หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

การใช้สมองเพื่อควบคุมขาเทียมเป็นผลสำเร็จแล้ว

โพสท์โดย mata

  

ชายวัย 32 ปีผู้ซึ่งสูญเสียขาตั้งแต่หัวเข่าลงไปจากเหตุการณ์อุบัติเหตุทางจักรยานยนต์เมื่อสี่ปีที่แล้วนั้นได้รับขาเทียมหุ่นยนต์ที่เขาสามารถควบคุมได้ด้วยความคิดแล้ว

ในขณะที่เทคโนโลยีคล้ายๆกันได้ทำให้ผู้พิการสามารถควบคุมแขนกลด้วยความคิดมาก่อนแล้ว Zac Vawter นั้นเป็นผู้พิการรายแรกที่ใช้ขาเทียมที่สามารถควบคุมด้วยความคิดได้

ขาหุ่นยนต์ดังกล่าวที่สามารถถอดรหัสสัญญาณไฟฟ้าที่เดินทางผ่านกล้ามเนื้อขาที่หลงเหลืออยู่ของ Vater นั้นไม่เพียงอ่านความเคลื่อนไหวล่วงหน้าของคนไข้ได้เท่านั้น แต่ยังมีมอเตอร์บรรจุอยู่ภายในหัวเข่าและข้อเท้าซึ่งจะช่วยผลักให้เขาสามารถขึ้นบันไดและปฏิบัติภารกิจอื่นๆได้อีกด้วย

จากการใช้ขาหุ่นยนต์นี้นั้น Vawter สามารถเปลี่ยนการเคลื่อนไหวจากนั่ง เดิน หรือขึ้นลงบันไดได้อย่างราบรื่น ซึ่งในทางกลับกันนั้น ขาเทียมส่วนล่างที่มีอยู่ในตลาดทุกวันนี้นั้นเป็นรูปแบบที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้งานนั้นจะต้องออกแรงในส่วนกล้ามเนื้อที่เหลืออยู่เพื่อลากขาเทียมนั้นไปกับตัวเองด้วย ส่วนแบบที่มีมอเตอร์ในตัวแบบอื่นนั้นก็เป็นแบบควบคุมด้วยรีโมต หรือไม่ก็จำเป็นที่จะให้คนไข้ต้องทำการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นอย่างเช่นการเตะไปข้างหลังแรงๆก่อนที่จะเปลี่ยนการเลื่อนไหว เป็นต้น

Vawter กล่าวว่าขาหุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมได้ด้วยความคิดของเขานั้น “ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมได้เหมาะสมกว่ามาก ไม่ว่าผมอยากจะไปที่ไหน หรือว่าจะเดินอย่างไร”

ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เขาสวมใส่ขาเทียมแบบปกติแล้วต้องเดินขึ้นบันไดนั้น เขาจะต้องวางเท้าข้างเดิมบนขั้นบันไดที่เขาจะปีนขึ้นทุกครั้ง “ในขณะที่ถ้าผมใช้ขาเทียมนี้แล้วล่ะก็ ผมจะสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปได้” และสามารถเดินขึ้นบันไดแบบสลับเท้ากันได้แล้ว

ในขณะที่การพัฒนาทางเทคโนโลยีนั้นยังจำเป็นอยู่ เหล่านักวิจัยนั้นก็หวังว่าจะทำให้ขาเทียมดังกล่าวมีใช้ในสถานรักษาต่างๆภายใน 5 ปี

วิธีการทำงาน

เวลาที่คนๆนึงนั้นคิดถึงการขยับขาของตัวเองนั้น สัญญาณจากสมองจะถูกส่งผ่านเส้นไขสันหลังและเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อที่ขา

แต่เมื่อการผ่าตัดที่ต้องมีการตัดขาเกิดขึ้นแล้ว สัญญาณจากสมองนั้นก็จะไปยังหัวเข่าหรือข้อเท้านั้นก็จะไม่สามารถส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อได้ ซึ่งเพื่อที่จะพิชิตปัญหาดังกล่าวนั้น นักวิจัยได้เริ่มทำการผ่าตัดกับ Vawter เพื่อเคลื่อนย้ายสัญญาณสมองเพื่อที่จะให้สัญญาณนั้นส่งไปยังส่วนบนของขาแทน

หลังจากนั้นอิเล็กโทรดก็ถูกติดไว้ที่่ขาเพื่อที่จะเก็บสัญญาณไฟฟ้าจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งหลังจากนั้นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็จะถอดรหัสสัญญาณเพื่ออ่านความเคลื่อนไหวของคนไข้ อีกทั้งเซ็นเซอร์ต่างๆภายในขาหุ่นยนต์นั้นก็จะช่วยเก็บข้อมูลต่างๆเพื่อช่วยเหลือในการเคลื่อนไหวด้วย

ในอนาคตนั้น ทางนักวิจัยกล่าวว่าพวกเขาต้องการที่จะทำให้ขาหุ่นยนต์ดังกล่าวมีขนาดเล็กลง ลดเสียงลง และแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งทำให้ความผิดพลาดในการอ่านความเคลื่อนไหวมากขึ้นด้วย

Mind blowing: Zac Vawter celebrates climbing to the top of the 103-story Willis Tower using the worlds first neural-controlled Bionic leg in Chicago
 
Here he is! With a roar of applause and every camera snapping Zac Vawter stepped up to the 103rd floor
 
 
Thought provoking: Zac Vawter on his way to the top of the 103-story Willis Tower using the worlds first neural-controlled Bionic leg
 
Pack: Posing with a group of researchers from the Rehabilitation Institute of Chicago, Mr Vawter is seen centre after they completed their trek
On top of the world: Zac Vawter looks down from the Ledge at the Willis Tower, where he completed the climb on the bionic leg
 
Technology: According to the Rehabilitation Institute of Chicago, their Center for Bionic Medicine has still not completed tests on the innovative leg
 
 
Day to remember: The climb up the Chicago tower made history as the bionic leg's public debut
 
Practice makes perfect: Biomedical engineer Annie Simon, left, and research prosthetist Elizabeth Halsne fit an experimental leg on Zac Vawter during days of practice
 
Futuristic: Dr. Levi Hargrove, lead researcher for the Rehabilitation Institute of Chicago's Center for Bionic Medicine, holds an experimental 'bionic' prosthetic leg at the institute
 
A towering display: The Willis Tower was called the Sears Tower until the summer of 2009 and is the tallest building in North AmericaA towering display: The Willis Tower was called the Sears Tower until the summer of 2009 and is the tallest building in North America
 
Zac, who lost his leg following a motorcycle accident, made it to the top of the tower in under an hour

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
mata's profile


โพสท์โดย: mata
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เรือนจำที่น่ากลัวที่สุดในโลกสาวขึ้นรถไฟฟ้าไม่ทัน ประตูหนีบมือ ก่อนโดนลากไปกับรถเพจดังเปิดคลิป เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดังไม่มีความเกรง อกเกรงใจคนอื่น ชาวเน็ตวิจารณ์ยับเปิดตัวเลขจริง! เอวาและ 4 สาวหมื่นล้าน มีเงินในบัญชีคนละเท่าไหร่?ชายคนหนึ่งเข้าพักโรงแรม เกิดเหงาเรียกสาวบริการ พบเป็นเมียของตนเองในวันที่ไม่มีพ่อแม่คอยถามไถ่ อย่างน้อยๆ น้องก็ยังมี เพื่อนพ่อที่คอยถามไถ่น้องแทนจินโทนิก จากยารักษาโรคภัยในอดีต สู่ยารักษาโรคใจ ค็อกเทลฮิตติดอันดับโลกนักท่องเที่ยวถูกขโมยกระเป๋าในห้างไทย ต้องตามคนร้ายจากสัญญาณไอพอด ก่อนตำรวจจะจับตัวได้ พบเป็นชาวอินโดฯ ที่มาทำงานในไทย 😏เพจ ดังเปิดคลิปวีดีโอ เพื่อนบ้านเลี้ยงหมาเป็นฝูง เสียงเห่า สร้างความเดือดร้อน ให้คนอื่นเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568สัมภาษณ์ "ลูกนัท" ยูทูปเบอร์รุ่นแรกๆflaw: ข้อเสีย ข้อบกพร่อง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพจ ดังเปิดคลิปวีดีโอ เพื่อนบ้านเลี้ยงหมาเป็นฝูง เสียงเห่า สร้างความเดือดร้อน ให้คนอื่นเมื่อฉันไปบาหลี EP.6 Tirta Empul Templeสัมภาษณ์ "ลูกนัท" ยูทูปเบอร์รุ่นแรกๆชายคนหนึ่งเข้าพักโรงแรม เกิดเหงาเรียกสาวบริการ พบเป็นเมียของตนเองสาวขึ้นรถไฟฟ้าไม่ทัน ประตูหนีบมือ ก่อนโดนลากไปกับรถเรือนจำที่น่ากลัวที่สุดในโลก
ตั้งกระทู้ใหม่