10 อันดับเมืองท่องเที่ยวแห่งแดนมังกร

4 มกราคม 2557 (07:29)โพสท์โดย เขาบอกชื่อ อาตี๋

ตะลุย! 10 เมืองท่องเที่ยวแห่งแดนมังกร ทั้งชมธรรมชาติและตามรอยประวัติศาสตร์จีน ไปเยือนแผ่นดินใหญ่ ประเทศมหาอำนาจแห่งทิศบูรพา ตามรอยเส้นทางสายไหม เปิดหน้าต่างสู่โลกตะวันออก ไปบุกเมืองท่องเที่ยวรอบประเทศจีนด้วยตัวคุณเอง ไปดูเลยค่ะว่าจะมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง

10. เซินเจิ้น (Shenzhen)

อดีตหมู่บ้านชาวประมงริมฝั่งที่พัฒนามาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น หน้าต่างโลก (Window Of the World) ซึ่งเป็นเมืองจำลองสถานที่สำคัญรอบโลก 118 แห่งและยังเป็นจุดชมวิวเมืองเซินเจิ้นและเกาะฮ่องกง พิพิธภัณฑ์เซินเจิ้น (Shenzen Museum) จัดแสดงโบราณวัตถุ ประวัติศาสตร์และศิลปะของเมือง เมืองจำลองจีน (Splendid China) ที่จำลองสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์กว่า 5000 ปีทั้งหมดของประเทศไว้ด้วยกัน และแหล่งช้อปปิ้งสินค้าหลากหลาย ห้างหลอวู ซิตี้ (LOWU CITY) แหล่งสินค้าราคาประหยัดยอดนิยม

9. เจิ้งโจว (Zhengzhou)

เมืองแห่งสิ่งทอและอุตสาหกรรมทางการเกษตร เป็นที่ตั้งของวัดเส้าหลิน (Shaolin Monastery) อันโด่งดัง วัดแห่งนี้มีความเป็นมาอันช้านานกว่า 1500 ปี มีอาณาบริเวณบนกลุ่มเขาศักดิ์สิทธิ์ และในบริเวณรอบๆ วัดก็เป็นป่าเจดีย์หรือสุสานของพระแห่งวัดเส้าหลินในอดีต และพลาดไม่ได้กับการไปเยือนศาลไคฟง (Kaifeng Memorial Temple-Lingshi Court) ของท่านเปาบุ้นจิ้นผู้ทรงคุณธรรม ไฮไลท์ของศาลไคฟงคือในช่วงเวลา 9 โมงเช้าของทุกวันจะมีนักแสดงแต่งชุดท่านเปาฯ มารับคำร้องเรียนและว่าความตามคดีที่มาร้องทุกข์นั้น ภายในศาลมีการจัดแสดงชุดประหาร จวนที่พัก และรูปปั้นเปาบุ้นจิ้นทำด้วยทองสัมฤทธิ์หนักที่หนักที่สุดในจีน

8.กวางโจว (Guangzhou)

เมืองใหญ่ทางใต้ของประเทศ ในอดีตเป็นเมืองท่าเมืองเดียวที่ยอมให้เรือสินค้าจากตะวันตกเข้ามาค้าขาย กวางโจวมีระบบการคมนาคมที่ดีมาก มีรถไฟใต้ดินในเขตสำคัญของเมือง เป็นแหล่งชมดอกไม้บานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ไปชมพิพิธภัณฑ์ดร.ซุนยัดเซ็น (National Dr.Sun Yat-Sen Memorial Hall) ผู้นำจีนยุคใหม่ เยือนอนุสาวรีย์ 5 แพะ อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง กวางโจวรู้จักกันในนามเมืองแพะ เพราะเชื่อว่าแพะ 5 ตัวจากสรวงสรรค์นำเทพเจ้าแห่งความสมบูรณ์มาให้แก่เมือง ไปสักการะพระสารีริกธาตุ ที่เจดีย์ 9 ชั้น ณ วัดไทร 6 ต้น

7. ซีอาน (Xi’an)

เมืองโบราณของประเทศที่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าถึง 13 ราชวงศ์ มีอายุเกือบสามพันปี ซึ่งในปัจจุบันแม้ความเจริญจะเข้ามามากมายแต่บางส่วนของเมืองก็ยังอนุรักษ์ไว้ เช่น กำแพงและประตูเมือง (City Wall) ที่มีอายุกว่า 500 ปี นครแห่งนี้คือจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม (The Silk Road) ไปเยือนสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ชมกองทัพทหารดินเผา (The Terracotta Warriors) ที่เฝ้าสุสานของฮ่องเต้ ถัดไปทางใต้ของเมืองก็จะมีโบราณสถาน เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Big Wild Goose Pagoda) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 652 เป็นเจดีย์ศิลปะจีนผสมอินเดีย ภายในมีพระพุทธรูปพระถังซำจั๋งอันศักดิ์สิทธิ์

6. เซียะเหมินหรืออามอย (Xiamen หรือ Amoy)

ป็นเมืองบนเกาะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเกาะไต้หวันซึ่งห่างกันเพียงแค่ 1 ก.ม. เป็นเมืองท่าและเมืองเศรษฐกิจหลักของจีนอีกเมืองหนึ่ง มีความสวยงามดั่งชื่อ “สวนดอกไม้แห่งทะเล” และยังโด่งดังเรื่องอาหารทะเลอีกด้วย แวะข้ามฝั่งไปเกาะกูลั่งอวี่ (Gulangyu Island) หรือ “เมืองแห่งดนตรี” ว่ากันว่าเกือบทุกบ้านจะต้องมีเครื่องดนตรีสักชิ้น มีพิพิธภัณฑ์เปียโนแห่งเดียวในโลกที่จัดแสดงเปียโนประเภทต่างๆ รวมถึงภาพถ่ายของบรรดานักเปียโนระดับโลก ไปชมวิวอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่เขาหัวมังกร (Tiger Head Hill) และไปไหว้สักการะเจ้าแม่กวนอิมแห่งวัดโบราณสมัยราชวงศ์ถัง ณ วัดหนานผูเต่า (Nanputuo) ซึ่งวัดนี้เป็นแหล่งเก็บเอกสารสำคัญของพุทธศาสนาและยังมีพระพุทธรูปจากประเทศพม่าประดิษฐานอยู่ด้วย

5. คุนหมิง (Kunming)

เมืองที่มีอากาศอบอุ่นตลอดปีจนได้ชื่อว่า “นครแห่งฤดูใบไม้ผลิ” ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติสวยงาม มียอดเขาสูงชัน ข่าเก๋อป๋อ (Kawagarbo Peak) แห่งทิวเขาหิมะเหมยหลี่ (Meili Snow Mountain) ที่ดึงดูดนักไต่เขาจากรอบโลก ไปเยือนอุทยานป่าหิน (Shilin Stone Forest) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไปเดินลอดประตูมังกรริมหน้าผา ประตูมังกรหลงเมิน (Longmen-Dragon Gate) แห่งเขาซีชาน (Xishan) เพื่อเป็นสิริมงคลให้ชีวิต เชื่อกันว่าใครได้ลอดประตูนี้จะมีแต่โชคลาภไม่ขาดสาย ไปสักการะพระสังกัจจายน์ในวัดเก่าตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง วัดหยวนทง (Yuantong temple) ซึ่งถือเป็นวัดสำคัญของพุทธศาสนา

4. เฉิงตู (Chengdu)

เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและสวยงามหลายแห่ง เช่น ขุนเขาในตำนาน เขาง้อไบ๊ ซึ่งมีความสำคัญทางพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์ของจีน ในบริเวณเขาจนไปถึงยอดเขามีสิ่งก่อสร้างและศาสนสถานอยู่หลายแห่ง ไปชมพระพุทธรูปสลักขนาดใหญ่ เล่อซัน (Leshan Giant Buddha) ออกนอกเมืองไปอีกสักหน่อยเพื่อไปชมมหัศจรรย์ธรรมชาติสวยงามระดับมรดกโลก ณ อุทยานแห่งชาติจิ้วจ่ายโกว (Jiuzhaigou) ที่มีทั้งทะเลสาบหลากสี น้ำตก ภูเขา ธารน้ำแข็ง ถัดออกไปไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของจุดชมธรรมชาติขึ้นชื่ออีกแห่งคือ หวงหลอง หรือ มังกรสีเหลือง (Huanglong –Yellow Dragon) ซึ่งเป็นลุ่มน้ำลึกสีเหลืองจากการสะสมของหินปูน มีน้ำตกสวยงาม น้ำตกนูโอริน่า (Nuorina) เมืองนี้สามารถเที่ยวได้ทั้งปี เพราะ ในช่วงฤดูหนาวก็จะเป็นแหล่งสกียอดนิยม โดยเฉพาะที่ภูเขาซีหลิง (Xi ling Snow Maintain) ที่ได้ฉายาว่า “แอลป์แห่งบูรพา”

3. หางโจว (Hangzhou)

เป็นเมืองที่มีความสวยงามทางธรรมชาติมากแห่งหนึ่ง ในขณะเดียวกันหางโจวก็ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชื่อดัง มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง และมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย ถือเป็น 1 ใน 7 เมืองโบราณของประเทศ ไปล่องเรือชมวนอุทยานทะเลสาบซีหู (Xihu-West Lake) มรดกโลกอันกว้างใหญ่และสวยงาม แวะไปสักการะศาลเทพเจ้างักฮุย (Loyalty Temple) วัดพระจี้กงหรือวัดหลินอิ่ง (Lingyin Temple) และชมอาทิตย์อัสดงที่เจดีย์เหลยเฟิง (Lai Feng Temple) ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับทะเลสาบ ชมผ้าม่านน้ำตกที่ถ้ำวิสูตร (Cave Wisut) ช้อปปิ้งผ้าไหมและใบชาชั้นดี “หลงจิ่งชา” หรือชาบ่อมังกร หางโจวเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงอากาศดีที่สุด คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) ถัดมา คือ ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน)

2. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)

มหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนตั้งอยู่บนแม่น้ำแยงซีเกียง เป็นเมืองท่าเรือที่พลุกพล่านมากที่สุดเมืองหนึ่งในโลก สิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมของเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในช่วงที่ถูกยึดครองโดยฝรั่งเศสจนได้ฉายา “ปารีสตะวันออก” เยี่ยมชมคฤหาสน์สวยแบบยุโรปในเขตสัมปทานฝรั่งเศส และยังเป็นที่ตั้งของบ้านเก่า ซุนยัดเซน อดีตผู้นำจีน ไปเยือนตึกเก่าสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้ เดอะบันด์ (The Bund) และหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ สูง 468 เมตร หอไข่มุก (The Oriental Pearl TV Tower) ส่วนคนรักธรรมชาติก็ต้องไปเยือนสวนอังกฤษหวงฝู่ ที่ครั้งหนึ่งในอดีตสงวนให้เข้าเฉพาะชาวยุโรปเท่านั้น และอุทยานอวี้หยวน (Garden of Joy) สวนสวยที่มีร้านชาที่เก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ร้านน้ำชาหูซิงถิง แวะช้อปปิ้งถนนคนเดิน นานจิง (Nanjing) ชมงานศิลปะจีนและรูปปั้นหล่อสำริดที่ขึ้นชื่อว่างามที่สุดในโลกที่พิพิธภัณฑ์ช่างไห่ป๋ออู้ก่วน และไหว้พระขอพรที่วัดเทพเจ้าประจำเมือง (Temple of the God) หรือเฉินหวงเมี่ยว (Chenghuang Miao)

1. ปักกิ่ง (Beijing)

เมืองหลวงของประเทศและใหญ่รองลงมาจากเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการปกครองและถือเป็นเมืองระดับโลก ไปเยือนสิ่งมหัศจรรย์มนุษย์สร้างกำแพงเมืองจีนอันยิ่งใหญ่ หอบูชาฟ้าเทียนถาน (The Temple of Heaven) จัตุรัสแห่งประวัติศาสตร์เทียนอันเหมิน สุสาน 13 กษัตริย์ ซึ่งเป็นสุสานของพระจักรพรรดิราชวงศ์หมิง 13 พระองค์ และพระราชวังใต้ดินภายใต้สุสาน ห้ามพลาดกับการไปเยือนพระราชวังต้องห้ามกู้กงซึ่งได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลก พระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace) และสวนสวยของพระนางซูสีไทเฮา หากมาเที่ยวช่วงฤดูร้อนจะได้ชมพันธุ์ไม้และดอกไม้สวยงาม หากอยากมาเยือนปักกิ่งฤดูหนาวก็จะได้เล่นลานสเก็ตน้ำแข็งในตัวเมือง

ที่มา: toptenthailand

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม