สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ อีกมุมหนึ่งที่อยากให้อ่าน ตอน 3
ปริศนาธรรม จากพระสมเด็จฯ
สำหรับพระสมเด็จที่ท่านสร้างขึ้นนั้น มีนัยยะแห่งรูปลักษณะที่ลึกซึ้งดังนี้
๑. รูปสี่เหลี่ยมด้านไม่เท่า หมายถึง พื้นแผ่นดินที่ทรงพระอริยสัจอยู่
๒. วงโค้งในรูปสี่เหลี่ยม หมายถึง อวิชชาที่คลุมพิภพอยู่
๓. รูปสามเหลี่ยมในวงโค้ง หมายถึง พระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผู้พบอริยสัจ
๔. รูปพระนั่งขัดสมาธิบนบัลลังก์ หมายถึง พระพุทธเจ้าปางตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ โพธิบัลลังก์
๕. ฐานสามชั้น หมายถึงพระไตรปิฎก
๖. ฐาน ๗ ชั้น หมายถึง อปริหานิยธรรม
๗. ฐาน ๙ ชั้น หมายถึง มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑
พุทธศิลป์ที่ท่านสร้าง พระพิมพ์ใหญ่ทรงประธาน เลียนพุทธศิลปะสมัยสุโขทัย ทรงเจดีย์ เลียนพุทธศิลปะสมัยเชียงแสน ทรงหูยาน อกร่อง เลียนพุทธศิลปะสมัยอู่ทอง ครั้งหนึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ ทรงถามท่านถึงเหตุที่ล่ำลือกันมากว่าพระพิมพ์ของท่านศักดิ์สิทธิ์ ท่านถวายพระพรว่าเพราะท่านบริกรรมด้วย “ชินปญฺชรคาถา”หรือพระคาถาชินบัญชรนั้นเอง
ต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕ สมเด็จโตท่านไปดูการก่อสร้างหลวงพ่อโต ที่วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม แล้วเกิดอาพาธด้วยโรคชรา และถึงแก่มรณภาพ ณ เวลา ๒ ยาม วันเสาร์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ (ต้น)ปีวอก จ.ศ.๑๒๓๔ ตรงกับวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๑๕
หลังมรณะภาพ
ตัวอย่างคำเทศนาของเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิต หลังจากที่ล่วงลับไปแล้วเมื่อ100 กว่าปี ความว่า
"บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า
ลูกเอ๋ย ก่อนจะไปเที่ยวขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง
คือ บารมีของตนลงทุนไปก่อน
เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่วย
มิฉะนั้น เจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนล้นพ้นตัว
เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมดไม่มีอะไรเหลือติดตัว
แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า
หมั่นสร้างบารมีไว้แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง
จงจำไว้นะเมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้
ครั้นถึงเวลาทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่
จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน
เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า... "
ที่วัดอัมพวัน มีวิหารอยู่ทางทิศใต้ของโรงอุโบสถ ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ปางอุ้มบาตรพรมน้ำพระพุทธมนต์ ผู้สร้างถวายคือ คุณเส็ง คุณผ่องศรี ใจบุญ ได้นำมาถวายวัดอัมพวันเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ พร้อมกับ หลวงปู่แสง เมื่อนำมาถวายยังไม่วิหาร ได้อัญเชิญท่านเจ้าคุณสมเด็จฯ ไว้ในโรงอุโบสถ และหลวงปู่แสงประดิษฐานอยู่ที่ศาลาปฏิบัติกรรมฐาน
อยู่ต่อมาประมาณ ๑ เดือน มีคนข้างวัดมาบอกว่า สมเด็จฯโต ท่านอยากมาอยู่ข้างนอก อาตมาก็รับทราบไว้ ต่อมามีคนจากนครราชสีมาถามหาสมภารวัดอัมพวัน มาถึงก็มากราบ ถามว่า “ท่านเป็นสมภารใช่ไหม? สมเด็จฯโตให้มาบอกว่าท่านไม่อยากอยู่ในโบสถ์ ข้ามหัวไปข้ามหัวมา จุ้นจ้านกันมากเหลือเกิน ช่วยสร้างวิหารให้ที
อาตมาก็ยังไม่ยอมเชื่อ ต่อมาอาจารย์วิทยาลัยครูนครสวรรค์ ฝันมาบอกว่า “ท่านสมเด็จฯ โตให้มาบอกสมภารว่าช่วยสร้างวิหารให้ที”
ในฝันอาจารย์คนนั้นก็ถามว่า “ท่านเจ้าคุณสมเด็จฯ ทำไมไม่ไปบอกท่านเอง” ท่านบอก
"ไม่ขลัง ต้องให้คนอื่นบอกถึงจะขลัง เพราะสมภารองค์นี้ทิฐิสูง”
คติธรรม
ปราชญ์แท้ ไม่คุยฟุ้งอวดตน
คนดี ไม่เที่ยวยกสอพลอ
คนเก่ง ย่อมทะนงอย่างเงียบ
คนชั่ว อวดรู้ดีทั่วภพ
คนโง่ อวดฉลาดมากมาย
สิ่งทั้งหลายท่านเห็นมีทุกที่เอย
สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
ภาพนี้เป็นรูปสมเด็จโตฯ ถ่ายตอนแสดงพระธรรมเทศนา ปี ๒๔๑๕ ก่อนที่ภาพนี้จะแพร่หลายนั้น ในราวปี ๒๔๗๑ เล่าว่าภาพนี้ลอยน้ำมาปะทะเข้ากับพระภิกษุรูปหนึ่งที่กำลังสรงน้ำอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้าวัดระฆังฯ จึงมีมหกรรมฉลองกันที่วัด
ปฏิบท รวบรวม
ขอบคุณภาพประกอบ http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7739, http://www.luangputo.com/forum/index.php?topic=18.0
ที่มา: http://www.moomkafae.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=182658&Ntype=4