว 15 ปี จะเปลี่ยนบทบาทใหม่คือต้องเตรียมน้ำกามให้กับเด็กรุ่นใหม่
- ชาวเอียตมูล (Iatmul) ในนิวกีนี จะร่วมเพศกับชายจากเผ่าอื่นในช่วงเวลางาน
- ส่วนชาวซีแวนในแอฟริกา ผู้ชายและเด็กชายจะต้องมีการร่วมเพศทางทวารหนัก
- เด็กหนุ่มชาวเมลาเนเซี่ยนตะวันออก (East Bay Melanesian) จะได้รับประสบการณ์ตื่นตัวทางเพศจากชายอายุมากกว่า ซึ่งเลือกโดยบิดาของเด็กหนุ่ม
สงวนเม้นท์ได้เฉพาะเฉพาะสมาชิกโพสจังเท่านั้น และงดโพสต์ภาพครับ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
BBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลก
ช่องอานม้าแตก! ทหารไทยรุกยึดบังเกอร์ ปักธงชาติคืนพื้นที่
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
มิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อ
สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกราย
ไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !
การกินต้นหอมเป็นประจำ มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(วันวาน) เจี๊ยบ โสภิตนภา @ นิตยสาร พลอยแกมเพชร ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๗๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘
(วันวาน) นิตยสาร แพรว ปีที่ 13 ฉบับที่ 298 มกราคม 2535
เลียยยมั้ย
|ཐེཾཇཕདའོཇ







