เชื่อหรือไม่ กาว ถูกคิดค้นและใช้มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมต้องใช้กาวเพื่อติดของบางอย่าง ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าประวัติความเป็นมาของกาว มีที่มาอย่างไร ก็เลยนั่งหาข้อมูล ค้นไปค้นมาจนไปอ่านเจอเรื่องการใช้ส่วนผสมลงไปในสีที่ใช้เขียนผนังถ้ำของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ เรื่อง "ภาพเขียนของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทำไมสีที่ใช้ถึงคงทน" https://board.postjung.com/657651.html ที่เรียบเรียงและโพสท์ไว้ตั้งแต่ต้นปี ก็เป็นการบังเอิญพอดีครับ ได้มีการกล่าวถึงการใช้กาวอยู่ในส่วนผสมของสี แต่ไม่ได้ใช้คำว่ากาว และกาวก็ไม่ได้เป็นอย่างในปัจจุบัน มาค้นหาคำตอบกันได้เลยครับ
เชื่อหรือไม่ครับว่าจุดเริ่มต้นของการใช้กาวครั้งแรกนั้นเราต้องมองย้อนกลับไปนานถึง 15,000 ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียว หรือประมาณ 17,000 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ (โดยทั่วไปหมายถึงช่วงเวลาที่ไม่มีการบันทึกเรื่องราวต่างๆ โดยมนุษย์ ในบางครั้งหมายถึง ช่วงเวลาก่อนมีอารยธรรมมนุษย์)
หลักฐานชิ้นแรกของ "กาว" ในประวัติศาสตร์โลก ถูกค้นพบในการวาดภาพบนฝาผนังถ้ำของเหล่าบรรพบุรุษมนุษย์ยุคหินในเมือง Lascaux ประเทศฝรั่งเศส สันนิษฐานได้ว่าศิลปินผนังถ้ำเหล่านี้ต้องการให้งานศิลปะของพวกเขาทนทาน พวกเขาจึงได้คิดค้นเทคนิคในการผสมกาวเข้ากับสี โดยการใช้ไขมันสัตว์ และยางไม้บางชนิด (ยางจากต้น SAP) หรืออาจจะเป็นยางจากไม้พันธุ์อื่นก็เป็นได้ เพื่อทำให้สีสามารถต่อสู้กับความชื้นภายในถ้ำและติดทนนานได้เป็นอย่างดี
ภาพวาดจากถ้ำลาสโคว์ (Lascaux) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส
ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ลายเส้นที่ปรากฏมีความพลิ้วไหวราวกับภาพตวัดด้วยพู่กันของจีน
นักโบราณคดีขุดค้นสถานที่ฝังศพเมื่อ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล มีการค้นพบหม้อดินซ่อมแซมด้วยกาวที่ทำจากต้น SAP นำไปผสานกับหม้อเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่
นอกจากศิลปะผนังถ้ำแล้ว หลักฐานอื่นที่แสดงถึงประวัติศาสตร์การใช้กาวยังมีให้เห็นในการสร้างกระดาษ ปาปีรุส (papyrus) ของชาวอียิปต์โบราณ และยังรวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ อีกทั้งในยุคกรีกโรมัน เหล่าศิลปินต่างเพลินเพลินในการใช้กาวในการสร้างสรรค์ศิลปะ เห็นได้จากผลงาน ศิลปะ mosaic บนพื้น ผนังกำแพง และ อ่างอาบน้ำโรมัน ซึ่งยังคงทน แข็งแรงจนถึงปัจจุบัน
เป็นภาพโมเสกตัวฮายิน่ายุคโรมัน อายุประมาณ 2,000 ปี
สูตรการทำกาวของชาวโรมัน : ไข่ขาว, เลือด, กระดูก, นม, ชีส, ผักและธัญพืช และขี้ผึ้ง
บรรพบุรุษ ได้ฝากผลงานไว้มากมายให้คนรุ่นปัุจจุบันได้ศึกษา ผลงานหลายชิ้นแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในยุคที่ขาดซึ่งเครื่องไม้เครื่องมือ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ค้นหาวิธีที่จะทำให้มันยิ่งใหญ่ และสามารถผ่านกาลเวลามาหลายพันปีจนถึงปัจจุบัน ขอบคุณบรรพบุรุษนักคิดทั้งหลายที่เป็นต้นแบบแนวทางในการค้นคว้าและพัฒนาต่อพวกเรา สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อนแล้วผมจะหาเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกันใหม่นะครับ...mata
เรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ขอบคุณภาพจาก
http://storyofart.wordpress.com/tag/lascaux/
http://ancienthistory.about.com/od/romeart/ss/paradise_2.htm