สยอง! เมียเสียสติ ฆ่าหั่นศพผัวพิการยัดกระเป๋าเดินทาง
ภรรยามีอาการทางประสาท จับสามีซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ฆ่าหั่นศพภายในอพาร์ตเมนต์ย่านบางขุนนนท์ พบอุปการณ์เสพยาไอซ์ และเครื่องบูชายัญ ล่าสุด จับตัวภรรยาผู่ก่อเหตุได้แล้ว แต่ยังให้การวกวน
(7 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งพบชิ้นส่วนถูกฆ่าหั่นศพ ที่ ธิติวงศ์อพาร์ตเมนต์ เลขที่ 116/112 ซ.บางขุนนนท์ 12 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม.
ที่เกิด เหตุเป็นอพาร์ตเมนต์หรู ที่บริเวณชั้น 2 หน้าลิฟต์ ด้านหลังติดคลองบางกอกน้อย พบกระเป๋าเดินทางสีดำ 1 ใบ เปิดออกมาพบถุงพลาสติกสีดำลายการ์ตูน พอเปิดออกมาอีกชั้นเป็นผ้านวมสีชมพูลายการ์ตูน ห่อชิ้นส่วนศพเป็นชายทราบชื่อ นายประสิทธิ์ ศรีสมบุญญานนท์ อายุ 47 ปี ในสภาพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่พบศีรษะ ส่วนมือ และเท้าถูกมัดไว้ด้วยกันด้วยเชือกฟางสีเหลือง โดยถูกตัดข้อมือทั้งสองข้าง และชิ้นส่วนเท้าด้านขวาถูกตัดจากข้อเท้าหายไป 1 ข้าง จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ห้องเกิดเหตุเลขที่ 714 ชั้น 7 ทราบชื่อเจ้าของห้อง น.ส.พรสุรีย์ ดีแผ่ว อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของห้องดังกล่าว ส่วนชิ้นส่วนศพที่พบเป็นสามีของ น.ส.พรสุรีย์
จาก การสอบสวน นายสายัญ นวลพยา อายุ 52 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยภายในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.พรสุรีย์ ได้แจ้งขอย้ายออกแล้วได้เรียกตนไปบอกว่า ช่วยขนของที่ตนไม่ใช้จำนวนหลายอย่าง รวมถึงกระเป๋าเดินทางใบสีดำที่พบชิ้นส่วนศพดังกล่าวไปบริจาค หรือให้ใครก็ได้ ตนจึงได้ย้ายลงมาไว้ที่ชั้น 2 ของอาคารใกล้กับลิฟต์ที่เป็นจุดคัดแยกขยะ เนื่องจากกระเป๋าใบดังกล่าวมีลักษณะใหญ่ และมีน้ำหนักไปทิ้งลงในช่องไม่ได้ จึงเปิดกระเป๋าดูก็พบเป็นชิ้นส่วนศพดังกล่าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เมื่อ ตรวจสอบภายในห้องพัก พบคราบเลือดกระจายจำนวนหนึ่งจุดบนหัวเตียง และพระพุทธรูปที่ไว้กราบไหว้จำนวนหลายองค์พร้อมธูปเทียน และพานคล้ายการไหว้บูชายัญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังพบการเขียนเป็นรูปยันต์ไว้ที่ประตูห้องนอนอีก และยังมีชุดขาวชีพราหมณ์ตกอยู่ภายในห้อง มีอัลบั้มรูปภาพของ น.ส.พรสุรีย์ สมัยยังสาวๆ อยู่ อีกทั้งพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนายกิตติ พงศ์ สำเภา อายุ 28 ปี นักศึกษาพักอยู่ห้องเลขที่ 703 ให้การว่า เคยเห็นผู้ตายมานั่งอยู่เฉยๆ ฝั่งตรงข้ามหน้าห้องช่วงประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรุ่นน้องในอาคารดังกล่าวเคยเล่าให้ฟังว่า ภรรยาผู้ตายมักจะทำร้ายตบตี และลงมือซ้อมผู้ตายเป็นประจำ และยังเคยมีลากไปไว้ชั้น 5 หน้าลิฟต์ เนื่องจากพักหลังผู้ตายเริ่มเป็นอัมพฤกษ์ แล้วเอาถาดข้าวไปวางไว้ให้กิน จึงคาดว่าภรรยาผู้ตายน่าจะมีอาการทางประสาท มักได้ยินว่ามีเรื่องทะเลาะตบตีผู้ตายเป็นประจำ
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรืออัมพฤกษ์ ส่วนน.ส.พรสุรีย์ ดีแผ่ว ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายเอง ซึ่งขณะนี้ถูกจับกุมตัวไปสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 แล้ว ขณะนี้ยังให้การวกวนคล้ายคนเสียสติจับใจความไม่ได้ เจ้าหน้าที่จะต้องให้แพทย์ทำการตรวจเสียก่อนว่ามีอาการทางประสาทหรือไม่ เพื่อเร่งหาสาเหตุการสังหารต่อไป