สมุดข่อย สมบัติล้ำค่าจากบรรพชน
สวัสดีครับเพื่อนๆ หากถามถึงกระดาษที่มีที่มาเก่าแก่ยาวนาน หลายคนก็คงต้องตอบด้วยคำตอบเดียวกันหมดว่ากระดาษปาปิรุสของชนชาติอิยิปต์โบราณ ซึ่งมีที่มาจากชนชาวฮั่นประเทศจีน (https://board.postjung.com/641573.html) น้อยคนนักที่จะนึกถึงกระดาษของบ้านเราเองที่มีประวัติยาวนาน บรรทึกที่จารึกไว้ทั้งขาวดำ ลวดลาย และสีที่สวยงาม วันนี้เลยอยากพาเพื่อนๆ มาทบทวนความทรงจำของกระดาษที่ผลิตโดยภูมิปัญญาคนไทยที่ทรงคุณค่าในอดีตกันครับ
สมุดข่อย
“…ชาวสยามทำกระดาษจากผ้าฝ้ายเก่าๆ และยังทำจากเปลือกต้นไม้ชนิดหนึ่งชื่อต้นข่อย (Ton Coe) อีกด้วย ซึ่งต้องนำมาบดย่อยให้ละเอียด เช่นอย่างย่อยผ้าขี้ริ้ว แต่กระดาษเหล่านี้มีความหนาบางไม่สม่ำเสมอ ทั้งเนื้อกระดาษและความขาวผ่องก็หย่อนกว่าของเรา…” หนังสือราชอาณาจักรสยาม ของ มองซิเออร์ เดอ ลา ลูแบร์
จากบันทึกข้างต้นของราชทูตฝรั่งเศสที่เข้ามายังราชสำนักกรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นหลักฐานที่แสดงว่าคนไทยโบราณรู้วิธีบันทึกข้อมูลความรู้ ประวัติศาสตร์ และเรื่องราวต่างๆ ลงบนวัสดุที่เรียกว่า “สมุดข่อย” มานานแล้ว และทำใช้กันเรื่อยมา จนมาเสื่อมลงเมื่อเทคโนโลยีการพิมพ์หนังสือเริ่มแพร่หลายในสังคมไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมา
สมุดข่อยหรือสมุดไทยมีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนหนังสือที่เราคุ้นเคยในปัจจุบันซึ่งเป็นรูปแบบที่รับจากชาติตะวันตก สมุดข่อยมีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า เขียนตามแนวยาวของกระดาษ ตัวเล่มเป็นกระดาษยาวติดต่อเป็นแผ่นเดียวกันตลอดเล่ม โดยใช้วิธีพับกลับไปมาให้เป็นเล่ม จะทำยาวเท่าใดก็ได้ ไม่เย็บแผ่นกระดาษเป็นเล่มเหมือนหนังสือปัจจุบัน และไม่เปิดจากขวาไปซ้าย แต่เปิดจากด้านตัวผู้อ่านออกไป
สมุดภาพวัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี เล่ม ๓
สมุดข่อยมี 2 แบบ คือ หน้ากระดาษสีขาว เรียกว่า สมุดขาว และหน้ากระดาษเป็นสีดำ เรียกว่า สมุดดำ วัสดุที่ใช้เขียนมีหลายอย่าง สมุดดำจะเขียนด้วยดินสอสีขาวที่ได้จากดินสอพอง หรือเปลือกหอยมุกบดผสมกาว ถ้าเป็นสมุดขาวจะเขียนด้วยสีดำหรือสีอื่นๆ สีดำได้จากเขม่าไฟ หรือหมึกจีน สีแดงที่ได้จากชาด สีทองได้จากทองคำเปลว สีเหลืองได้จากส่วนผสมของรง (ยางไม้) และหรดาล (หินแร่)
สมุดดำ
นอกจากบันทึกเรื่องราวต่างๆ เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว สมุดข่อยบางเล่ม โดยเฉพาะสมุดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ยังมีภาพจิตรกรรมประกอบอยู่ด้วย ความงดงามของภาพเขียนนี้นอกจากเพิ่มคุณค่าทางด้านสุนทรียศาสตร์แล้วยังสะท้อนคตินิยมในแต่ละยุคสมัยด้วย
อัปสรฟ้อนรำ สมุดภาพวัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี เล่ม ๑
วิกขิตตกอสุภกรรมฐาน สมุดภาพวัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี เล่ม ๒
เอาข่อยมาทำสมุด
“สมุดข่อย” ทำมาจากเปลือกของต้นข่อย ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่พบมากในภาคกลาง ตามบริเวณป่าและริมแม่น้ำ การทำกระดาษด้วยข่อยจึงเป็นเทคนิคที่แพร่หลายในเขตภาคกลาง มีขั้นตอนการทำดังนี้
1. นำต้นข่อยมาลอกเอาแต่เปลือก นำไปตากแดด แล้วแช่ทิ้งน้ำไว้ 3-4 วัน กระทั่งเปลือกข่อยเปื่อยยุ่ย
2. เอาข่อยขึ้นจากน้ำ ฉีกเป็นฝอย ใส่ปูนขาวลงไปคลุกให้ทั่ว
3. ใส่หม้อนึ่งให้สุก หรือจนยุ่ยพอที่จะปี้ให้ละเอียดได้ แล้วหมักในน้ำปูนขาวอีก 1 วัน
4. ใส่ตะกร้าล้างน้ำให้ขาว บีบให้แห้งสนิท ปั้นเป็นก้อนตามขนาดที่ต้องการ
5. นำก้อนข่อยมาละลายน้ำ แล้วเทลงแม่พิมพ์ซึ่งเป็นตะแกรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
6. เกลี่ยหน้าตะแกรงให้เนื้อข่อยเสมอกัน แล้วยกไปตากแดด รอจนแห้งจึงลอกกระดาษข่อยออกจากตะแกรง
7. หากต้องการทำสมุดขาว ทาด้วยแป้งเปียก ซึ่งได้จากแป้งข้าวเจ้าบดผสมน้ำปูนขาว แล้วเคี่ยวจนสุก หากต้องการทำสมุดดำ ใช้แป้งเปียกผสมเขม่าไฟหรือถ่านบดละเอียด จากนั้นนำไปตากแดดจนแห้ง นำแผ่นไม้ขนาดเท่าสมุดที่ต้องการมาทาบบนแผ่นกระดาษ แล้วพับกระดาษกลับไปกลับมาจนสุดแผ่นกระดาษ ก็จะได้สมุดข่อย
คังไคยหัตถี สมุดภาพตำราคชลักษณ์
สมุดข่อย ภูมิปัญญาของบรรพชน ไม่เพียงบันทึกเรื่องราวแต่หนหลังให้พวกเราได้เรียนรู้ แต่ยังสอดแทรกไปด้วยศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมแต่โบราณ อีกทั้งองค์ความรู้หลายแขนง ฝากฝังไว้ลงในเนื้อแห่งเยื่อไม้ ที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและควรรักษาไว้สืบไป แล้วพบกันใหม่ครับ...mata
เรียบเรียงโดย พรชัย สังเวียนวงศ์ (mata)
ขอบคุณภาพจาก
http://www.d-fogger.comwww.be2hand.com