หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ซุนวู

โพสท์โดย Siegheil HeilHitler

คลิกที่รูป เพื่อไปหน้าสารบัญ กรณีที่ท่านคลิกเข้ามาที่หน้านี้โดยตรง   

 

Enchoen27n3200.jpg

 

รูปปั้นซุนวู ที่ญี่ปุ่น

 

   ซุนวู เป็นนักการทหารและนักปกครองที่เชี่ยวชาญเป็นยอดเยี่ยมในสมัยชุนชิว เกิดเมื่อประมาณสองพันสี่ร้อยถึงห้าร้อยปีก่อนระหว่างพุทธกาล ได้รับสมญาว่าเป็นมังกรหนึ่งในสมัยนั้น 

              อันสมัยชุนชิวนั้น เป็นสมัยที่องค์จักรพรรดิเสื่อมถอยด้อยอำนาจลง ด้วยเจ้าครองนครต่าง ๆ พากันสร้างสมทหารเพื่อชิงความเป็นใหญ่ มีการรบราฆ่าฟันกันตลอดยุค เพราะฉะนั้น จึงเป็นยุคที่บ้านเมืองอลวนไปด้วยข้อพิพาทและทำศึกกัน เปิดโอกาสให้ปราชญ์ต่าง ๆ ได้ใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่ ในการแสดงความคิดเห็นตามอุดมการณ์ของตน จึงได้กำเนิดเป็นลัทธิต่าง ๆ อย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน 

              ชีวประวัติ ซุนวู ตามที่ค้นพบว่า บรรพบุรุษมีรกรากอยู่ในประเทศฉี และตระกูลเดิมมิใช่แซ่ ซุน หากแซ่ เถียน (บางแห่งว่า เฉิน) ปู่ทวดของซุนวูมีนามเดิมว่าเถียนอ๋วน สืบสายถึง เถียนอู๋หยู่ ซึ่งเป็นผู้สืบสายโลหิตชั้นที่ ๔ มีบุตร ๒ คน คือ เถียนฉาง และเถียนซู, เถียนซูเป็นเสนาอำมาตย์ผู้ใหญ่ของประเทศฉี เนื่องจากมีความชอบในการตีแคว้น จู่ ได้ชัยชนะ พระเจ้าจิ้งกงจึงพระราชทานให้แซ่ซุน และถือศักดินากินเมือง เล่ออาน เถียนซ ูหรือ ซุซู มีบุตรชื่อ ซุนเฝิง เฝิงกำเนิด ซุนวู หรือบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่เรากล่าวถึงนี้ 

              ภายหลังเนื่องด้วย เถียนเปา สี่ตระกูลก่อการจลาจล ซุนวูจึงลี้ภัยการเมืองไปพำนักยังประเทศหวู และได้เข้าทำราชการในประเทศหวูนั้น ด้วยการ ยกย่องและชักนำของ อู่หยวน (โหงวจือซือ) ซุนวูได้น้อมเกล้าถวายตำราพิชัยสงครามซึ่งตนแต่งแก่พระเจ้าเหอหลู พระเจ้าเหอหลูพอพระทัย จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพ และได้นำทัพทำการรบกับประเทศ ฉู่, ฉี, จิ้น, ซ่ง และ หลู่ได้ชัยชนะอย่างงดงาม มีกิตติศัพท์เกริกก้องกำจรกำจาย เป็นที่หวั่นเกรงของแคว้นต่าง ๆ ทั่วไป

               ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ซุนวูมิใช่ "นักละเลงขนมเบื้องด้วยปาก" วาดตัวอักษรให้เห็นทฤษฎีงาม ๆ น่าชมน่าเลื่อมใสเท่านั้น ทั้งทางปฏิบัติก็ได้ปฏิบัติการให้ประจักษ์เป็นสักขีพยานอีกด้วย 

               เมื่อซุนวูได้รับผลสำเร็จในทางทหารอย่างงดงามแล้ว เขามิได้มัวเมาลุ่มหลงในยศถาบรรดาศักดิ์และลาภสักการนั้น ๆ จนลืมตน เขาเห็นว่าพระเจ้าเหอหลูเป็นกษัตริย์ มีความหวาดระแวงเป็นเจ้าเรือน นั่นเองมีอำนาจทางทหารเช่นนี้ จะรับราชการด้วยดีโดยตลอดรอดฝั่งมิได้ ฉะนั้น จึงถวายบังคมลาออกจากราชการไปบำเพ็ญชีวิตตามป่าเขาลำเนาไพรอย่างสันโดษ 

               ตำราพิชัยสงครามซุนวู ซึ่งตกทอดมาถึงเดี๋ยวนี้มี ๑๓ บรรพด้วยกัน ได้ประมวลหลักปรัชญาการต่อสู้และทฤษฎีการปกครองไว้อย่างครบครัน หนังสือเล่มนี้เบื้องโบราณสมัยหลัง ๆ ต่อมา แม้ ขงเบ้ง, พระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ ตลอดจนนักการทหารและนักการปกครองอันมีชื่อของจีนอื่น ๆ ก็ได้ถือเป็นตำราเล่าเรียนตลอดมา ชาวโลกก็นิยมว่าเป็นแม่บทของตำราวิชาการทหารซึ่งมีอายุเก่าแก่ที่สุดเล่มหนึ่ง ถ้อยคำสำนวนเดิมสั้น, รัดกุม, แน่นแฟ้น และเป็นคำยากด้วยเป็นคำโบราณ เท่าที่ทราบกันว่าได้แปลเป็นพากย์ต่าง ๆ แล้ว มีภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, เชคโก, เยอรมัน ฯลฯ หลายภาษาด้วยกัน 



 


               ซุนวู หรือ ซุนจื่อ เป็นชาวแคว้นฉี เมื่อตำราพิสัยสงครามของเขาได้ถูกนำทูลเสนอพระเจ้าเหอหลู แห่งนครหวู (นครวูจางในปัจจุบัน) และเมื่อทรงอ่านจบได้รับสั่งแก่ซุนวูว่า

               
"ตำรา
พิชัยสงครามทั้ง ๑๓ บรรพ นั้น ข้าได้อ่านจนจบสิ้นขบวนความแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าใช้ได้ผลโดยปราศจากข้อสงสัย ขอท่านสำแดงยุทธวิธีควบคุมขบวนศึก เป็นการทดสอบจะได้หรือไม่"
               ซุนวูทูลว่า "มิอาจขัดพระทัยพระเจ้าข้า" 
               พระเจ้าเหอหลูตรัสถามว่า "จะทดสอบด้วยอิสตรีได้หรือไม่" 
               ซุนวูตอบว่า "แล้วแต่พระประสงค์พระเจ้าข้า" 
               พระเจ้าเหอหลูส่งนางสนมเอกและสนมที่โปรดปราน ๑๐๘ คน ซุนวูได้แบ่งเป็นสองกองร้อย และให้สนมเอก ๒ คน ทำหน้าที่เป็นนายกองให้ทุกคนถือง้าวเป็นอาวุธ เข้าแถวแบบทหาร ซุนวูถามด้วยเสียงเฉียบขาดหนักแน่นว่า 
               "ทุกท่านย่อมรู้ แขนซ้าย แขนขวา และหลังอยู่ที่ใด" 
               "ทราบดี" บรรดานางสนมตอบ 

               ซุนวูจึงกล่าวต่อไปว่า "เมื่อข้าพเจ้าสั่งว่าหน้าหัน ก็ขอให้ทุกคนมองตรงไปเบื้องหน้า ถ้าสั่งว่าซ้ายหันก็หันไปทางเบื้องซ้าย ถ้าสั่งว่าขวาหันก็หันไปทางเบื้องขวา และถ้าสั่งว่า กลับหลังหันก็หันกลับหลังไปทางขวามือ ท่านพอจะเข้าใจหรือไม่" 
               "เราเข้าใจ" นางสนมตอบ 

               ซุนวูปฏิบัติให้ดูและกล่าวย้ำ พร้อมกับแจ้งถึงวินัยทหาร แล้วนำขวานอาญาสิทธิ์มาตั้งบนแท่น ประกาศถึงอาญาสิทธิ์ตามวินัยทหาร จากนั้นก็สั่งให้ทหารหญิงทุกคน "ขวาหัน" 
               แต่บรรดาทหารหญิงกลับส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน 
               ซุนวูจึงกล่าวว่า "หากยังไม่เข้าใจกฎเกณฑ์แน่ชัด ระเบียบวินัยทหารยังไม่ซึมซาบ ย่อมถือเป็นความผิดของแม่ทัพ" 

               จากนั้นซุนวูก็กล่าวย้ำคำสั่งอีกสามครั้ง อธิบายอีกห้าครั้ง แล้วก็ลั่นกลองให้ทหาร "ซ้ายหัน" 
               นางสนมยังคงหัวเราะดุจสำเริงสำราญอยู่ในวังก็มิปาน 
               ซุนวูจึงกล่าวว่า "หากคำบัญชาไม่แจ้งชัด คำสั่งไม่เป็นที่เข้าใจ แม่ทัพสมควรถูกตำหนิ หากคำสั่งชัดแจ้ง การซักซ้อมและคำอธิบายแจ้งชัด แต่ไม่อาจรักษาระเบียบวินัย ความผิดย่อมตกอยู่ที่นายกอง" 
               นายกองก็คือสนมเอกสองคน "นำทั้งสองไปตัดศีรษะ" ซุนวูสั่งทหาร 
               พระเจ้าเหอหลูตกพระทัยรีบลงจากแท่นประทับ รับสั่งขอชีวิตนางสนมเอกทั้งสอง "ข้าเห็นแล้วว่า ท่านสามารถคุมทัพจัดขบวนศึกได้ดี แต่ข้าไม่อาจขาดนางสนมทั้งสองได้ ถ้าปราศจากนางข้าย่อมเหมือนกินอาหารไร้รสชาติ ขอจงระงับยั้งโทษสักครั้งเถิด" 

                 ซุนวูจึงทูลตอบว่า "ในเมื่อทรงแต่งตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นแม่ทัพ อาญาสิทธิ์ในการควบคุมแม่ทัพนายกองย่อมอยู่ที่ข้าพเจ้า พระราชโองการย่อมไม่อาจมาแปรเปลี่ยนได้" 
จึงเป็นอันว่าสนมเอกทั้งสองถูกประหารชีวิตในบัดนั้น ต่อหน้าบรรดาทหารหญิง จากนั้นซุนวูก็ให้นางสนมคนถัดมาเป็นนายกองแทน 
               เสียงกลองสัญญาณให้ทหารหญิงปฏิบัติตามคำสั่งดังรัวขึ้นอีก คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นคำสั่ง ซ้ายหัน ขวาหัน ต่างปฏิบัติตามกันเคร่งครัด

 

               ซุนวูถวายรายงานต่อพระเจ้าเหอหลูว่า "บัดนี้ ทหารหญิงได้รับการฝึกซ้อมและอยู่ในระเบียบวินัยขบวนยุทธ์แล้ว ขอพระองค์ทรงตรวจพล หากพระองค์จะรับสั่งให้ไปรบทัพจับศึก บุกน้ำลุยไฟที่ไหน เขาย่อมพร้อมปฏิบัติแม้ชีวิตจะหาไม่" 

               พระเจ้าเหอหลูตรัสว่า "ท่านแม่ทัพกลับไปพักได้แล้ว ข้ายังไม่ประสงค์จะตรวจพล" 
               ซุนวู ทูลว่า "พระองค์ทรงโปรดแต่สำนวนในตำราพิชัยสงคราม แต่ปราศจากความจริงใจในหลักยุทธศาสตร์ของตำราเล่มนี้" 

               หลังจากนั้นพระเจ้าเหอหลูก็ทรงตระหนักดีว่าซุนวูเป็นผู้ชำนาญูด้านกลยุทธ์ จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพออกเผชิญศึก นำทัพบุกยึดอาณาจักรฉู่(จิว-เมืองฌ้อ) บุกอาณาจักรฉีและอาณาจักรจิ้น, ซ่ง, หลู่ ซึ่งต่างยอมศิโรราบ และเป็นที่ครั่นคร้ามของบรรดาแคว้นน้อยใหญ่ในขณะนั้น 
              

โปรดใช้วิจาณญาณนะครับ สมัยนั้นเป็น ระับบชนชั้นวรรณะ





 เ้ข้าไปอ่าน ทั้ง 13 บทได้ที่นี้  
http://www.baanjomyut.com/library/the_art_of_war/

 

 

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Siegheil HeilHitler's profile


โพสท์โดย: Siegheil HeilHitler
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (4/5 จาก 5 คน)
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
iPhone รุ่นประหยัดมาแล้ว!เช้านี้อิสราเอลยิงขีปนาวุธ โจมตีอิหร่านแล้ววว!!เขมรอ้างศิลปะป้องกันตัว "โบกาตอ" มีมากว่า 2,000 ปีแล้ว! หลักฐานจากภาพสลักโบราณโดยบรรพบุรุษเขมร?สาวสงสัยว่าบ้าน หรือร้านขายพัดลมกันแน่..เพราะเล่นติดถึง 14 ตัวทั่วบ้าน"กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่" นั่งท้ายกระบะมาคอนเสิร์ต..ทำเอาการ์ดไม่เชื่อว่าเป็นศิลปินหญิงวัย 26 พลาด มือลื่นเข้าเครื่องบด มือเละผิดรูปชาวบ้านตาดี พบคู่รักซั่มกันในทะเล ที่ภูเก็ต (มัีคลิป)"เดชา" ชี้ ละครที่สนุกสนาน​เค้าลางใกล้จบ ต้องรอดูจนถึงตอนนั้นสงสัยพรที่เข้าไปขอ​ คือขอให้ได้อยู่นายกฯ ต่อหลานโฉด เข็นศwลุงไปกู้เงินธนาคาร
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ดีเจเพชรจ้า" น้ำตาคลอทันที หลังเจอ "อาม่า" ที่ร้านราเมง ประเทศญี่ปุ่นเขมรอ้างศิลปะป้องกันตัว "โบกาตอ" มีมากว่า 2,000 ปีแล้ว! หลักฐานจากภาพสลักโบราณโดยบรรพบุรุษเขมร?hamper: กีดกั้น ขัดขวางเช้านี้อิสราเอลยิงขีปนาวุธ โจมตีอิหร่านแล้ววว!!
ตั้งกระทู้ใหม่