โพนีเอกซ์เพรส บริการไปรษณีย์ม้าด่วนข้ามทวีป
สวัสดีครับเพื่อนๆ ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารหากันมันช่างสะดวกเหลือเกิน อยากจะคุยกันเวลาไหน ทางโทรศัพท์หรือทางอินเตอร์เนต ก็เป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ กันทุกคน แต่เมื่อกว่า 150 ปีที่แล้วมันไม่ง่ายอย่างที่คิด การส่งจดหมายเป๋นเรื่องลำบากเพราะหนทางไกล อุปสรรคต่างๆ มากมาย การรอคอยมันช่างเป็นเวลาที่แสนนาน แต่เมื่อจดหมายถึงมือผู้รับก็เป็นเวลาที่แสนจะประทับใจและจดจำไปอีกนาน วันนี้เลยอยากพาเพื่อนๆ มารู้จักการขนส่งไปรษณีย์ในอดีตให้พอได้ทราบกัน มีเพื่อนๆ คนไหนทันได้เขียนหรือรับจดหมายจากคนรักหรือคนในครอบครัวบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามีคอมเม้นท์ให้ฟังบ้างนะครับ ผมอยากอ่าน...mata
ประวัติ
โพนีเอกซ์เพรส (Pony Express) คือบริการไปรษณีย์ม้าด่วนข้ามทวีปอเมริกาเหนือจากเซนต์โยเซฟ มิสซูรีไปซาคราเมนโต แคลิฟอร์เนียระหว่างเดือนเมษายน พ.ศ. 2403 - พ.ศ. 2404 โดยใช้วิธีส่งเอกสารข้อความโดยการบรรทุกหลังม้าแล้วขี่ผลัดไปตามเส้นทางที่ราบทุ่งหญ้า ทะเลทราย และภูเขาตอนกลางของ อเมริกาตะวันตก บริการนี้ช่วยร่นเวลาการจัดส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ที่เคยส่งจากชายฝั่งแอตแลนติกไปยังฝั่งแปซิฟิกลงเหลือเพียง 10 วัน
จากการเดินทางที่ง่ายและสะดวกกว่าด้วยการขี่ม้าเมื่อเทียบกับการใช้รถสเตทโคชเทียมม้า ทำให้ผู้ริเริ่มการให้บริการโพนีเอกซ์เพรสคาดหวังว่าจะสามารถชนะและได้รับสัญญาจ้างงานจัดส่งไปษณีย์ภัณฑ์ของรัฐบาลมาไว้ในมือได้
บริการโพนีเอกซ์เพรสได้แสดงให้เห็นได้ว่าการควบรวมระบบบริการข้ามทวีปไว้ด้วยกันมีความเป็นไปได้ และจะทำให้การให้บริการทำได้ต่อเนื่องกันตลอดปี ซึ่งแต่ก่อนถือกันว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ดี โทรเลขข้ามทวีปที่ขึ้นและเข้ามาทดแทน ทำให้การให้บริการโพนีเอกซ์เพรสก้าวเข้าสู่ยุคโรมานซ์ของตำนาน "อเมริกันตะวันตก" (American West) กลายเป็นบริการที่ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญอดทนของผู้ขี่ม้าเป็นรายบุคคลที่ต้องต่อสู้กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและรวมทั้งการกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน "ลูกผู้ชายอเมริกัน"
เส้นทาง
เส้นทางโพนีเอกซ์เพรสผ่านไปตามเส้นทางออริกอน เส้นทางมอร์มอน และเส้นทางแคลิฟอร์เนีย หลังจากข้ามแม่น้ำมิสซูรีที่เซนต์โยเซฟที่ไปแคนซัสจะไปตามเส้นทางของทางหลวงสาย ยูเอส 36 ในปัจจุบัน ที่มีชื่อปัจจุบันว่า "ทางหลวงโพนีเอกซ์เพรส" จากนั้นก็มุ่งสู่แมรีส์วิลล์ แคนซัส และเลี้ยวขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือไปตามแม่น้ำบลูริเวอร์
แผนที่เส้นทางโพนีเอกซ์เพรสจากการอุทยานแห่ง
เส้นทางโพนีเอกซ์เพรสช่วงผ่านรัฐยูทา
เที่ยวแรก
การขี่ม้าเดินทางเที่ยวแรกกำหนดออกจากซานฟรานซิสโกและและเซนต์โยเซฟพร้อมๆ กันในวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2404 การเริ่มของเที่ยวสายตะวันตกได้รับการประโคมข่าวมากกว่าเที่ยวตะวันออกแต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีภาพถ่ายของการรเริ่มออกเดินทางครั้งปฐมฤกษ์ของทั้งสองเที่ยวดังกล่าวและเชื่อกันว่าไม่ได้มีการถ่ายรูปโอกาสนี้ไว้
คนขี่ม้าของ Pony Express ปี ค.ศ.1860-1861 ซ้าย Billy Richardson ขวา Johny Frye
รูปจาก http://www.wyomingtalesandtrails.com
แฟรงค์ อี. เวบเบอร์ คนขี่โพนีเอกซ์เพรส ประมาณ ค.ศ.1862
จุดเริ่มต้นของ Pony Express เริ่มที่เมืองเซนต์โจเซฟ, รัฐมิสซูรีทางฝั่งตะวันออก เพื่อไปยังซานฟรานซิสโกฝั่งตะวันตกให้ได้ภายใน 10 -12 วัน จุดเริ่มต้นเป็นจุดสุดท้ายที่ระบบส่งโทรเลขไปถึง ผ่านป่าเขาไปตลอด โดยจะมีม้าให้เปลี่ยนทุกๆ 10-15 ไมล์ เปลี่ยนคนขี่ทุกๆ 75-100 ไมล์การเดินทางหนึ่งเที่ยว จะใช้ม้า 75 ตัว การเดินทางครั้งแรกเริ่มวันที่ 3 เมษายน 1860 โดยคนขี่ชื่อ J.W. "Billy" Richardson (Johnson William Richardson) เส้นทางส่งเมล์จะผ่าน Fort Kearney, Laramie, Bridger ผ่านไปยัง Great Salt-Lake City, Camp Floyd, Carson City, the Washoe silver mines, Placerville และ Sacramento
คนขี่ม้าส่งเมล์เที่ยวประวัติศาสตร์ถึง Salt Lake City, Utah ในวันที่ 9 เมษายน เวลา 6.45 น. และไปถึงซานฟรานซิสโกในวันที่ 14 เมษายน 1860 เป็นเวลา 11 วัน การส่งที่เร็วที่สุดคือการส่งคำปราศรัยของประธานาธิบดี Lincoln ใช้เวลา 7 วันกับ 17 ชั่วโมง
คนส่งที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ชื่อ Robert "Pony Bob" Haslam ส่งข่าวการเลือกตั้งลินคอล์น โดยการขี่ม้า 120 ไมล์ใน 8 ชั่วโมง 10 นาที ใช้ม้า 13 ตัว ช่วงหนึ่งระหว่างทางเขาถูกธนูของพวกอินเดียนแดงยิงทะลุขากรรไกร จนฟันหลุด 3 ซี่
การปิดตัว
แม้ว่าบริการของโพนีเอกซ์เพรสพิสูจน์ได้ว่าเส้นทางภาคกลางตอนเหนือมีกำไรและอยู่ได้ แต่รัสเซลล์ เมเจอร์และแวดเดิลกลับไม่ได้รับสัญญาจ้างในเส้นทางนั้น การจ้างกลับไปตกอยู่กับบริษัทโฮลลาเดย์ของเจเรมี ดีฮุต ผู้รับโอนกิจการจากบริษัทบัทเตอร์ฟิลด์สเตทในปี พ.ศ. 2404 และได้มารับช่วงสถานีม้าไปรษณีย์ของรัสเซลล์ เมเจอร์และแวดเดิลและใช้เป็นสถานีเสตทโคชของตน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2404 โพนีเอกซ์เพรสให้บริการจัดส่งไปรษณีย์เฉพาะเส้นทางระหว่างซอล์ทเลกซิตีกับซาคราเมนโต โพนีเอกซ์เพรสประกาศปิดตัวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2404 เพียงสองวันหลังจากโทรเลขข้ามทวีปเปิดบริการถึงเมืองซอลท์เลก
โพนีเอกซ์เพรสมีรายได้เพียง 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ขาดทุนถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังสงครามกลางเมืองเลิกในปี พ.ศ. 2409 โฮลลาเดย์ขายโพนีเอกซเพรสและทรัพย์สินต่างๆ ให้กับบริษัทเวลส์ฟาร์โก เป็นเงินถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทเวลส์ฟาร์โกใช้สัญลักษ์โพนีเอกซ์เพรสในหน่วยรักษาความปลอดภัยและรถนิรภัยที่รับซื้อกิจการรักษาความปลอดภัยนี้มาจนถึงประมาณ พ.ศ. 2538 และเลิกใช้ทั้งหมดในปี พ.ศ. 2544
อนุสาวรีย์โพนีเอกซ์เพรส ที่เซนต์โยเซฟ รัฐมิสซูรี
ที่ทำการใหญ่ที่ "พาทีเฮาส์" ในเมืองเซนต์โยเซฟ มิสซูรี
สแตมป์ราคา 25 เซนต์ที่พิมพ์โดยบริษัทเวลส์ฟาร์โกถูกยกเลิกในเวอร์จิเนียซิตี เนวาดาและนำกลับมาใช้ใหม่ในการให้บริการโพนีเอกซ์เพรสที่ให้บริการระหว่างเวอร์จิเนียซิตีกับซาคราเมนโตที่เริ่มบริการเมื่อ พ.ศ. 2405
บริการไปรษณีย์ที่ใช้สัญลักษณ์โพนีเอกซ์เพรสก่อน พ.ศ. 2513 ไม่ได้เกิดจากแรงดลใจของโพนีเอกซ์เพรสอย่างที่เข้าใจกัน
แล้วรอพบกับบทความ "จากไปรษณีย์ม้าด่วน Pony Express มาเป็น รหัสมอร์ส" เร็วๆ นี้